กรดไมริสติก ทำอะไรได้บ้าง มาดูกันเลยยยย
กรดไมริสติก (myristic acid) เป็นกรดไขมัน (fatty acid) ชนิดกรดไขมันอิ่มตัว (saturated fatty acid) มีจำนวนคาร์บอน ในโมเลกุลเท่ากับ 14 (C 14: 0) กรดไมริสติก (อังกฤษ: myristic acid) หรือ กรดเททราเดคาโนอิก (tetradecanoic acid) เป็นกรดไขมันอิ่มตัวที่ได้จากเนยจันทน์เทศ (Myristica fragrans) ซึ่งพบไตรไมริสทิน (trimyristin) สารไตรกลีเซอไรด์ของกรดไมริสติก 75% นอกจากนี้ยังพบในน้ำมันเมล็ดในปาล์ม น้ำมันมะพร้าว ไขมันเนย ไขวาฬและเหง้าของพืชสกุล Iris
กรดไมริสติก พบได้ในน้ำมันพืช (vegetable oil) โดยพบมากในน้ำมันมะพร้าว (coconut oil) และน้ำมันจากเนื้อปาล์ม (palm kernel oil) เป็นกรดไขมันอิ่มตัวที่พบได้ในธรรมชาติ มีบทบาทสำคัญทั้งในกระบวนการเผาผลาญของร่างกายและการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ กรดไขมันชนิดนี้มักพบในไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ และมีประโยชน์ทั้งในด้านอาหาร เครื่องสำอาง และยา บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับกรดไมริสติกอย่างละเอียด
1.คุณสมบัติของกรดไมริสติก
- สูตรเคมี: C₁₄H₂₈O₂
- มวลโมเลกุล: 228.37 g/mol
- โครงสร้าง: เป็นกรดไขมันอิ่มตัวที่มีโซ่คาร์บอนยาว 14 อะตอม
- จุดหลอมเหลว: ประมาณ 54.4 °C
- ลักษณะ: มีสถานะเป็นของแข็งสีขาวหรือเหลืองอ่อนที่อุณหภูมิห้อง ละลายในตัวทำละลายอินทรีย์ เช่น แอลกอฮอล์ และน้ำมัน
2.ประโยชน์และการนำไปใช้
เป็นสารที่ ช่วยทำให้เกิดการรมตัวกันของสารอื่นๆ ในสูตรส่วนผสม
เป็นสารลดเเรงตึงผิว และ เป็นสารหล่อลื่น ในผลิตภัณฑ์
กรดไมริสติก มีชื่อทางเคมีว่า Tetradecanoic acid เป็นไขมันอิ่มตัวที่ได้จาก พืชตระกลู มะพร้าว และ ปาล์ม นิยมใช้ในอุตหกรรม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น สบู่, Cleaning เป็นต้น
ประเภทของสาร : เป็น สารลดแรงตึงผิว (Surfactant) สารหล่อลื่น (Lubricant) และ อิมัลซิไฟเออร์ (Emulsion)
คุณสมบัติ : ใช้ในส่วนผสมที่ต้องการให้สารรวมตัวกันได้ ดีขึ้น
คุณลักษณะ : ผงสีขาว
ใช้สำหรับ : ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวได้ เช่น เครื่องสำอาง สบู่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว Cleaning เป็นต้น
3.แหล่งที่พบ
กรดไมริสติกพบได้ในแหล่งธรรมชาติหลายประเภท ได้แก่
-น้ำมันพืชและไขมันจากสัตว์
- น้ำมันมะพร้าว (~18%)
- น้ำมันปาล์ม (~1%)
- น้ำมันเมล็ดฝ้าย
- น้ำมันถั่วแมคคาเดเมีย
-ผลิตภัณฑ์จากสัตว์
- นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนย (~8-14%)
- ไขมันจากสัตว์ เช่น ไขมันวัว และไขมันหมู
-แหล่งธรรมชาติอื่น ๆ
- ลูกจันทน์เทศ (Nutmeg) เป็นแหล่งของกรดไมริสติกที่สำคัญ
4.ประโยชน์และการนำไปใช้
>>ในอุตสาหกรรมอาหาร<<
- กรดไมริสติกมักถูกใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเป็นส่วนประกอบของไขมันที่ช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสและความคงตัวของผลิตภัณฑ์ เช่น เนยเทียม วิปครีม และช็อกโกแลต
- ช่วยเพิ่มความเข้มข้นของรสชาติ และเป็นสารช่วยกระจายตัวของน้ำมันในผลิตภัณฑ์บางชนิด
บทบาทของกรดไมริสติกในอุตสาหกรรมอาหาร
กรดไมริสติก (Myristic Acid) เป็นกรดไขมันอิ่มตัวที่พบได้ในไขมันจากพืชและสัตว์ มีความสำคัญอย่างมากในอุตสาหกรรมอาหาร เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยเสริมเนื้อสัมผัส ความคงตัว และรสชาติของอาหารบางประเภท นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการปรับสมดุลของไขมันและช่วยในการดูดซึมสารอาหาร
คุณสมบัติที่สำคัญในอุตสาหกรรมอาหาร
กรดไมริสติกมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ในอุตสาหกรรมอาหาร ได้แก่
1.เพิ่มความคงตัวของไขมัน
- ช่วยเพิ่มความเสถียรของไขมันและน้ำมันในอาหาร ทำให้ผลิตภัณฑ์มีอายุการเก็บรักษานานขึ้น
- ช่วยให้ไขมันในอาหารไม่แยกตัวออกจากกัน เช่น ในผลิตภัณฑ์เนยเทียมและครีมเทียม
2.ช่วยให้เนื้อสัมผัสดีขึ้น
- ใช้เป็นสารทำให้ข้นในผลิตภัณฑ์ เช่น ซอส ครีม และไอศกรีม
- เพิ่มความนุ่มลื่นของเนื้อสัมผัสในผลิตภัณฑ์เบเกอรี่
3.เป็นตัวพา (Carrier) ของสารแต่งกลิ่นและรส
- กรดไมริสติกสามารถจับและละลายสารแต่งกลิ่นและรส ทำให้สามารถกระจายตัวได้ดีในผลิตภัณฑ์อาหาร
4.เป็นแหล่งพลังงานในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
- ใช้เป็นส่วนหนึ่งของไขมันที่ช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างรวดเร็ว
- พบในผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับนักกีฬาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
แหล่งของกรดไมริสติกในอาหาร
กรดไมริสติกพบได้ในอาหารตามธรรมชาติ โดยเฉพาะไขมันจากพืชและสัตว์ ได้แก่
1.น้ำมันจากพืช
- น้ำมันมะพร้าว (~18%)
- น้ำมันเมล็ดปาล์ม (~1%)
- น้ำมันถั่วแมคคาเดเมีย
2.ผลิตภัณฑ์จากนมและไขมันสัตว์
- เนย (~8-14%)
- นมและครีม
- ไขมันหมูและไขมันเนื้อวัว
3.อาหารแปรรูปที่มีไขมันสูง
- ช็อกโกแลตและขนมอบ
- วิปครีมและครีมเทียม
- อาหารทอดบางชนิด
การใช้งานในอุตสาหกรรมอาหาร
กรดไมริสติกถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารในหลายรูปแบบ เช่น
1.เนยเทียมและครีมเทียม (Margarine & Creamer)
- ทำให้เนยเทียมและครีมเทียมมีความคงตัวและไม่ละลายเร็วเกินไป
- เพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสที่นุ่มลื่น
2.เบเกอรี่และขนมอบ
- ช่วยเพิ่มความนุ่มและความคงตัวของขนมปัง คุกกี้ และเค้ก
- ทำให้เนื้อสัมผัสของขนมไม่แข็งเกินไปและมีรสชาติดีขึ้น
3.ไอศกรีมและของหวานแช่แข็ง
- ป้องกันการเกิดผลึกน้ำแข็งขนาดใหญ่ ทำให้ไอศกรีมเนื้อเนียนและละลายช้า
- เพิ่มความคงตัวของไขมันในผลิตภัณฑ์ไอศกรีม
4.อาหารทอดและขนมขบเคี้ยว
- ใช้ในน้ำมันทอดเพื่อเพิ่มความเสถียรของไขมันและป้องกันการเหม็นหืน
- ใช้ในมันฝรั่งทอดและขนมขบเคี้ยวเพื่อเพิ่มรสชาติและความกรอบ
ข้อดีและข้อควรระวัง
✅ ข้อดีของกรดไมริสติกในอุตสาหกรรมอาหาร
-ช่วยเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสของอาหาร
-ทำให้ผลิตภัณฑ์มีอายุการเก็บรักษานานขึ้น
-ป้องกันการแยกตัวของไขมัน
-มีบทบาทในการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย
⚠️ ข้อควรระวังในการบริโภค
-การบริโภคกรดไมริสติกในปริมาณมากอาจเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
-อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจหากบริโภคจากแหล่งที่ไม่ดี เช่น อาหารแปรรูปและอาหารทอด
-ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมโดยเลือกจากแหล่งที่ดี เช่น น้ำมันมะพร้าวแทนน้ำมันที่ผ่านการเติมไฮโดรเจน
>>ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว<<
กรดไมริสติก (Myristic Acid) เป็นกรดไขมันอิ่มตัวที่พบในธรรมชาติ ซึ่งถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ช่วยทำความสะอาด ให้ความชุ่มชื้น และเพิ่มเนื้อสัมผัสให้กับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
- ใช้เป็นสารเพิ่มความชุ่มชื้นและเป็นตัวทำละลายในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
- เป็นส่วนประกอบในสบู่ ครีม โลชั่น และแชมพู เพื่อให้เกิดฟองและเพิ่มความนุ่มลื่น
- ใช้เป็นสารทำให้ผิวนุ่มในเครื่องสำอางบางชนิด
คุณสมบัติที่สำคัญของกรดไมริสติกในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
1.เป็นสารลดแรงตึงผิว (Surfactant) และสารทำให้เกิดฟอง (Foaming Agent)
- กรดไมริสติกช่วยให้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น สบู่และแชมพู สามารถเกิดฟองได้ดีขึ้น
- ฟองที่ได้มีความละเอียดนุ่ม ช่วยให้การล้างหน้าและอาบน้ำเป็นประสบการณ์ที่ดีขึ้น
2.ช่วยให้เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์เนียนนุ่ม (Emulsifier & Thickener)
- ช่วยเพิ่มความหนืดของครีม โลชั่น และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ทำให้ซึมซาบสู่ผิวได้ดีขึ้น
- ทำให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมีเนื้อสัมผัสที่หรูหราและน่าใช้
3.ช่วยบำรุงผิว (Emollient & Moisturizing Agent)
- เป็นสารช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ช่วยรักษาสมดุลของน้ำในผิว
- เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสภาพอากาศแห้ง หรือผิวที่ต้องการการบำรุงพิเศษ
4.เป็นตัวทำละลายสำหรับสารออกฤทธิ์ในเครื่องสำอาง (Solvent & Carrier)
- ช่วยให้สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ เช่น วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
- ช่วยกระจายสารสำคัญให้สม่ำเสมอในเนื้อครีม
การใช้งานในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าและร่างกาย
✅ สบู่และโฟมล้างหน้า
- กรดไมริสติกเป็นสารทำความสะอาดที่ช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกจากผิว
- ให้ความรู้สึกสะอาดสดชื่น โดยไม่ทำให้ผิวแห้งเกินไป
✅ แชมพูและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผม
- ช่วยเพิ่มฟอง ทำให้แชมพูสามารถกระจายตัวได้ดีและทำความสะอาดเส้นผมอย่างอ่อนโยน
- ลดความระคายเคืองของสารลดแรงตึงผิวชนิดอื่น ทำให้แชมพูอ่อนโยนขึ้น
✅ คลีนซิ่งออยล์และคลีนซิ่งโฟม
- ใช้เป็นตัวช่วยละลายเครื่องสำอางและน้ำมันบนผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยให้ผิวสะอาดหมดจด โดยไม่ทำให้แห้งตึง
- ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอาง
✅ ครีมและโลชั่นบำรุงผิว
- กรดไมริสติกช่วยให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้นและให้ความชุ่มชื้นยาวนาน
- เพิ่มเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มและไม่เหนียวเหนอะหนะ
✅ รองพื้นและเครื่องสำอางประเภทครีม
- ใช้เป็นส่วนผสมในรองพื้นและบีบีครีม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่ายและติดทน
- ช่วยให้เครื่องสำอางดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ดี โดยไม่เป็นคราบ
✅ ลิปสติกและผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปาก
- ทำให้ลิปสติกมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มและติดทนนานขึ้น
- ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นและไม่แห้งลอก
- ผลิตภัณฑ์กันแดด
✅ ครีมกันแดดแบบกันน้ำ (Water-Resistant Sunscreen)
- กรดไมริสติกช่วยให้ครีมกันแดดสามารถกันน้ำและเหงื่อได้ดีขึ้น
- ป้องกันการแยกตัวของส่วนผสมในครีมกันแดด ทำให้ประสิทธิภาพของสารกันแดดคงที่
✅ ครีมกันแดดที่ให้ความชุ่มชื้น
- ช่วยให้ผลิตภัณฑ์กันแดดมีความนุ่มลื่นและให้ความชุ่มชื้นกับผิว
ข้อดีและข้อควรระวัง
- ✅ ข้อดีของกรดไมริสติกในเครื่องสำอาง
- ✔️ ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก
✔️ เพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยให้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทำงานได้ดีขึ้น
✔️ เพิ่มความคงตัวและเนื้อสัมผัสที่ดีให้กับครีมและโลชั่น
✔️ ปลอดภัยต่อผิวในระดับที่เหมาะสม - ⚠️ ข้อควรระวัง
- ⚠️ อาจทำให้ผิวแห้ง – หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไมริสติกในปริมาณสูง อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและแห้งตึง
⚠️ อาจระคายเคืองในบางกรณี – ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรทดลองใช้กับบริเวณเล็ก ๆ ก่อน
⚠️ ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม – อุตสาหกรรมเครื่องสำอางมักใช้กรดไมริสติกในความเข้มข้นที่ปลอดภัย หากใช้มากเกินไปอาจทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
>> ในอุตสาหกรรมยา <<
กรดไมริสติก (Myristic Acid) เป็นกรดไขมันอิ่มตัวที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมยา เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ช่วยในการนำส่งยา เพิ่มการดูดซึมของสารออกฤทธิ์ และทำให้ยาอยู่ในรูปแบบที่เสถียรขึ้น โดยเฉพาะในยาประเภทแคปซูล ครีม และขี้ผึ้ง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับบทบาทของกรดไมริสติกในอุตสาหกรรมยาอย่างละเอียด
- ใช้เป็นตัวพา (Carrier) สำหรับตัวยาในครีมและขี้ผึ้ง
- มีส่วนช่วยในการดูดซึมสาระสำคัญเข้าสู่ร่างกาย
คุณสมบัติของกรดไมริสติกที่เป็นประโยชน์ในอุตสาหกรรมยา
1.ช่วยนำส่งยาเข้าสู่ร่างกาย (Drug Delivery System)
- กรดไมริสติกช่วยเพิ่มความสามารถของยาในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
- ช่วยให้ยาละลายได้ดีขึ้น โดยเฉพาะยาในรูปแบบเม็ดหรือแคปซูล
2.เพิ่มการดูดซึมของสารออกฤทธิ์
- ใช้เป็นตัวช่วยดูดซึมของยา เพื่อให้ร่างกายนำสารสำคัญไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- โดยเฉพาะในยาที่ต้องการซึมเข้าสู่ผิวหนังหรือทางเดินอาหาร
3.ทำให้ยาอยู่ในรูปแบบที่เสถียร (Stabilizer & Emulsifier)
- ป้องกันการแยกตัวของสารประกอบในตัวยา
- เพิ่มอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ยา
4.ทำให้ยาในรูปแบบครีมหรือขี้ผึ้งซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
- กรดไมริสติกทำหน้าที่เป็น สารช่วยนำส่งยา (Penetration Enhancer) ในยาใช้ภายนอก
- ช่วยให้สารออกฤทธิ์ซึมเข้าสู่ผิวหนังได้เร็วขึ้น
การใช้งานของกรดไมริสติกในอุตสาหกรรมยา
- ยาในรูปแบบแคปซูลและยาเม็ด
✅ ใช้เป็นสารเคลือบเม็ดยา (Tablet Coating Agent)
- ช่วยให้ยาไม่แตกตัวก่อนถึงจุดหมายในร่างกาย
- ป้องกันการเสื่อมสภาพของยาจากอากาศและความชื้น
✅ ใช้ในแคปซูลนิ่ม (Soft Gel Capsules) และยาเม็ดที่ต้องดูดซึมเร็ว
- กรดไมริสติกช่วยให้ยาในแคปซูลดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายขึ้น
- ใช้เป็นส่วนประกอบในแคปซูลน้ำมันปลา และวิตามินบางชนิด
✅ ช่วยเพิ่มการละลายของยาที่ไม่ละลายน้ำได้ดี (Solubility Enhancer)
- ยาบางชนิดมีปัญหาในการละลายในน้ำ กรดไมริสติกช่วยให้ยาสามารถละลายและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น
- ยาใช้ภายนอก (Topical Medications)
✅ ครีมและขี้ผึ้งรักษาผิวหนัง (Ointments & Creams)
- กรดไมริสติกทำให้ครีมและขี้ผึ้งมีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้นและซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย
- ช่วยให้สารออกฤทธิ์แทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังได้เร็วขึ้น เช่น ในยารักษาโรคผิวหนัง
✅ ยาทาผิวหนังที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ (Steroid Creams)
- ช่วยให้ยาออกฤทธิ์ได้เร็วขึ้นและดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดอาการแพ้และการระคายเคืองของผิวหนัง
✅ ผลิตภัณฑ์รักษาสิวและสารลดความมัน (Acne Treatment Products)
- พบในครีมและโฟมล้างหน้าที่ช่วยควบคุมความมัน
- ใช้ร่วมกับสารออกฤทธิ์ในการรักษาสิว เช่น กรดซาลิไซลิก
ตัวอย่างยาและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มีกรดไมริสติก
1.ยาลดไขมันและวิตามิน
- ใช้ในอาหารเสริม เช่น น้ำมันปลา และวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามิน A, D, E, K
2.ยาภายนอกสำหรับรักษาโรคผิวหนัง
- ครีมรักษาอาการอักเสบของผิว
- ยารักษาสิวที่มีสารควบคุมความมัน
3.ยาปฏิชีวนะชนิดทาภายนอก
- ใช้ในขี้ผึ้งปฏิชีวนะ เช่น ยาป้ายตา หรือยาฆ่าเชื้อที่ใช้กับบาดแผล
4.ยาฉีดบางชนิด
- เป็นส่วนผสมในยาฉีดสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการการดูดซึมที่รวดเร็ว
ข้อดีและข้อควรระวัง
✅ ข้อดีของกรดไมริสติกในอุตสาหกรรมยา
✔️ ช่วยให้ยาและสารออกฤทธิ์ซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น
✔️ ช่วยให้ยามีความเสถียรและอยู่ได้นานขึ้น
✔️ ใช้เป็นส่วนผสมในครีม ขี้ผึ้ง และแคปซูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
✔️ ปลอดภัยเมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
⚠️ ข้อควรระวัง
⚠️ อาจทำให้ผิวแพ้หรือระคายเคืองในบางคน – ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรทดสอบก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไมริสติก
⚠️ หากใช้ในปริมาณสูง อาจส่งผลต่อระบบเผาผลาญ – ควรบริโภคตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
⚠️ ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมในยาฉีดและยาเม็ด – เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
>>ในอุตสาหกรรมเคมีและอื่น ๆ <<
- ใช้เป็นสารเติมแต่งในอุตสาหกรรมพลาสติกและสารลดแรงตึงผิว
- เป็นส่วนผสมของน้ำมันหล่อลื่น และสารเคลือบเงา
กรดไมริสติกเป็นกรดไขมันอิ่มตัวที่มีบทบาทสำคัญทั้งในกระบวนการเผาผลาญของร่างกายและอุตสาหกรรมหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องสำอาง หรือยา อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาการใช้งานอย่างละเอียด เช่น เกรดที่ต้องใช้งานในแต่ละด้าน ว่าเกรดเคมีแบบไหนที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์ ของเรา
สนใจติดต่อ เวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ประเภท เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ สารพัดด้านเคมี เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line ID : @worldchemical
Facebook : https://www.facebook.com/chemical.chiangmai
เว็บไซต์ : www.worldchemical.co.th
โทร : 053 204 446-7