มาทำความรู้จักกับ น้ำหอม แต่ละแบบกันค่ะ

เราอาจจะรู้จักคำว่า หัวน้ำหอม

Eau De Parfum (EDP)

Eau De Cologne (EDC)

Eau De Toilette (EDT)

แต่เรารู้หรือไม่ว่าแต่ละชนิดที่กล่าวมานี้แตกต่างกันอย่างไร

(ขอบคุณรูปภาษพจาก COSMED)

 

น้ำหอมเกิดจากการผสมกันระหว่างน้ำมันจากพืช น้ำมันสังเคราะห์ พร้อมด้วยแอลกอฮอล์ ซึ่งน้ำหอมแต่ละประเภทก็จะมีสัดส่วนขององค์ประกอบที่แตกต่างกัน

  1. หัวน้ำหอมเป็นสิ่งที่เข้มข้นที่สุดซึ่งมีออยล์น้ำหอมเข้มข้นอยู่ถึง 15% – 40% และแน่นอนว่าน้ำหอมชนิดนี้แพงที่สุด และมีปริมาณน้อย ทั้งนี้ สามารถใช้ไปงานกลางคืน เพราะให้กลิ่นติดทนนานถึง 8 ชั่วโมง โดยขึ้นอยู่กับ Note หรือกลิ่นที่ใช้
  2. Eau De Parfum (EDP)มีออยล์น้ำหอมเข้มข้นประมาณ 10% – 20% ซึ่งเป็นชนิดที่ขายดีเพราะมีราคาถูกกว่าหัวน้ำหอม ให้กลิ่นติดทนนาน 5 ชั่วโมง แต่ไม่เหมาะกับอากาศร้อนและงานที่ต้องใกล้ชิดคนอื่นๆ เพราะอาจจะรู้สึกฉุนเกินไป
  3. Eau De Toilette (EDT)เหมาะสุดๆ สำหรับการใส่ไปทำงานหรือใช้ได้ทุกวัน เพราะมีออยล์น้ำหอมเข้มข้นประมาณ 4% – 10% และราคาไม่แพงจนเกินไป
  4. Eau De Cologne (EDC)นับเป็นชนิดที่อ่อนที่สุดซึ่งมีออยล์น้ำหอมเข้มข้นประมาณ 2% – 3% เท่านั้น ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีผลิตมาเพื่อหนุ่มๆ เท่านั้น แต่ทุกวันนี้สามารถใช้งานได้แบบ Unisex แถมมีราคาถูกที่สุดในบรรดาน้ำหอมแต่ละชนิด แต่ละคงกลิ่นหอมอยู่แค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น

มหัศจรรย์ความหอมจากธรรมชาติ  และพืชสมุนไพรต่างๆ นั้นอยู่เคียงข้างวิถีชีวิตของผู้คน

จากทั่วทุกมุมโลกมายาวนานหลายศตวรรษ   บ้างถูกนำมาใช้ประกอบในพิธีเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

หรือใช้เพื่อการปรนนิบัติบำบัด  หรือใช้เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด ฯลฯ  ไม่เพียงเท่านั้น

ความหอมยังถูกนำมาพัฒนาโดยการสกัด  และกลั่นกรองน้ำมันหอม  จากนั้นนำมาผสมผสานกัน

เพื่อให้ได้กลิ่นหอมใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ในรูปของน้ำหอม ( Parfume ) ที่ถูกนำมาใช้เป็นอาวุธลับ

ในการเสริมสร้างเสน่ห์ให้กับทั้งหนุ่มๆ สาวๆ ทุกคน

ความหอมที่แตกต่างกันของน้ำหอมแต่ละกลิ่น 

ยังสามารถบ่งบอกถึงเอกลักษณ์  และความ

เป็นตัวตนของผู้ใช้ได้อย่างน่าทึ่ง  โดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำพูดใดใดเลย  แต่ก่อนที่เราจะไปรู้สึกถึงบุคลิกความหอมที่แตกต่างกันของกลิ่น  เรามาทำความรู้จักกับน้ำหอม  หรือ Parfume กันก่อนดีมั้ยล่ะคะ

 

สเตปแห่งความหอม  (Fragrance Note)

เพราะส่วนประกอบภายในน้ำหอมแต่ละกลิ่นนั้น  จะประกอบไปด้วยชั้นความหอมที่แตกต่างกันถึง   3  ชั้น  3  Layer  คือ Top Notes, Middle Notes (Heart Notes) และ Base Notes โดยทั้ง 3  ชั้นความหอมนี้จะต้องประสานพลังกันเพื่อรังสรรค์ความหอมที่สมบูรณ์แบบที่สุด  สู่ความหอมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการ  อารมณ์  และความรู้สึก  ต่อไปนี้

#  Top Notes .. กลิ่นหอมแรกที่สัมผัสได้ทันทีที่ฉีดน้ำหอม  และกลิ่นจะค่อยๆ จางหายไป ภายใน 15  นาที  เพื่อสร้างความประทับใจแรก  พร้อมส่งต่อสู่ความหอมกลิ่นต่อไปใน เลเยอร์ที่ 2

#  Middle Notes  หรือ Heart Notes .. ซึ่งเปรียบได้กับหัวใจแห่งความหอม  ซึ่งเป็นความหอมที่ให้ความรู้สึกสบายๆ  หอมละมุน  โดยกลิ่นหอมจะชัดเจนขึ้นหลัง  15  นาทีแรก  และหอมได้นาน  3  – 6  ชม.  อีกทั้งยังเป็นความหอมที่เชื่อมต่อระหว่างกลิ่น Top Notes และ กลิ่น Base Notes ได้อย่างลงตัว

#  Base Notes .. ความหอมกลิ่นสุดท้ายที่จะได้กลิ่นก็ต่อเมื่อกลิ่น Middle Notes ค่อยๆ จางหาย  และความหอม Base Notes จะทำหน้าที่สานต่อความหอมจาก Middle Notes เพื่อสร้างความละมุน  และซับซ้อนยิ่งขึ้นของความหอม

ขอบคุณข้อมูลจาก  Oriental Princess

 

 

สนใจติดต่อ เวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ประเภท เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ สารพัดด้านเคมี เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line ID : @worldchemical
Facebook : https://www.facebook.com/chemical.chiangmai
เว็บไซต์ : www.worldchemical.co.th
โทร : 053 204 446-7