เครื่องซักผ้าที่ใช้งานอยู่นั้นหากไม่ได้ทำความสะอาดจะกลายแหล่งรวมสิ่งสกปรกที่ถูกสะสมมาเป็นเวลานานจากการใช้งาน และทุกครั้งที่ทำการซักผ้าจะมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ติดอยู่ที่เสื้อผ้า ยังไม่รวมไปถึงเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจจะทำให้เกิดการระเคืองบนผิวหนังของคุณและคนในครอบครัว
ปัจจัยเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาที่คุณควรทำความสะอาดเครื่องซักผ้าในทุกๆ เดือน และสำหรับวิธีทําความสะอาดเครื่องซักผ้าให้สะอาดหมดจด ไร้สิ่งตกค้างสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน ที่สำคัญการทำความสะอาดเครื่องซักผ้ายังสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้าได้อีกด้วย
วิธีทําความสะอาดเครื่องซักผ้าด้านนอก ให้สะอาดหมดจด
วิธีทําความสะอาดเครื่องซักผ้าจากจุดที่มองเห็นได้ง่ายบริเวณด้านนอก ที่เกิดจากฝุ่นหรือคราบผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่มที่เกาะอยู่นอกตัวเครื่องซักผ้า หากปล่อยไว้นานๆ อาจจะทำให้คราบนั้นฝังลึก และยากต่อการทำความสะอาด
ดังนั้น เมื่อเกิดคราบหรือรอยเปื้อนควรรีบทำความสะอาดทันที เพื่อให้เครื่องซักผ้าของคุณนั้นดูใหม่อยู่เสมอ และยังดูน่าใช้งานอีกด้วย การทำความสะอาดสามารถใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดที่ไม่เป็นกรดสูง เช็ดบริเวณที่มีรอยเปื้อนและเช็ดอีกครั้งด้วยผ้าแห้งเพื่อไม่ให้ตัวเครื่องซักผ้าเกิดความชื้น
1.ขจัดคราบสกปรกที่ซีลประตู
เคยสังเกตไหมว่าขอบยางหรือซีลประตูของเครื่องซักผ้าที่ใช้มักจะมีคราบสีน้ำตาลฝังอยู่ คราบเหล่านั้นเกิดจากสิ่งสกปรก เช่น การสะสมของคราบมัน น้ำยาปรับผ้านุ่ม คราบสกปรกที่มาจากเสื้อผ้า และการปิดฝาเครื่องซักผ้าในขณะที่ยังไม่แห้งดี เป็นต้น ซึ่งเมื่อทิ้งไว้นานๆ อาจจะเกิดเชื้อราและทำให้เสื้อผ้าที่ซักไม่สะอาด
ดังนั้น วิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าบริเวณขอบยางหรือซีลประตู คุณสามารถใช้แปรงเล็กๆ ทำการขัดเพื่อเอาคราบสกปรกออก หรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ทำการเช็ดคราบ โดยผสมน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อในการเช็ดเพิ่มเติมได้ แต่ไม่ควรใช้น้ำยาที่มีสารกัดกร่อนสูงเพราะจะทำให้ชีลยางประตูเครื่องซักผ้าเสียหายได้
2.ล้างช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม
วิธีทําความสะอาดเครื่องซักผ้าด้วยการถอดช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มออกมาล้าง เพราะเมื่อใช้ไปในระยะยาวจะเกิดการอุดตันและคราบเหนียว ทำให้เมื่อใส่ผงซักฟอกกี่ครั้งก็อุดตันและไหลลงไปในถังได้อย่างไม่เต็มที่
นอกจากนี้ การสะสมของผงซักฟอกในช่องนี้เป็นเวลานานจะทำให้เกิดเชื้อราได้ คุณสามารถถอดออกมาล้าง โดยการนำแปรงสีฟันขนนุ่มขนาดพอดี ทำการขัดบริเวณที่มีคราบสกปรกติดอยู่ จากนั้นปล่อยให้แห้งก่อนนำเก็บเข้าไปที่ตัวเครื่อง
3.ล้างตัวกรองปั๊มหรือไส้กรองเครื่องซักผ้า
ขั้นตอนวิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าจากด้านนอก สามารถทำการล้างตัวกรองปั๊มหรือไส้กรอง เพื่อล้างเอาฝุ่น ขี้ผงหรือเส้นผมออกจากตัวกรอง ตำแหน่งตัวกรองปั๊มของเครื่องซักผ้าฝาหน้าจะอยู่ด้านหน้าเครื่องซักผ้าบริเวณด้านล่างซ้ายมือ ซึ่งสามารถเปิดฝาและดึงตัวกรองปั๊มมาทำความสะอาด แต่ควรนำกะละมังหรือถังเล็กๆ มารองใต้ฝาก่อนการเปิด เพราะเมื่อเปิดฝามาแล้วน้ำและสิ่งสกปรกหรือเศษเหรียญจะไหลออกมาด้วย
สำหรับเครื่องซักผ้าฝาบนไส้กรองเครื่องซักผ้าจะอยู่บริเวณจุดกึ่งกลางของถังเครื่องซักผ้า โดยตัวกรองปั๊มจะมีที่ล็อกอยู่ เพียงแค่กดเปิดตัวล็อกนั้นและถอดออกมาล้างก็จะทำให้เครื่องซักผ้าของคุณนั้นสะอาดขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ
4.ถอดถังเครื่องซักผ้ามาล้างทำความสะอาด
ตัวถังของเครื่องซักผ้าต้องคอยรองรับสิ่งสกปรกที่มาจากเสื้อผ้าเป็นระยะเวลาหลายปี ทำให้เกิดการอุดตันของสิ่งสกปรกและส่งผลให้ทุกครั้งที่ปั่นแห้งน้ำจะไม่สามารถระบายได้ดี ทำให้เสื้อผ้าของคุณนั้นยังเปียกชื้นแม้จะปั่นแห้งแล้วก็ตาม
การถอดถังเครื่องซักผ้าออกมาล้างจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก เพราะต้องใช้เครื่องมือช่างในการทำ และจำเป็นที่จะต้องรู้ส่วนประกอบอื่นๆ ของตัวเครื่องซักผ้า เช่น การหย่อนสายไฟบริเวณตัวถัง เพื่อที่จะดึงถังออกมาได้ง่ายขึ้น ทำให้ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์อาจจะรู้สึกว่าถ้าต้องทำเองน่าจะยากพอสมควร แต่วิธีทําความสะอาดเครื่องซักผ้าด้วยวิธีนี้จะทำให้ได้เครื่องซักผ้าที่สะอาดหมดจด
กำจัดสิ่งสกปรกทําความสะอาดเครื่องซักผ้าด้านใน
วิธีทําความสะอาดเครื่องซักผ้าด้วยผลิตภัณฑ์ง่ายๆ ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของทั่วไป เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการนำมาใช้ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จะมีฤกธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ดีและยังไม่ส่งผลเสียต่อเครื่องซักผ้า เช่น การใช้น้ำส้มสายชู หรือการใช้เบคกิ้งโซดา ทั้งนี้ วิธีนี้ยังสามารถนำไปใช้เป็นวิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าได้เช่นกัน
1.น้ำส้มสายชู
วิธีทําความสะอาดเครื่องซักผ้าด้วยน้ำส้มสายชู ผลิตภัณฑ์ที่ทุกบ้านต้องมีเพราะสามารถใช้งานได้สารพัดประโยชน์ เช่น ใช้ประกอบอาหาร และใช้ขจัดคราบสกปรกนั้นเอง ด้วยฤทธิ์ที่เป็นกรดสามารถยับยั้งการเกิดเชื้อราหรือแบคทีเรียได้
วิธีล้างเครื่องซักผ้าแบบฝาบน
การล้างเครื่องซักผ้าฝาบนนั้น เรามีวิธีแนะนำแบบง่ายๆ เพียง 4 ขั้นตอน ดังนี้
- เตรียมน้ำส้มสายชู 2 ขวดเล็ก หรือขนาด 500 มิลลิลิตร
- เปิดฟังก์ชันซักผ้าและเลือกระดับน้ำสูงสูง หรือเลือกระบบน้ำร้อน
- ทำการเทน้ำส้มสายชูไปยังช่องผงซักฟอก หรือเทลงไปในถังเครื่องซักผ้าและปิดฝา
- ใช้เวลาปั่นประมาณ 3-4 นาที และให้ทำการหยุดเครื่องซักผ้าทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำส้มสายชูกำจัดเชื้อแบคทีเรีย
- เมื่อครบเวลาแล้วให้เปิดเครื่องซักผ้า เลือกระบบซักผ้าปกติเพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรก และจะทำให้กลิ่นน้ำส้มสายชูนั้นจางหายไปด้วย
วิธีล้างเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า
สำหรับวิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าจะแตกต่างกับวิธีข้างต้น ซึ่งสามารถทำตามได้ ดังนี้
- นำผ้าที่ไม่ใช้แล้วไปชุบกับน้ำส้มสายชูให้ชุ่มๆ
- จากนั้นนำใส่เข้าไปในเครื่องซักผ้าและเปิดระบบปั่นแห้ง เพื่อให้ผ้าที่ชุบน้ำส้มสายชูถูกเหวี่ยงไปมาในเครื่องซักผ้าประมาณ 5-10 นาที
- เมื่อเสร็จแล้วให้ทำการพักผ้าที่ชุบน้ำส้มสายชูไว้ในถังเครื่องประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- จากนั้นนำผ้าออกมา และเปิดระบบซักผ้าปกติเป็นการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าให้กลิ่นน้ำส้มสายชูหายไป
แม้ว่าน้ำส้มสายชูจะมีประโยชน์ในการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า แต่ก็ยังมีข้อควรระวังในการใช้ เช่น ไม่ควรแช่น้ำส้มสายชูทิ้งไว้ในเครื่องซักผ้านานจนเกินไป เพราะน้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรดหากทิ้งไว้นานเกินไปจะทำให้ส่วนอื่นๆ ภายในของเครื่องซักผ้าเสียหายได้ และควรทำในสถานที่อากาศถ่ายเท เนื่องจากกรดอ่อนๆ ของน้ำส้มสายชูอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจได้
2.เบคกิ้งโซดา
วิธีทําความสะอาดเครื่องซักผ้าด้วยเบคกิ้งโซดาวัตถุดิบมหัศจรรย์ที่นอกจากจะใช้เป็นส่วนผสมของการทำขนม หรือใช้ล้างผักแล้ว ก็ยังสามารถใช้ทำความสะอาดคราบสกปรกได้หมดจด เพราะเบคกิ้งโซดามีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ คล้ายคลึงกับน้ำส้มชายชู ทำให้สามารถชำระล้างสิ่งสกปรกได้ดี
- เปิดฟังก์ชันเครื่องซักผ้าด้วยระบบซักอัตโนมัติและเลือกระดับน้ำสูงสุด
- เมื่อสังเกตว่าน้ำมีระดับสูงขึ้นประมาณครึ่งถัง ให้เทเบคกิ้งโซดาจำนวน 300 กรัม ลงไปในเครื่องซักผ้า
- ปล่อยให้เครื่องซักผ้าปั่นประมาณ 10 นาที
- เมื่อเบคกิ้งโซดาละลายหมดให้ทำการหยุดเครื่อง และปล่อยทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะเห็นว่าเบคกิ้งโซดาเริ่มทำปฏิกิริยากับเครื่องซักผ้าจนมีตะกอนสีคล้ำๆ หลุดออกมา
- เปิดเครื่องอีกครั้งโดยใช้ฟังก์ชันการซักผ้าปกติ แต่ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าลงไป ขั้นตอนนี้จะเป็นการระบายน้ำที่สกปรกและทำความสะอาดตัวเครื่อง
3.ผงวิตามินซีหรือกรดมะนาว
ผงวิตามินซีหรือกรดมะนาวมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับน้ำส้มสายชู แต่จะมีกลิ่นที่แรงน้อยกว่า จึงค่อนข้างเป็นที่นิยมในการนำมาล้างทำความสะอาดเครื่องซักผ้าที่มีคราบฝังลึกและยากที่จะใช้วิธีอื่นๆ ทำความสะอาด
ขั้นตอนวิธีทําความสะอาดเครื่องซักผ้าด้วยผงวิตามินซีและกรดมะนาว
- ต้มน้ำให้เดือดและปิดไฟ ทำการเทผงวิตามินซีหรือกรดมะนาว 100 กรัม ลงไปในหม้อ และคนจนกรดละลายดี
- เปิดเครื่องซักผ้าเลือกระดับน้ำสูง รอให้น้ำสูงในระดับครึ่งถัง
- เทกรดมะนาวที่ต้มแล้วลงไป และปล่อยให้เครื่องซักผ้าปั่นประมาณ 5 นาที ทำการปิดเครื่องและทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
- เปิดเครื่องซักผ้าอีกครั้งด้วยฟังก์ชันซักผ้าปกติ เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก
4.ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า
เพื่อช่วยให้การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าง่ายขึ้น ในปัจจุบันจึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งอุปกรณ์ช่วยทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ซึ่งจะมีทั้งชนิดผง ชนิดน้ำ ชนิดก้อน และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์นั้นก็จะคล้ายคลึงกัน เช่น ช่วยขจัดคราบหินปู เชื้อรา คราบมัน และเชื้อแบคทีเรีย ที่ถูกสะสมมาเป็นเวลานาน
ทั้งนี้ ราคาแต่ละชนิดนั้นก็จะมีความแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและประสิทธิภาพ ซึ่งราคาจะเริ่มต้นที่ 59 บาทขึ้นไป วิธีนี้ยังเหมาะที่จะใช้เป็นวิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้า เพราะสามารถเทหรือใส่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าลงไปแล้วทำการเปิดเครื่องซักผ้าให้ทำงานตามปกติ เพียงเท่านี้เครื่องซักผ้าของคุณก็จะสะอาดเหมือนใหม่
ทางลัดวิธีทําความสะอาดเครื่องซักผ้าขจัดคราบได้หมดจด
วิธีทําความสะอาดเครื่องซักผ้าที่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาหรือต้องการความสะดวกรวดเร็ว สามารถใช้วิธีลัดในการทำความสะอาดเพื่อประหยัดเวลาและประหยัดแรง แต่วิธีนี้จะเป็นการทำความสะอาดที่ขจัดคราบสกปรกในตัวเครื่องเท่านั้น ดังนั้น ตัวเครื่องซักผ้าด้านนอกคุณอาจจะต้องทำความสะอาดแยกอีกครั้ง
1.เปิดฟังก์ชันทำความสะอาดของเครื่องซักผ้า
การเลือกเปิดฟังก์ชันการทำความสะอาดจากระบบของเครื่องซักผ้าเป็นวิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและฝาบนแบบประหยัดแรงและเวลา แต่ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดจะน้อยกว่าการใช้สารที่มีฤทธิ์เป็นกรด เพราะจะเป็นการชำระล้างด้วยน้ำร้อนอุณภูมิ 60-70 °C เท่านั้น โดยบางยี่ห้ออาจจะมีระบบพิเศษเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากน้ำร้อนเพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น
2.เรียกช่างมาล้างเครื่องซักผ้า
หากทดลองทำความสะอาดด้วยวิธีข้างต้นแล้วยังรู้สึกว่าไม่สะอาดถูกใจ หรือบางขั้นตอนดูแล้วมีความยุ่งยากมากเกินไป วิธีทําความสะอาดเครื่องซักผ้าทางลัดที่สามารถช่วยให้การทำความสะอาดนั้นง่ายขึ้น คือการเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยล้างทำความสะอาดเครื่องซักผ้า เพราะช่างผู้ให้บริการจะมีความชำนาญในการล้างคราบสกปรกต่างๆ เช่น การถอดถังเครื่องซักผ้าออกมาล้างด้วยอุปกรณ์เครื่องมือช่าง โดยในการจ้างช่างผู้เชี่ยวชาญนั้นอาจมีราคาเริ่มต้นที่ 500-1,200 บาท และบางผู้ให้บริการอาจจะมีการรับประกันหลังการล้าง ทั้งนี้ ในการเลือกช่างผู้ให้บริการ ควรเลือกช่างที่มีความน่าเชื่อ โดยสามารถดูได้จากการรีวิว ชื่อเสียงของช่างและการบริการหลังการล้าง
สำหรับวิธีทําความสะอาดเครื่องซักผ้าที่มาแนะนำกัน สามารถทำได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ หรือถ้าคุณกำลังมองหาวิธีล้างเครื่องซักที่ง่ายไปกว่านั้น สามารถทำเองได้ง่ายๆเพียงไม่กี่ขั้นตอน ทางร้าน เวิลด์ เคมีคอล ฟาร์อีสท์ ขอแนะนำเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ผงทำความสะอาดเครื่องซักผ้า (Cleaner Machine Washing) ด้วยพลังขจัดคราบฝังแน่นที่ติดอยู่กับเครื่องซักผ้า ช่วยให้เครื่องซักผ้าของคุณกลับมาใหม่อีกครั้ง และรวมไปถึงสินค้าใหม่จากทางร้านที่ขายดีไม่แพ้กัน นั้นก็คือ ชุดทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ภายในชุดประกอยไปด้วย Part A และ Part B วิธีการใช้ก็แสนจะง่าย แค่นำทั้ง2ส่วนเทลงในเครื่องซักผ้า จากนั้นกดปุ่มล้างถังหรือปุ่มซัก จากนั้นแค่รอเครื่องซักผ้าของคุณทำงานเอง เพียงเท่านี้ถังปั่นเครื่องซักผ้าของคุณก็จะกลับมาสะอาดเหมือนใหม่อีกครั้งแล่วค่ะ
บริษัท เวิลด์ เคมีคอล ฟาร์อีสท์ จำกัด (จังหวัดเชียงใหม่)
261/3-6 ถ.มหิดล ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50100 โทร. 053-204 446-7 / 053-204 465 sales_worldchemical@hotmail.com