วิธีทำให้เศษอาหาร ให้เป็นประโยชน์

ปริมาณขยะเศษอาหารเหลือทิ้งทั่วโลกในแต่ละปี มีจำนวนถึง 1,300 ล้านตัน หรือเทียบได้เป็น 1 ใน 3 ของอาหารที่ถูกผลิตได้ทั่วโลก และสำหรับในประเทศไทย คนไทย 1 คน จะสร้างขยะอาหารมากถึง 254 กิโลกรัมต่อปี นับว่าเยอะมากเลยทีเดียว ขยะอาหารเหล่านี้ถูกผลิตมาโดยไม่ได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ใดๆ ทั้งที่อุตสาหกรรมอาหารมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 25% ของโลก ส่งผลทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและปล่อยมลพิษจำนวนมาก ส่วนสาเหตุนั้นเกิดมาจากการทานอาหารไม่หมด อาหารหมดอายุก่อนรับประทาน อาหารถูกคัดทิ้งในกระบวนการผลิต ฯลฯ และในฐานะผู้บริโภคมีวิธีกำจัดเศษอาหารอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้โลกของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น ไปดูกันเลย

1. แยกขยะอินทรีย์ใส่ถุง ส่งเทศบาลกำจัดต่อ

การแยกขยะเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม มักเคยชินกับการทิ้งขยะทุกอย่างลงในถุงเดียวกัน แต่รู้หรือไม่ว่าการแยกขยะนั้นถือว่ามีประโยชน์กับโลกของเรามาก ทั้งลดปริมาณขยะ ลดการสิ้นเปลืองพลังงาน ลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และยังช่วยให้เจ้าหน้าที่กำจัดขยะสามารถทำงานได้สะดวกและปลอดภัยขึ้นอีกด้วย โดยหลักๆ แล้วควรแยกขยะออกเป็น 4 แบบด้วยกัน ได้แก่

  • ขยะทั่วไป มักเป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยาก ไม่คุ้มค่าถ้าจะนำไปรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ แต่ก็ไม่เป็นพิษ ไม่เป็นสารอันตราย เช่น ห่อขนม ถุงพลาสติก ถุงบรรจุผงซักฟอก โฟมเปื้อนเศษอาหาร ฟอยล์เปื้อนเศษอาหาร ซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น
  • ขยะรีไซเคิล เป็นขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เช่น ขวดพลาสติก ขวดแก้ว กระป๋องเครื่องดื่ม เศษโลหะ อะลูมิเนียม ยางรถยนต์ กล่องนมแบบ UHT กระดาษ และกล่องลังกระดาษ
  • ขยะอันตราย ยิ่งมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องแยกออกจากขยะอื่น เพราะเป็นขยะที่มีองค์ประกอบหรือสารปนเปื้อนอันตรายชนิดต่างๆ เช่น สารพิษ วัตถุระเบิด วัตถุติดเชื้อ วัตถุกัมมันตรังสี วัตถุไวไฟ กระป๋องสเปรย์ ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และยาที่หมดอายุแล้ว
  • ขยะอินทรีย์ คือ ขยะที่เกิดการเน่าเสียได้เร็ว และย่อยสลายใช้เวลาไม่นาน สามารถนำมาทำปุ๋ยหมักได้ ขยะชนิดนี้พบได้มากที่สุดถึง 64% ของปริมาณขยะทั้งหมด ตัวอย่างขยะอินทรีย์ เช่น เศษอาหารต่างๆ เศษผัก เศษเนื้อสัตว์ เศษใบไม้ และเปลือกผลไม้ แต่จะไม่รวมถึงเศษผักผลไม้ เศษเนื้อสัตว์ ที่เกิดจากการทดลองในห้องปฏิบัติการ

การทิ้งขยะโดยการแยกขยะแบบนี้ ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นร้านอาหาร ร้านค้า หรือโรงงานต่างๆ เท่านั้น แต่ยังเหมาะกับนำมาใช้ในครัวเรือนทุกบ้าน ในบทความนี้จะมาแชร์ทริคการแยกขยะในบ้านแบบง่ายๆ กันสักเล็กน้อย เช่น วิธีกำจัดเศษอาหาร ทำได้โดยการแยกเศษอาหารออกจากขยะอื่นๆ และใส่ลงถุงขยะ จากนั้นเทศบาลจะนำไปฝังกลบหรือทำปุ๋ยหมักต่อไป หรือทำปุ๋ยด้วยตัวเองง่ายๆ โดยใช้เครื่องย่อยเศษอาหารเป็นตัวช่วยก็ได้เช่นกัน

2. เปลี่ยนเศษอาหาร ไปเป็นอาหาร

วิธีกำจัดเศษอาหารไม่จำเป็นจะต้องนำไปทำเป็นปุ๋ยได้เท่านั้น จะทิ้งเศษอาหารไปทั้งหมดก็น่าเสียดาย จริงๆ แล้วเศษอาหารบางอย่างยังมีคุณค่าสามารถนำไปทำประโยชน์อื่นได้ อย่างการนำมาใช้ใหม่ หรือเปลี่ยนเป็นอาหาร เห็นแบบนี้แล้วไปดูกันเลยดีกว่าว่าเศษอาหารแบบไหนบ้างที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้

     นำไปปลูกใหม่

เศษผักมากมายอย่าเพิ่งเททิ้ง ผักบางชนิดอาจนำไปปลูกใหม่เพื่อให้เราได้กินกันต่อไป ทำการปลูกใหม่ได้โดยใช้ส่วนที่เหลือจากการรับประทาน เช่น ต้น ใบ หรือกิ่ง ตามแต่ชนิดพืชนั้นๆ พืชที่สามารถนำมาปลูกต่อได้ ตัวอย่างเช่น โหระพา สะระแหน่ แมงลัก ผักกาดหอม ตะไคร้ มันฝรั่ง กระเทียม ขิง บีทรูท และอื่นๆ อีกหลากหลายชนิด วิธีนี้นอกจากจะเป็นการประหยัดแล้ว ยังได้ผักที่สดใหม่ สะอาด และปราศจากสารพิษตกค้าง

     นำไปเลี้ยงสัตว์

วิธีกำจัดเศษอาหารและการแยกขยะนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้าหากเราแยกขยะได้อย่างเหมาะสม ก็สามารถนำไปใช้ต่อให้เกิดประโยชน์ได้ อย่างเช่นการนำเศษอาหารไปเลี้ยงสัตว์ โดยต้องเลือกประเภทให้เหมาะสมกับสัตว์แต่ละชนิด เช่น เศษผักและผลไม้สามารถนำไปเลี้ยงเป็ดและไก่ได้ เศษเนื้อสัตว์ไม่ติดกระดูกนำไปเลี้ยงสุนัข หรือเศษอาหารเล็กๆ ก็นำไปให้ปลาตอดกิน

     นำไปใช้ประโยชน์ต่อ

นอกจากจะเอาเศษอาหารไปปลูกใหม่หรือเลี้ยงสัตว์แล้ว เศษอาหารบางชนิดสามารถเปลี่ยนจากขยะไร้ค่า ไปเป็นสิ่งของมีประโยชน์ได้ด้วย เช่น กากกาแฟ สามารถนำมาเช็ดทำความสะอาดคราบมันบนกระทะหรือภาชนะต่างๆ หรือน้ำมันใช้แล้วจากการปรุงอาหาร เทรวมกันแยกออกจากขยะชนิดอื่นแล้วส่งต่อเพื่อทำไบโอดีเซล หรือเปลือกไข่ล้างสะอาดนำไปบดละเอียดผสมดินปลูกต้นไม้ได้

3. นำเศษอาหารเหลือทิ้ง ไปเป็นปุ๋ย

ขยะอินทรีย์หรือเศษอาหารเหลือทิ้ง ควรแยกอาหารที่มีความชื้นสูงออกไปก่อน เช่น น้ำซุป น้ำแกง น้ำจากผักผลไม้ และถ้าหากต้องการให้ย่อยสลายได้เร็วขึ้นก็ควรหั่นเศษอาหารให้เป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำไปผสมกับดิน ปุ๋ยคอกแห้ง กากกาแฟ เศษใบไม้กิ่งไม้ เพื่อช่วยดูดความชื้น และผสมอาหารจุลินทรีย์อย่างน้ำตาลหรือกากน้ำตาลที่เป็นตัวเร่งอัตราการย่อยสลาย คลุกให้เข้ากันจนแห้งแล้วหมักทิ้งไว้ในถังหรือกล่อง ทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ เราก็จะได้ปุ๋ยแห้งเอาไว้ผสมกับดินสำหรับปลูกต้นไม้ต่อไปแล้ว หรือว่าจะใช้เศษผักหรือเปลือกผลไม้ผสมกากน้ำตาลและน้ำ หมักทิ้งเอาไว้เพื่อเป็นน้ำหมักชีวภาพ และนำไปผสมน้ำใช้รดน้ำบำรุงต้นไม้ก็ได้เช่นกัน

  • วิธีใช้ EM ในการหมักทำปุ๋ย

การเติม EM ไปในถังเสมือนเติม EM ในโถสุขภัณฑ์ คือจะช่วยย่อยเศษอาหาร และกากเน่าเสียต่างๆ ข้อดีคือ ลดกลิ่นเหม็น สิ่งปฏิกูลหรือเศษอาหารถูกย่อยลดลง และได้น้ำหมักมาสำหรับเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ EM ที่เขาใส่กากน้ำตาล เพื่อเป็นอาหารให้กับจุลินทรีย์ ดังนั้นถ้าเรามีวัตถุประสงค์เพื่อย่อยเศษอาหาร/ผัก/ผลไม้ เท่านั้น ก็เติม EM เป็นรอบๆ เพราะจุลินทรีย์ถ้าปล่อยไม่มีอาหารหรืออยู่ในสภาวะไม่เหมาะสมก็ตายได้ จึงต้องเติม EM ใหม่เป็นระยะ แนะนำให้ทุกๆ 15 วันจะต้องนำมาแยกกาก แล้วทำใหม่ โดยส่วนมากจะไม่ให้โดนอากาศหรืออยู่ในระบบปิดค่ะ

1. ใช้เศษพืช ผัก ผลไม้ หรือเศษอาหาร ที่ยังไม่บูดเน่า นำมาสลับหรือบดให้เป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ภาชนะที่มีฝาปิด เช่น ถังพลาสติก หรือโอ่ง
2. ใส่กากน้ำตาลลงไป ใน ของน้ำหนักผัก (1:3) ในอัตราส่วนนี้ถ้ามีน้ำสกัดชีวภาพอยู่แล้วให้ใส่กากน้ำตาลน้อยลง
3. มีของหนักวางทับผักไว้ แล้วปิดฝาทิ้งไว้ 5 – 7 วัน
4. จะมีของเหลวสีน้ำตาลไหลออกมาคือ น้ำสกัดชีวภาพ กรอกใส่ขวดปิดฝาให้สนิทพร้อมที่จะมานำมาใช้

ปัญหาเศษขยะอาหารนั้นเกิดจากอาหารที่หลงเหลือจากการรับประทานอาหารไม่หมด หรืออาหารหมดอายุไปเสียก่อน รวมถึงเกิดจากการถูกคัดทิ้งในกระบวนการผลิต ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อโลกของเรามากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ภาวะโลกร้อน มลพิษในสิ่งแวดล้อม พลังงานและค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะที่มากเกินกว่าที่ควรจะเป็น วิธีกำจัดเศษอาหารที่ทุกคนสามารถช่วยกันได้ก็คือการแยกขยะอาหารออกจากขยะชนิดอื่นๆ และนำเศษอาหารไปใช้ประโยชน์ต่อตามความเหมาะสมของแต่ละคน หรือส่งต่อให้เทศบาลเป็นคนกำจัดต่อไป แต่ทางที่ดีที่สุดคือควรตระหนักถึงการไม่กินเหลือ ทำอาหารหรือสั่งอาหารให้พอดีกับปริมาณที่กินไหว เพื่อลดการเกิดปัญหาเศษอาหาร ถ้าทุกคนร่วมมือกันโลกของเราต้องน่าอยู่ขึ้นได้แน่นอน

                                                                                 

 

สนใจติดต่อ เวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ประเภท เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ สารพัดด้านเคมี เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line ID : @worldchemical
Facebook : https://www.facebook.com/chemical.chiangmai
เว็บไซต์ : www.worldchemical.co.th
โทร : 053 204 446-7