น้ำมันอโวคาโดใช้ทำอะไรได้บ้าง
ทำความรู้จักกับน้ำมันอโวคาโด
น้ำมันอโวคาโดใช้ทำอะไรได้บ้าง น้ำมันอโวคาโด (Avocado Oil) เป็นน้ำมันธรรมชาติที่ได้จากผลของต้นอโวคาโด ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและได้รับความนิยมทั้งในการทำอาหารและการดูแลสุขภาพผิวพรรณ เนื่องจากมีกรดไขมันที่ดีและสารอาหารที่มีประโยชน์หลายชนิด น้ำมันอโวคาโดมีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงผิวและเส้นผม รวมทั้งมีประโยชน์ในการปรุงอาหารอีกด้วย
ประวัติของอโวคาโดและการผลิตน้ำมันอโวคาโด
อโวคาโด (Persea americana) เป็นพืชผลไม้พื้นเมืองของทวีปอเมริกากลางและเม็กซิโก มีการปลูกและบริโภคมาอย่างยาวนาน โดยในอดีตใช้ในอาหารพื้นบ้านของชนเผ่าอินเดียนแดงในเม็กซิโกและอเมริกากลาง ปัจจุบันอโวคาโดได้กลายเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ไม่เพียงแต่ในอาหารเท่านั้น แต่ยังถูกนำไปใช้ในการผลิตน้ำมันที่มีคุณสมบัติต่อสุขภาพและความงาม
กระบวนการผลิตน้ำมันอโวคาโดมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การสกัดน้ำมันด้วยวิธีดั้งเดิมไปจนถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ใช้การแปรรูปเพื่อรักษาคุณค่าทางสารอาหาร
กระบวนการผลิตน้ำมันอโวคาโด (Cold-Press vs Refined)
- Cold-Press (การสกัดเย็น)
การสกัดเย็นเป็นกระบวนการที่ใช้อุณหภูมิหรือตัวทำละลายต่ำในการสกัดน้ำมันจากผลอโวคาโด โดยไม่ผ่านความร้อน ซึ่งจะช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการและสารอาหารในน้ำมันไว้มากที่สุด เช่น กรดไขมันไม่อิ่มตัว, วิตามิน E และสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ กระบวนการนี้มักจะผลิตน้ำมันอโวคาโดที่มีคุณภาพสูงและมีกลิ่นหอมธรรมชาติ - Refined (การกลั่น)
การกลั่นน้ำมันอโวคาโดจะใช้ความร้อนในการกรองและทำให้ได้ผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีสีใสและรสชาติอ่อนลง แม้จะช่วยลดกลิ่นและรสชาติที่แข็งแรงจากผลอโวคาโด แต่การกลั่นนี้อาจทำให้สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการบางประการ โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินบางชนิด
คุณสมบัติและสารอาหารที่มีในน้ำมันอโวคาโด
น้ำมันอโวคาโดมีสารอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึง:
- กรดไขมันไม่อิ่มตัว
น้ำมันอโวคาโดเป็นแหล่งของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fatty Acids – MUFAs) โดยเฉพาะกรด oleic acid ซึ่งมีประโยชน์ต่อการลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และส่งเสริมสุขภาพหัวใจ - วิตามิน E
น้ำมันอโวคาโดมีปริมาณวิตามิน E สูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระ และช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส - วิตามิน K
น้ำมันอโวคาโดยังมีวิตามิน K ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยในการแข็งตัวของเลือดและรักษาสุขภาพกระดูก - โพแทสเซียม
น้ำมันอโวคาโดมีโพแทสเซียมที่ช่วยในการควบคุมระดับความดันโลหิตและบำรุงการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ - สารต้านอนุมูลอิสระ
น้ำมันอโวคาโดมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญหลายชนิด เช่น ลูทีน (Lutein) ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพตาและป้องกันการเสื่อมของเซลล์
น้ำมันอโวคาโดจึงเป็นน้ำมันที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์มากมายในการทำอาหาร การดูแลผิวพรรณ และการเสริมสุขภาพโดยรวม
น้ำมันอโวคาโดในด้านโภชนาการ
น้ำมันอโวคาโดถือเป็นแหล่งที่ดีของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fatty Acids – MUFAs) โดยเฉพาะ กรดโอเลอิก (Oleic Acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ในเลือด และส่งเสริมให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ น้ำมันอโวคาโดยังมีวิตามิน E ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระในร่างกาย
ประโยชน์ของน้ำมันอโวคาโดในการลดคอเลสเตอรอลและการส่งเสริมสุขภาพหัวใจ
- ลดคอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL)
การบริโภคน้ำมันอโวคาโดช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด การเพิ่มกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFAs) ที่พบในน้ำมันอโวคาโดสามารถช่วยปรับสมดุลของคอเลสเตอรอลในเลือด - ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ
น้ำมันอโวคาโดมีส่วนช่วยในการลดความดันโลหิต และส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด โดยช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดและการทำงานของหัวใจ การบริโภคน้ำมันอโวคาโดแทนน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัว (เช่น น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันปาล์ม) อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ
การใช้ในอาหาร: วิธีการใช้น้ำมันอโวคาโดในการปรุงอาหาร
- การทอด
น้ำมันอโวคาโดเหมาะสำหรับการทอดอาหารเนื่องจากมีจุดเกิดควัน (Smoke Point) ที่สูงถึง 270°C ทำให้สามารถใช้งานในอุณหภูมิสูงโดยไม่เกิดสารที่เป็นอันตรายหรือสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ - การผัด
น้ำมันอโวคาโดสามารถใช้ในการผัดอาหารได้ดี เพราะช่วยให้ผักและเนื้อสัตว์มีรสชาติกลมกล่อม และยังคงความนุ่มและชุ่มชื้นในขณะผัด - การใช้ในสลัด
น้ำมันอโวคาโดเหมาะสำหรับการทำสลัด เนื่องจากมีรสชาติที่อ่อนและหอมทำให้เพิ่มรสชาติให้กับสลัดได้ดี โดยสามารถนำมาผสมกับน้ำส้มสายชูหรือส่วนผสมต่าง ๆ สำหรับน้ำสลัด
การเติมน้ำมันอโวคาโดในอาหารเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
น้ำมันอโวคาโดสามารถนำมาใช้ในอาหารได้หลากหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ โดยเฉพาะในด้านการเสริมกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย:
- ใช้เป็นน้ำมันหลักในการปรุงอาหาร: การใช้แทนน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัว เช่น น้ำมันพืชหรือน้ำมันมะพร้าว
- เพิ่มในน้ำสลัด: การใช้น้ำมันอโวคาโดในการทำสลัดจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน (เช่น วิตามิน A, D, E, และ K) ได้ดีขึ้น
- เสริมในเครื่องดื่มสมูทตี้: การเติมน้ำมันอโวคาโดในสมูทตี้จะช่วยเพิ่มกรดไขมันที่ดีและให้ความรู้สึกเต็มอิ่มนานขึ้น
การใช้น้ำมันอโวคาโดในอาหารสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและเสริมสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงได้มากขึ้น
ประโยชน์ของน้ำมันอโวคาโดในด้านความงาม
น้ำมันอโวคาโดเป็นสารบำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFAs), วิตามิน E, วิตามิน K, และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ซึ่งช่วยบำรุงผิวพรรณอย่างล้ำลึกและมีหลายประโยชน์ในการดูแลผิว
การใช้ในสกินแคร์: วิธีการใช้น้ำมันอโวคาโดสำหรับบำรุงผิว
- มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer)
น้ำมันอโวคาโดมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นสูง ซึ่งช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นจากผิวได้ดี สามารถใช้น้ำมันอโวคาโดทาบนผิวหน้าและผิวกายหลังอาบน้ำเพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นและช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม - ครีมบำรุงผิว (Skin Cream)
น้ำมันอโวคาโดสามารถใช้เป็นส่วนผสมหลักในครีมบำรุงผิวที่ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นของผิว ช่วยบรรเทาอาการผิวแห้งกร้านและทำให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น - มาส์กบำรุงผิว (Face Mask)
น้ำมันอโวคาโดสามารถใช้เป็นส่วนประกอบในมาส์กบำรุงผิว โดยการผสมกับส่วนผสมธรรมชาติอื่นๆ เช่น น้ำผึ้ง หรือโยเกิร์ต เพื่อบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและอ่อนเยาว์
การใช้สำหรับการลดริ้วรอยและการฟื้นฟูผิวพรรณ
น้ำมันอโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามิน E ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระและป้องกันการเกิดริ้วรอยในผิวหนัง โดยการใช้เป็นส่วนหนึ่งในสกินแคร์ประจำวันสามารถช่วยลดริ้วรอยและฟื้นฟูผิวที่มีอายุให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้
- ลดการเกิดริ้วรอย: กรดไขมันไม่อิ่มตัวในน้ำมันอโวคาโดช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ผิวดูเต่งตึงและกระชับ
- ฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากมลภาวะ: สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันอโวคาโดช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากมลภาวะและแสงแดด
การใช้ในครีมกันแดดและการบำรุงผิวจากการถูกแดดเผา
- ครีมกันแดด
แม้ว่าน้ำมันอโวคาโดจะไม่สามารถแทนที่ครีมกันแดดได้ แต่การใช้น้ำมันอโวคาโดร่วมกับผลิตภัณฑ์กันแดดจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันผิวจากแสงแดด เนื่องจากน้ำมันอโวคาโดมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสียหายจากรังสียูวี - การบำรุงผิวจากการถูกแดดเผา
หลังจากที่ผิวได้รับแสงแดดจัด น้ำมันอโวคาโดสามารถใช้เป็นตัวช่วยบำรุงผิวจากการถูกแดดเผา โดยการใช้ทาผิวหลังจากอาบน้ำเพื่อฟื้นฟูผิวและลดอาการระคายเคือง ช่วยบรรเทาอาการผิวแห้งหรือเป็นขุยจากการถูกแดดเผา
สรุป
น้ำมันอโวคาโดเป็นตัวเลือกที่ดีในการบำรุงผิวและดูแลสุขภาพผิวในหลายด้าน ทั้งในการให้ความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ฟื้นฟูผิวพรรณที่เสียหายจากมลภาวะและแสงแดด รวมทั้งการใช้งานในสกินแคร์หลากหลายรูปแบบ เช่น มอยส์เจอไรเซอร์ ครีมบำรุงผิว และมาส์กบำรุงผิว ซึ่งจะช่วยให้ผิวพรรณดูสดใส สุขภาพดี และมีความกระชับยิ่งขึ้น
การดูแลเส้นผมด้วยน้ำมันอโวคาโด
น้ำมันอโวคาโดไม่เพียงแต่เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการบำรุงผิวพรรณ แต่ยังเป็นสารบำรุงที่มีประสิทธิภาพสำหรับเส้นผมอีกด้วย ด้วยคุณสมบัติที่อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว, วิตามิน E และสารต้านอนุมูลอิสระ น้ำมันอโวคาโดสามารถช่วยให้เส้นผมดูสุขภาพดี, เงางาม, และไม่แห้งเสีย
ประโยชน์ของน้ำมันอโวคาโดสำหรับการบำรุงเส้นผม
- เพิ่มความเงางามให้เส้นผม
น้ำมันอโวคาโดช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ทำให้เส้นผมดูเงางามและมีสุขภาพดี โดยไม่ทำให้ผมมันหรือหนัก - ลดปัญหาผมแห้งเสีย
น้ำมันอโวคาโดมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผมที่แห้งเสียจากการใช้สารเคมีหรือความร้อน ช่วยให้เส้นผมเรียบเนียนและนุ่มขึ้น - ฟื้นฟูเส้นผม
ด้วยวิตามินและกรดไขมันในน้ำมันอโวคาโด ช่วยฟื้นฟูเส้นผมที่เสียหายจากการทำสี การใช้เครื่องมือร้อน หรือมลภาวะต่างๆ ให้กลับมาแข็งแรงและมีสุขภาพดี
วิธีการใช้น้ำมันอโวคาโดในการทรีทเมนต์เส้นผม
- ใช้น้ำมันอโวคาโดทาบนเส้นผมโดยตรง
- ใช้ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันอโวคาโด (ขึ้นอยู่กับความยาวของผม)
- อุ่นน้ำมันเล็กน้อยเพื่อให้ง่ายต่อการทา
- ทาน้ำมันจากหนังศีรษะถึงปลายผม (หลีกเลี่ยงการทาที่หนังศีรษะถ้ามีแนวโน้มผมมัน)
- ใช้มือหรือแปรงผมช่วยในการกระจายให้ทั่วเส้นผม
- คลุมผมด้วยหมวกอาบน้ำหรือพลาสติกแล้วปล่อยทิ้งไว้ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
- ล้างออกด้วยแชมพูและน้ำอุ่น
- ทำทรีทเมนต์ผมด้วยการนวด
- นวดน้ำมันอโวคาโดที่เส้นผมและหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
- ช่วยให้เส้นผมดูแข็งแรงขึ้นและกระตุ้นการเจริญเติบโต
สูตรมาส์กผมจากน้ำมันอโวคาโดที่สามารถทำได้ที่บ้าน
- สูตรมาส์กน้ำมันอโวคาโด + น้ำผึ้ง + โยเกิร์ต
- ส่วนผสม:
- น้ำมันอโวคาโด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- โยเกิร์ต 2 ช้อนโต๊ะ
- วิธีทำ:
- ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
- ทาบนเส้นผมและหนังศีรษะ ทิ้งไว้ 20-30 นาที
- ล้างออกด้วยน้ำเย็นและแชมพู
- ประโยชน์: น้ำมันอโวคาโดจะช่วยให้ความชุ่มชื้น, น้ำผึ้งช่วยบำรุง, และโยเกิร์ตช่วยทำให้เส้นผมเงางาม
- ส่วนผสม:
- สูตรมาส์กน้ำมันอโวคาโด + ไข่แดง + น้ำมันมะกอก
- ส่วนผสม:
- น้ำมันอโวคาโด 2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่แดง 1 ฟอง
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
- วิธีทำ:
- ผสมไข่แดง, น้ำมันอโวคาโด, และน้ำมันมะกอกให้เข้ากัน
- ทาผสมบนเส้นผมจากรากถึงปลายผม ทิ้งไว้ 20-30 นาที
- ล้างออกด้วยน้ำเย็นและแชมพู
- ประโยชน์: ช่วยฟื้นฟูผมที่แห้งเสีย, ป้องกันการหลุดร่วง และเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม
- ส่วนผสม:
- สูตรมาส์กน้ำมันอโวคาโด + น้ำมันหอมระเหย
- ส่วนผสม:
- น้ำมันอโวคาโด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอมระเหยจากลาเวนเดอร์หรือโรสแมรี่ 5-6 หยด
- วิธีทำ:
- ผสมน้ำมันอโวคาโดกับน้ำมันหอมระเหย
- นวดเบาๆ ที่หนังศีรษะและเส้นผม ทิ้งไว้ 20-30 นาที
- ล้างออกด้วยน้ำเย็นและแชมพู
- ประโยชน์: น้ำมันหอมระเหยช่วยให้ผมมีกลิ่นหอมและเพิ่มการไหลเวียนโลหิตที่หนังศีรษะ
- ส่วนผสม:
สรุป
น้ำมันอโวคาโดเป็นตัวเลือกที่ดีในการดูแลเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงผมแห้งเสีย เพิ่มความเงางาม หรือฟื้นฟูผมให้แข็งแรงขึ้น การใช้น้ำมันอโวคาโดทรีทเมนต์เส้นผมสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยสูตรมาส์กจากส่วนผสมที่หาได้ในบ้าน ทำให้เส้นผมมีสุขภาพดีและเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ
สนใจติดต่อ เวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ประเภท เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ สารพัดด้านเคมี เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line ID : @worldchemical
Facebook : https://www.facebook.com/chemical.chiangmai
เว็บไซต์ : www.worldchemical.co.th
โทร : 053 204 446-7