ความรู้ และการใช้งาน เกี่ยวกับก้านไม้หอม
ก้านไม้หอม ใช้ยังไง อันตรายไหม
ก้านไม้หอม ใช้ยังไง เป็นอันตรายไหม หลาย ๆ คนที่กำลังคิดจะซื้อก้านไม้หอมมาตกแต่งบ้าน และปรับอากาศภายในบ้านเคยสงสัยกันไหมว่า นอกจากนี้ราคาของก้านไม้หอมแต่ละแบรนด์ที่มีราคาต่างกัน บางแบรนด์ขายถูกจนหลายคนตั้งคำถามว่า ก้านไม้หอมที่ขายนั้นอันตรายไหม และกลิ่นหอมที่เราสูดเข้าไปนั้นมีส่วนผสมของอะไรบ้าง ได้คุณภาพหรือไม่ และส่งผลต่อสุขภาพของเราหรือเปล่า มาดูกันค่ะ
ก้านไม้หอม หรือ reed diffuser คือ
ก้านไม้หอม ใช้ยังไง อันตรายไหม เรามาทำความรู้จักก้านไม้หอมกันก่อนเลย
ก้านไม้หอม ปรับอากาศหรือ reed diffuser คือ ผลิตภัณฑ์ปรับอากาศที่กระจายกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยผ่านทางก้านไม้ โดยก้านไม้ที่ใช้กันทั่วไปจะแบ่งได้เป็น 3 แบบ ได้แก่
- ก้านไม้งา ลักษณะเป็นกิ่งแตกแขนง
- ก้านไม้หวาย ลักษณะเป็นแท่ง มีรูพรุน
- ก้านไม้ไฟเบอร์ ลักษณะเป็นแท่งไฟเบอร์
ซึ่งประโยชน์ของก้านไม้หอมปรับอากาศ จะช่วยกระจายความหอมปรับอากาศในบ้าน สามารถใช้ตกแต่งตามห้องต่างๆ ให้บ้านน่าอยู่ ซึ่งสรรพคุณของน้ำมันหอมระเหยแต่ละกลิ่นที่เป็นส่วนผสมในก้านไม้หอมปรับอากาศจะช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ได้ เช่น
- กลิ่นลาเวนเดอร์ ช่วยคลายเครียด บรรเทาอาการปวดศีรษะ
- กลิ่นยูคาลิปตัส ช่วยลดอาการคัดจมูก ช่วยให้หายใจสะดวก
- กลิ่นเปปเปอร์มินต์ ช่วยให้สดชื่น ปลุกความกระปรี้กระเปร่า
ก้านไม้หอมใช้ยังไง
ก้านไม้หอม ใช้ยังไง ทำไมในปัจจุบัน คนถึงนิยมใช้ก้านไม้หอมในการปรับอากาศภายในบ้าน โดยวิธีใช้ก้านไม้หอมมีดังนี้
- เปิดจุกขวดน้ำมันหอมระเหยออก
2.เสียบก้านไม้ประมาณ 3-4 ก้าน หากเป็นก้านไม้หวายจะต้องคอยกลับก้านไม้เป็นประจำเพื่อให้กระจายกลิ่นได้ดี สม่ำเสมอ หากเป็นก้านไม้งาหรือก้านไม้ไฟเบอร์ไม่จำเป็นต้องกลับก้านไม้
โดยการกระจายความหอมของน้ำมันหอมระเหยผ่านทางก้านไม้ประเภทต่างๆ ที่แต่ละแบรนด์ให้มาจะมีความแตกต่างกัน โดยก้านไม้แต่ละแบบมีจุดเด่น เช่น
- ก้านไม้งา ดูดน้ำหอมได้ดี แต่ระเหยเร็ว
- ก้านไม้หวาย ดูดน้ำหอมค่อนข้างช้า จึงทำให้ใช้ได้นาน แต่ต้องคอยกลับก้านไม้สม่ำเสมอ
- ก้านไม้ไฟเบอร์ ดูดน้ำหอมได้ไว กระจายกลิ่นได้ดี ไม่เป็นเชื้อรา
ซึ่งจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ก้านไม้หอมปรับอากาศ คือสะดวกในการใช้งานเพียงแค่เปิดใช้งานและวางตามจุดต่าง ๆ กลิ่นหอมกระจายออกมาเอง โดยผลิตภัณฑ์เครื่องหอมปรับอากาศตัวอื่น ๆ อาจมีขั้นตอนในการใช้งานที่เยอะกว่า เช่น สเปรย์ปรับอากาศ ที่เมื่อต้องการใช้งานจะต้องฉีดเพื่อให้ความหอมในแต่ละครั้งจากนั้นกลิ่นจะค่อย ๆ จางไป หรือเทียนหอมเมื่อหากต้องการให้กระจายกลิ่น จะต้องจุดเทียนและคอยดับไฟเมื่อไม่ใช้งาน
ก้านไม้หอมใช้ยังไงสรุปได้สั้น ๆ ว่า เพียงแค่เปิดขวดเสียบก้านไม้ลงไป แล้วนำไปตั้งในจุดที่ต้องการให้กระจายกลิ่นหอมเท่านี้ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว การใช้งานขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ปริมาณ อุณหภูมิ ชนิดของก้านไม้ เป็นต้น
ก้านไม้หอมอันตรายไหม
ส่วนผสมหรือวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตก้านไม้หอมหลัก ๆ เลยก็คือ น้ำมันหอมระเหย ซึ่งแบ่งออกได้เป็นหลายแบบ ได้แก่
-น้ำมันหอมระเหยแท้ 100% (Pure Essential Oil) สกัดจากพืชชนิดนั้น ๆ โดยตรง เช่น ดอก ใบ ผล เป็นต้น ให้กลิ่นหอมตามธรรมชาติของพืชที่สกัด ซึ่งน้ำมันหอมระเหยประเภทนี้สามารถสลายตัวง่ายและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน มีราคาที่ค่อนข้างสูง อาจถึงหลักแสนบาทต่อกิโลกรัม
-น้ำมันหอมระเหยผสม (Reconstituted Essential Oil) มีส่วนผสมจากน้ำมันหอมธรรมชาติอยู่บ้าง จะให้กลิ่นที่ใกล้เคียงกับกลิ่นธรรมชาติ สามารถสลายตัวได้และปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน
-น้ำมันหอมสังเคราะห์ (Synthetic Essential Oil) สังเคราะห์กลิ่นจากสารเคมีต่าง ๆ ให้กลิ่นหอมจากการสังเคราะห์ อาจตกค้างและส่งผลเสียต่อผู้ใช้งานในระยะยาว
เหตุผล 5 ข้อที่ก้านไม้หอมช่วยเติมเต็มบ้านของคุณ
- เปลี่ยนอารมณ์ที่หลากหลาย
แต่ละวันคุณอยากได้อารมณ์แบบไหน จะสนุก มีความสุข สงบ โรแมนติก หรือจุดไฟฝัน เลือกสรรได้ตามใจต้องการ กลิ่นหอมสามารถส่งผลต่อระบบลิมบิกและช่วยปรับอารมณ์ได้ ผ่านกระตุ้นการผ่อนคลายของกล้ามเนื้อ การดมกลิ่นคือประสาทสัมผัสแรกที่มนุษย์ได้เรียนรู้และเป็นธรรมชาติมากที่สุด กลิ่นที่อยู่รอบตัวเราจึงเป็นสิ่งหล่อหลอมอารมณ์ของเราในทุกช่วงชีวิตนับแต่นั้นมา
- บอกลากลิ่นเหม็น
ไม่แปลกหากห้องของคุณจะมีกลิ่นเหม็นไปบ้าง ลองคิดดูสิว่ามันต้องเปิดรับทั้งกลิ่นอาหาร เสื้อผ้าสกปรก รองเท้า แล้วไหนจะสัตว์เลี้ยงอีก จะไม่ให้มีกลิ่นอับบ้างก็คงยาก ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทน ในเมื่อมีวิธีง่าย ๆ ที่จะรับมือปัญหาพวกนี้ ความหอมสดชื่นของเลมอน มะนาว หรือส้ม สามารถช่วยขจัดกลิ่นเหม็น ทำให้ห้องสดใสต้อนรับคุณด้วยกลิ่นหอม
- เตือนความจำหอมหวาน
กลิ่นที่คุณเลือกสามารถพาคุณย้อนกลับไปยังความทรงจำที่คิดถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาแสนสุขหรือความหลังแสนโรแมนติก กลิ่นก็สามารถกระตุ้นความทรงจำได้ดียิ่งกว่าภาพใด ๆ เราซึมซับการใช้กลิ่นเป็นตัวแทนความทรงจำเรื่อยมา แค่เพียงความหอมละมุนของวนิลาก็ชวนให้หวนนึกถึงความทรงจำอันแสนหวานของเสียงจากรถไอศกรีมในวันที่อากาศร้อน เมื่อความสุขยังคงมีความหมายที่เรียบง่ายไร้เดียงสา
4. ส่งกลิ่นหอมอย่างปลอดภัย
เทียนหอมมีข้อดีมากมาย แต่ก้านไม้หอมก็สามารถส่งกลิ่นหอมได้แบบเดียวกัน ในขณะที่ให้ความปลอดภัยมากกว่า แสงจากเทียนไม่เพียงแค่รบกวนการนอนหลับของคุณเท่านั้น แต่คุณยังต้องกังวลจนยากที่จะหลับสนิทเมื่อความกลัวไฟลุกลามถึงขั้นไฟไหม้รบกวนช่วงเวลานอน หันมาพักผ่อนให้สบายไร้กังวลด้วยกลิ่นธรรมชาติจากก้านไม้หอมเพื่อทางเลือกที่สบายใจกว่า
- สุขภาพก็สำคัญ
อย่ามองข้ามพลังที่แฝงอยู่ในกลิ่นหอม กลิ่นจากธรรมชาติไม่เพียงช่วยทำให้คุณรู้สึกสงบและผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังมีประสิทธิภาพน่าทึ่งที่ช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย หากเลือกใช้กลิ่นได้เหมาะสม ก็สามารถบรรเทาความเจ็บป่วย เยียวยาระบบการหายใจ เสริมภูมิคุ้มกัน หรือกระตุ้นความอยากอาหารได้
ความโดดเด่น ของก้านไม้หอมที่น่าสนใจ และประโยชน์ที่น่าสนใจ
การใช้ก้านไม้หอมในห้องทำงาน ห้องนอน ห้องน้ำ หรือห้องรับแขก ในกลิ่นเดียวกัน จะทำให้บ้านของคุณมีความหอมฟุ้งและอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมๆ ที่ให้ฟีลของอารมณ์แห่งความผ่อนคลายหรือสดชื่นได้ตลอดทั้งวันหรือทั้งคืนอีกด้วย ด้วยสรรพคุณที่โดดเด่นของการกระจายกลิ่นหอมๆ ที่พร้อมจะมอบความสดชื่นให้กับปอดได้หายใจอย่างคล่องตัว โล่งจมูก แบบเต็มอิ่ม ซึ่งอาจจะเลือกกลิ่นหอมๆ เย็นๆ ของสมุนไพรหลากชนิด ที่มีกลิ่นหอมๆที่ค่อนข้างโดดเด่น จะทำให้ใครต่อใครที่ได้สัมผัสกับความหอมที่ยาวนาน มีความประทับใจและอยากอยู่ในห้วงเวลาแห่งความหอมนั้นอย่างแน่นอน
ความหอมของกลิ่นจากก้านไม้หอมยังสร้างความมั่นใจ ให้กับบ้านของคุณหรือห้องต่างๆ ให้มีความโดดเด่นและยังทำให้เป็นที่จดจำ สร้างความน่าประทับใจได้ง่ายๆ อีกด้วย การเลือกก้านไม้หอมถือเป็นตัวเลือกของสาวๆ หลายคนที่ต้องการจะสร้าง อารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ ให้กับตัวเองและคนรอบข้าง โดยเฉพาะผู้ที่เหน็ดเหนื่อยมาจากการทำงานและต้องการพักผ่อน ซึ่งการได้กลิ่นหอมๆ จากก้านไม้หอมจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างมีระดับ และด้วยหลากหลายกลิ่นความหอมที่มีให้เลือกมากมายรวมทั้งราคาที่ไม่สูงมาก ทำให้ก้านไม้หอมมีความนิยมมากขึ้น
ก้านไม้หอม..หอมกลิ่นจากธรรมชาติ
หากเป็นช่วงหน้าหนาว การเลือกกลิ่นหอมเย็นๆ โล่งจมูก ลดอาการหวัดอย่างกลิ่นยูคาลิปตัส กลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์ หรือกลิ่นสมุนไพรต่างๆ จะช่วยทำให้หายใจโล่งขึ้น หรือกลิ่นขนมหอมๆ อย่างวนิลา กลิ่นผลไม้ หรือดอกลาเวนเดอร์ กลิ่นชาเขียวกลิ่นซากุระก็จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับว่าได้นั่งอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ชวนฝัน ที่ต่างก็เต็มไปด้วยดอกไม้หลากชนิดนานาพรรณที่พร้อมจะส่งกลิ่นหอมๆ ยามเมื่อเบ่งบาน และไม่ว่าจะเลือกกลิ่นอายแห่งความหอมแบบอ่อนๆ หรือแบบกลิ่นธรรมชาติ กลิ่นอายทะเล ต่างก็ให้บรรยากาศของกลิ่นที่หอมกระจายทั่วทั้งห้อง หรือจะเลือกกลิ่นโปรดที่เหมาะสำหรับการใช้งานตามธีมหรือโอกาสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบความหอมเข้ม หรือกลิ่นหอมอ่อนๆ ต่างก็ให้ความหอมต่อเนื่อง ซึ่งคุณสามารถเลือกดูจากส่วนผสมด้วยว่ามาจากสารสกัดใดหรือผสมอะไรลงไปบ้าง เพราะน้ำหอมปรับอากาศที่ใช้กับก้านไม้หอมบางกลิ่นบางยี่ห้ออาจเป็นกลิ่นหอมจากสารสกัดธรรมชาติหรือสไตล์ออร์แกนิค หรือบางยี่ห้ออาจผสมกลิ่นแต่งแบบกลิ่นสังเคราะห์ ซึ่งบางกลิ่นที่มีแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจทำให้เกิดการระเหยหรือความจางของกลิ่นได้เร็ว
การเลือกกลิ่นหอมๆ จากก้านไม้หอม สามารถนำมาใช้เพิ่มบรรยากาศความหอมให้กับห้องหรือบ้าน ออฟฟิศ ที่จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย จากการใช้งานได้อย่างปลอดภัยที่สุด
การทำก้านไม้หอมปรับอากาศด้วยตัวเองไม่ยาก
สามารถทำได้จากวัสดุที่หาได้ง่ายในบ้าน ต่อไปนี้คือสูตรและวิธีการทำก้านไม้หอมปรับอากาศในแบบ DIY:
วัสดุที่ต้องเตรียม
- น้ำมันหอมระเหย (Essential Oils): เลือกกลิ่นที่คุณชอบ เช่น ลาเวนเดอร์, มะนาว, โรสแมรี่ หรือกลิ่นไม้หอมต่างๆ
- แอลกอฮอล์ (Alcohol) หรือ น้ำมันเจาะ (Carrier Oil): ใช้เป็นตัวกลางในการเจือจางน้ำมันหอมระเหย
- ขวดแก้วหรือภาชนะที่มีฝาปิด (ที่สามารถรองรับน้ำมันและก้านไม้ได้)
- ก้านไม้: เช่น ก้านไม้ไผ่, ก้านไม้ขนาดเล็ก หรือไม้ที่ไม่มีกลิ่นแรง
ขั้นตอนการทำก้านไม้หอม
- เตรียมภาชนะ
เลือกภาชนะแก้วหรือขวดที่มีปากแคบ ๆ เช่น ขวดแก้วเล็ก หรือภาชนะใส่น้ำหอมที่มีฝาปิด (จะช่วยเก็บรักษาน้ำมันหอมระเหยและป้องกันไม่ให้กลิ่นหายไปเร็วเกินไป) - ผสมส่วนผสม
- ใส่ น้ำมันหอมระเหย (Essential Oils) ลงในภาชนะประมาณ 20-30 หยด หรือเพิ่มตามความชอบของความหอม
- เติม แอลกอฮอล์ (หรือ น้ำมันเจาะ เช่น น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันอัลมอนด์) ลงไปประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ น้ำมันเจาะจะช่วยให้การกระจายกลิ่นมีประสิทธิภาพดีขึ้นและไม่ทำให้กลิ่นหอมจางเร็ว
- ใส่ก้านไม้
ใส่ ก้านไม้ ลงในขวดให้พอเหมาะ ขึ้นอยู่กับขนาดของขวด ภายในขวดน้ำหอมประมาณ 4-5 ก้านไม้จะพอเหมาะ สำหรับก้านไม้ไผ่จะช่วยให้กลิ่นกระจายได้ดีขึ้นเพราะเนื้อไม้สามารถดูดซับน้ำมันได้ดี - ปล่อยให้ก้านไม้หอมทำงาน
หลังจากใส่ก้านไม้ลงไปแล้ว น้ำมันหอมระเหยจะถูกดูดซึมผ่านก้านไม้และค่อยๆ ปล่อยกลิ่นออกมาทีละน้อย ทำให้กลิ่นหอมกระจายไปในห้อง เมื่อกลิ่นเริ่มจางสามารถพลิกก้านไม้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปล่อยกลิ่น - การดูแลรักษา
ตรวจสอบระดับน้ำมันในขวดทุกๆ 1-2 สัปดาห์ ถ้าน้ำมันหอมระเหยเริ่มหมด ให้เติมน้ำมันหอมระเหยใหม่ลงไป และพลิกก้านไม้เพื่อให้กลิ่นกระจายดีขึ้น
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- ถ้าต้องการกลิ่นที่แรงขึ้น สามารถเพิ่มน้ำมันหอมระเหยให้มากขึ้นได้ตามต้องการ
- หากต้องการกลิ่นที่เบาบางลง ให้เพิ่มน้ำมันเจาะมากขึ้น เพื่อทำให้กลิ่นหอมเบาลงและกระจายได้ดียิ่งขึ้น
- ก้านไม้ที่ใช้สามารถเลือกตามความต้องการ หากใช้ไม้ที่ดูดซับน้ำมันได้ดี เช่น ไม้ไผ่ จะช่วยให้กลิ่นหอมกระจายได้ดีขึ้น
สูตรวิธีการทำ ก้านไม้หอม
นอกจากสูตรพื้นฐานแล้ว ยังมีสูตรและวิธีการทำก้านไม้หอมปรับอากาศหลายแบบที่สามารถปรับใช้ตามความชอบหรือประโยชน์ที่ต้องการได้ นี่คือสูตรอื่น ๆ ที่สามารถลองทำได้:
1. สูตรก้านไม้หอมกลิ่นผ่อนคลาย (ลาเวนเดอร์ + ส้ม)
- น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ 20 หยด
- น้ำมันหอมระเหยส้ม 10 หยด
- น้ำมันเจาะ (เช่น น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันอัลมอนด์) 3 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ:
- ผสมกลิ่นลาเวนเดอร์และส้มลงในภาชนะ
- เติมน้ำมันเจาะเพื่อเจือจาง
- ใส่ก้านไม้ลงในขวดและปล่อยให้ก้านไม้ดูดซึมน้ำมันหอมระเหย
- ปล่อยให้กลิ่นกระจายไปในอากาศและเพลิดเพลินกับความผ่อนคลาย
ประโยชน์: กลิ่นลาเวนเดอร์ช่วยผ่อนคลายและลดความเครียด ส่วนกลิ่นส้มจะช่วยเพิ่มความสดชื่นและกระตุ้นความรู้สึกที่ดี
2. สูตรก้านไม้หอมกลิ่นสะอาด (มินต์ + ยูคาลิปตัส)
- น้ำมันหอมระเหยมินต์ 15 หยด
- น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส 15 หยด
- แอลกอฮอล์ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันเจาะ (น้ำมันอัลมอนด์หรือน้ำมันมะกอก) 2 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ:
- ผสมน้ำมันหอมระเหยมินต์และยูคาลิปตัสในขวด
- เติมแอลกอฮอล์และน้ำมันเจาะ
- ใส่ก้านไม้ลงไปในขวดแล้วปล่อยให้กลิ่นหอมกระจาย
ประโยชน์: กลิ่นมินต์และยูคาลิปตัสจะช่วยให้รู้สึกสดชื่นและทำให้ห้องมีบรรยากาศสะอาดขึ้น ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกและหายใจสะดวก
3. สูตรก้านไม้หอมกลิ่นสมุนไพร (โรสแมรี่ + ไธม์)
- น้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่ 10 หยด
- น้ำมันหอมระเหยไธม์ 10 หยด
- น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ 5 หยด
- น้ำมันเจาะ (น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันอัลมอนด์) 3 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ:
- ผสมส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่, ไธม์, และลาเวนเดอร์
- เติมน้ำมันเจาะลงไปเพื่อเจือจาง
- ใส่ก้านไม้ลงในขวดและปล่อยให้ก้านไม้ดูดซึมน้ำมันหอมระเหย
ประโยชน์: กลิ่นของโรสแมรี่และไธม์มีคุณสมบัติช่วยบำรุงสมอง กระตุ้นความสดชื่น และเพิ่มความมีชีวิตชีวา ขณะที่กลิ่นลาเวนเดอร์ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
4. สูตรก้านไม้หอมกลิ่นดอกไม้ (กุหลาบ + มะลิ)
- น้ำมันหอมระเหยกุหลาบ 15 หยด
- น้ำมันหอมระเหยมะลิ 15 หยด
- น้ำมันเจาะ (น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันอัลมอนด์) 3 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ:
- ผสมกลิ่นกุหลาบและมะลิลงในภาชนะ
- เติมน้ำมันเจาะเพื่อเจือจาง
- ใส่ก้านไม้ลงในขวดและปล่อยให้ก้านไม้ดูดซึมน้ำมันหอมระเหย
ประโยชน์: กลิ่นกุหลาบและมะลิเป็นกลิ่นดอกไม้ที่หวานละมุน ช่วยให้ห้องมีกลิ่นหอมอ่อนๆ และเพิ่มบรรยากาศที่โรแมนติกและหรูหรา
5. สูตรก้านไม้หอมกลิ่นไม้หอม (แซนดัลวูด + ซีดาร์วูด)
- น้ำมันหอมระเหยแซนดัลวูด 15 หยด
- น้ำมันหอมระเหยซีดาร์วูด 15 หยด
- น้ำมันเจาะ (น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันอัลมอนด์) 3 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ:
- ผสมกลิ่นแซนดัลวูดและซีดาร์วูดในภาชนะ
- เติมน้ำมันเจาะลงไปเพื่อเจือจาง
- ใส่ก้านไม้ลงในขวดแล้วปล่อยให้กลิ่นไม้หอมกระจายไปในอากาศ
ประโยชน์: กลิ่นแซนดัลวูดและซีดาร์วูดเป็นกลิ่นไม้หอมที่ช่วยสร้างบรรยากาศสงบเงียบ เหมาะสำหรับการทำสมาธิหรือผ่อนคลาย
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
- การปรับกลิ่น: หากต้องการเพิ่มความเข้มข้นของกลิ่น สามารถเพิ่มน้ำมันหอมระเหยได้ตามต้องการ หรือหากต้องการกลิ่นที่อ่อนลง สามารถลดปริมาณน้ำมันหอมระเหยได้
- การเลือกก้านไม้: ก้านไม้ไผ่เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะสามารถดูดซับน้ำมันได้ดีและช่วยกระจายกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณสามารถปรับสูตรต่างๆ ตามความชอบหรือบรรยากาศที่ต้องการในแต่ละช่วงเวลาของวันค่ะ!
การเลือกไม้สำหรับปักน้ำหอม (หรือก้านไม้หอม) เป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม้ที่ใช้จะมีผลต่อการดูดซึมน้ำมันหอมระเหยและการกระจายกลิ่น หากเลือกไม้ที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้กลิ่นหอมไม่กระจายได้ดีเท่าที่ควร ดังนั้นการเลือกไม้สำหรับปักน้ำหอมควรพิจารณาคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น ความสามารถในการดูดซึมน้ำมัน, ความคงทน, และความสามารถในการปล่อยกลิ่นออกมาอย่างต่อเนื่อง
วิธีการเลือกไม้สำหรับปักน้ำหอม
- ไม้ไผ่ (Bamboo)
- คุณสมบัติ: ไม้ไผ่เป็นไม้ที่ได้รับความนิยมในการทำก้านไม้หอม เพราะมีความสามารถในการดูดซึมน้ำมันได้ดีและปล่อยกลิ่นออกมานาน ไม้ไผ่มีลักษณะรูพรุน ทำให้สามารถดูดซับน้ำมันหอมระเหยได้ดี
- ข้อดี: น้ำหนักเบาและสามารถกระจายกลิ่นได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์น้ำหอมปรับอากาศแบบก้านไม้
- ข้อเสีย: หากคุณใช้ไม้ไผ่ไม่ดี อาจเกิดการหักหรือแตกได้ง่าย
- ไม้สน (Pine)
- คุณสมบัติ: ไม้สนเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงและมีความคงทนสูง เหมาะสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความทนทาน สามารถดูดซึมน้ำมันได้ดีและคงกลิ่นได้ยาวนาน
- ข้อดี: กลิ่นไม้สนมีความคงทนและสามารถดูดซึมน้ำมันหอมระเหยได้ดี
- ข้อเสีย: ไม้สนอาจมีราคาสูงกว่าไม้ไผ่ และอาจมีความเหนียวและยืดหยุ่นน้อยกว่า
- ไม้ซีดาร์ (Cedarwood)
- คุณสมบัติ: ไม้ซีดาร์มีความทนทานและมีกลิ่นหอมธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มความหอมให้กับน้ำหอมปรับอากาศ ไม้ซีดาร์มักถูกใช้ในการทำผลิตภัณฑ์หอม เช่น น้ำหอมและก้านไม้หอม
- ข้อดี: มีกลิ่นที่ค่อนข้างหอมอ่อน ๆ และมีความทนทานสูง สามารถใช้ได้ในระยะยาว
- ข้อเสีย: อาจมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับไม้ประเภทอื่น
- ไม้บีช (Beechwood)
- คุณสมบัติ: ไม้บีชมีคุณสมบัติในการดูดซึมน้ำมันได้ดีและปล่อยกลิ่นอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับการใช้เป็นก้านไม้หอม
- ข้อดี: มีความทนทานและมีรูพรุนที่ช่วยให้กลิ่นกระจายได้ดี
- ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับไม้ไผ่และไม้ชนิดอื่น
- ไม้โอ๊ค (Oak)
- คุณสมบัติ: ไม้โอ๊คเป็นไม้แข็งที่มีความทนทานและมีรูพรุนช่วยในการดูดซึมน้ำมันหอมระเหย ไม้โอ๊คมักใช้ในการทำผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรง
- ข้อดี: ทนทานและสามารถกระจายกลิ่นได้ดี
- ข้อเสีย: อาจมีราคาแพงกว่าวัสดุประเภทอื่น และอาจไม่เหมาะสำหรับการใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความยืดหยุ่น
- ไม้บัว (Lotus Wood)
- คุณสมบัติ: ไม้บัวมีรูพรุนและน้ำหนักเบา ซึ่งทำให้สามารถดูดซึมน้ำมันได้ดีและกระจายกลิ่นอย่างต่อเนื่อง
- ข้อดี: น้ำหนักเบาและดูดซึมน้ำมันได้ดี
- ข้อเสีย: อาจไม่ทนทานเท่าไม้ไผ่หรือไม้แข็งชนิดอื่น
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกไม้
- รูพรุนของไม้: ไม้ที่มีรูพรุนช่วยให้สามารถดูดซึมน้ำมันหอมระเหยได้ดีขึ้น เช่น ไม้ไผ่ หรือไม้บีช
- ความคงทน: เลือกไม้ที่มีความทนทานและสามารถใช้งานได้ยาวนาน เช่น ไม้ซีดาร์ หรือไม้โอ๊ค
- การกระจายกลิ่น: ไม้ที่มีคุณสมบัติช่วยกระจายกลิ่นได้ดีจะทำให้กลิ่นหอมถูกปล่อยออกมาอย่างสม่ำเสมอ
- ราคา: ไม้บางประเภทอาจมีราคาสูง เช่น ไม้ซีดาร์หรือไม้โอ๊ค ควรเลือกตามงบประมาณที่มี
การเลือกไม้สำหรับปักน้ำหอมจึงขึ้นอยู่กับลักษณะของไม้และความต้องการในการใช้งาน หากต้องการกลิ่นที่ปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ไม้ไผ่หรือไม้ที่มีรูพรุนดีจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดค่ะ
ดังนั้น การใช้ก้านไม้หอมปรับอากาศเป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมในการสร้างบรรยากาศภายในบ้านหรือสถานที่ทำงานให้สดชื่นและผ่อนคลาย โดยก้านไม้หอมปรับอากาศเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้แทนการใช้สเปรย์ปรับอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศที่มักจะใช้พลังงานไฟฟ้า หรือมีสารเคมีเป็นส่วนประกอบ ก้านไม้หอมปรับอากาศใช้หลักการดูดซึมน้ำหอมจากน้ำมันหอมระเหยผ่านก้านไม้หรือวัสดุอื่น ๆ เพื่อปล่อยกลิ่นหอมออกมาทีละน้อย ทำให้คุณสามารถสัมผัสกลิ่นหอมได้ยาวนานโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอันตรายจากสารเคมี
สนใจติดต่อ เวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ประเภท เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ สารพัดด้านเคมี เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line ID : @worldchemical
Facebook : https://www.facebook.com/chemical.chiangmai
เว็บไซต์ : www.worldchemical.co.th
โทร : 053 204 446-7