วิธีล้างเครื่องซักผ้า ‘ด้วยตัวเอง’ ที่ใครก็ทำได้

การใช้ ผงล้างเครื่องซักผ้า จะช่วยให้คุณแก้ปัญหา ซักผ้าทีไรไม่สะอาดสักที เจอคราบคล้ายฝุ่นหรือจุดดำติดเต็มไปหมด เท่านั้นยังไม่พอยังมีเรื่องกลิ่นอับอีก เจอแบบนี้เป็นสัญญาณบอกเหตุว่า เราไม่ได้ล้างเครื่องซักผ้ากันนานเกินไปแล้ว เพราะการล้างถังซักผ้าเป็นเรื่องจำเป็นที่หลายบ้านมองข้าม เพราะสิ่งสกปรกจากการซักผ้าในแต่ละวันจะตกค้างและสะสมอยู่ภายในถังซัก

ล้างเครื่องซักผ้า สำคัญอย่างไร?

ในปัจจุบัน เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 10 – 12 ปี โดยมีโหมดหรือโปรแกรมในการทำความสะอาดถังซักมาให้ด้วย และน้อยคนนักที่จะใช้โหมดนี้ หรืออาจจะไม่เคยใช้เลย เพราะคิดว่าทุกครั้งที่ซักเสื้อผ้า ยังไงผงซักฟอกก็น่าจะช่วยล้างถังซักในตัวอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องทำความสะอาด หรือ ล้างเครื่องซักผ้าอีก ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เนื่องจากภายในเครื่องซักผ้าไม่ได้มีแค่ถังสเตนเลส และจานหมุนที่ก้นถัง แต่ยังประกอบไปด้วยถังพลาสติกที่ครอบตัวถังสเตนเลสและชิ้นส่วนต่างๆ อีกมากมาย ทุกครั้งที่คุณซักเสื้อผ้า คราบสิ่งสกปรกที่ตกค้างจากเสื้อผ้าของคุณก็จะไปติดตามซอกของตัวถัง เมื่อสิ่งสกปรกเหล่านี้สะสมเป็นเวลานาน จะเต็มไปด้วยคราบตะกอนสีน้ำตาลที่คล้ายกับโคลน เป็นแหล่งหมักหมมเชื้อโรคชั้นดีเลยทีเดียว อีกทั้งขอบยางที่มีความชื้นก็ยังทำให้เกิดเชื้อรา และช่วยให้แบคทีเรียเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เกิดเป็นจุดดำๆ ที่ไม่น่ามอง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดกลิ่นอับภายในถังซัก ส่งผลให้เสื้อผ้าของคุณมีกลิ่นอับในใยผ้า ทำให้เสื้อผ้าหมองเร็ว และอาจมีส่วนทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ที่ผิวหนังได้ ดังนั้นการล้างเครื่องซักผ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรจะทำ เพื่อขจัดคราบสิ่งสกปรก และเชื้อรา ทำให้เสื้อผ้าของคุณสะอาด ไม่หมอง ไร้กลิ่นอับ กลับมาสวยงามดังเดิม

เคมีภัณฑ์,สารเคมีภัณฑ์,เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม,เคมีภัณฑ์เชียงใหม่,ร้านเคมีใกล้ฉัน

ทำไมต้องล้างเครื่องซักผ้า ?

เมื่อเครื่องซักผ้าถูกใช้ไปสักระยะ ภายในเครื่องจะมีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ตามซอก ไม่ว่าจะเป็น คราบอาหาร คราบเหงื่อ เซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมไปถึงหินปูนที่มากับน้ำประปา และถ้าหากบ้านไหนชอบใส่ผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มเกินกว่าที่เขากำหนด จะยิ่งทำให้เกิดการตกค้างของสิ่งเหล่านั้นอยู่ภายในเครื่อง ซึ่งการล้างถังซักผ้าเป็นประจำทุกเดือนจะมีประโยชน์ดังนี้

  • ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพราะเครื่องซักผ้าต้องอยู่กับน้ำตลอดเวลา แม้จะทิ้งน้ำหลังการซักแล้ว ก็ยังมีน้ำหลงเหลืออยู่ตามซอก ทำให้เกิดความชื้นจนมีกลิ่นอับตามมาได้
  • ช่วยกำจัดเชื้อโรค เชื้อโรค แบคทีเรีย และสิ่งสกปรก ที่ตกค้างจากคราบเหงื่อและมลภาวะจะถูกชะล้างไปกับน้ำ สุดท้ายก็ไปตกค้างอยู่รอบถังซักผ้านั่นเอง
  • ผ้าสะอาดกว่าเดิม คราบสกปรกที่ถังซักผ้า ทำให้ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ ไม่ว่าจะใช้ผงซักฟอกที่ดีแค่ไหน เสื้อผ้าก็ไม่สะอาด จึงควรล้างถังบ้างเพื่อให้ซักผ้าได้สะอาดกว่าเดิม
  • ยืดอายุการใช้งานเครื่องซักผ้า เพราะการล้างถังซักผ้าเป็นประจำ จะทำให้สิ่งสกปรกไม่ตกค้างจนฝังแน่นอยู่ภายใน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ซักผ้าไม่สะอาดและต้องซื้อเครื่องซักผ้าใหม่

การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าถือเป็นสิ่งจำเป็นเพราะสิ่งสกปรกมักสะสมค้างอยู่ตามซอกเล็ก ๆ บริเวณถังซักเป็นจำนวนมากจากการที่ชำระคราบสิ่งสกปรกมากมายออกจากเสื้อผ้าของคุณ ซึ่งพอพูดถึงการล้างเครื่องซักผ้าหลายคนอาจยังไม่เข้าใจพลางคิดไปว่าต้องจ้างช่างมาถอดล้างเหมือนกับแอร์บ้านแน่ ๆ

แต่แท้ที่จริงแล้วมันสะดวกและง่ายกว่านั้นมากเพียงแค่ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับล้างเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ ซึ่งมีวิธีใช้งานง่ายมาก มีทั้งชนิดน้ำและชนิดผง

วิธีล้างเครื่องซักผ้าด้วยชุดทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

โดยที่ร้านของเราก็จะมี สินค้า 2 ตัวคือ ผงล้างเครื่องซักผ้า และ ชุดทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ส่วนวิธีใช้ จะแตกต่างกันเล็กน้อย โดยจะอธิบายรายละเอียดให้อีกครั้ง แต่วิธีที่เหลือส่วนใหญ่จะคล้ายกันคือ เมื่อนำผงล้างเครื่องซักผ้า หรือ ชุดทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ใส่เครื่องซักผ้าแล้วกดปุ่มซักปกติ หรือหากเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ที่มีระบบล้างถังก็ให้ใช้ระบบดังกล่าวแทนซักปกติ ถ้าเป็นไปได้ควรตั้งอุณหภูมิของน้ำขณะล้างให้อุ่นประมาณ 40-90 องศาเซลเซียส เพื่อให้ถังสะอาดยิ่งขึ้น โดยที่เติมน้ำลงถังระดับสูงสุด และไม่ต้องใส่ผ้าลงไป แล้วปล่อยแช่ทิ้งไว้อีกประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง ถ้ามีเศษผง หรือคราบสิ่งสกปรกลอยขึ้นมาให้ตักออก ให้เลือกโปรแกรมซักแบบปกติให้เครื่องทำงานจนหมดรอบซัก และปั่นเพื่อล้างคราบสกปรกอีกรอบจนกว่าถังจะสะอาดเป็นชุดทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ที่สามารถฆ่าเชื้อที่กำจัดคราบสิ่งสกปรกที่ฝังแน่นได้เป็นอย่างดี รวมถึงกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ภายในถังซักอีกด้วย

ผงล้างเครื่องซักผ้า เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ที่สามารถนำมาใช้ทำความสะอาดถังซักผ้าโดยเฉพาะ ถ้าเป็นแบบผงจะมีลักษณะคล้ายกับผงซักฟอกที่ใช้ซักผ้ากันตามปกติ โดยปริมาณที่ใช้ คือ 500 กรัม หรือ 1/2 ของถุง ต่อเครื่องซักผ้าขนาดไม่เกิน 10 kg.  วิธีในการล้างนั้นง่ายมาก เพียงแค่คุณใส่ ผงล้างเครื่องซักผ้า ลงไปในเครื่องซักผ้า หลังจากนั้นให้เลือกโหมดล้างถังซัก ถ้าใครไม่มีก็ตั้งซักปกติ

ผงล้างเครื่องซัก ,เคมีภัณฑ์,สารเคมีภัณฑ์,เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม,เคมีภัณฑ์เชียงใหม่,ร้านเคมีใกล้ฉัน

ชุดทำความสะอาดเครื่องซักผ้า เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ที่สามารถนำมาใช้ทำความสะอาดถังซักผ้าโดยเฉพาะ โดย 1 ชุด จะมี Part A และ Part B จะมีลักษณะผง และ น้ำ วิธีการใช้คือ ผสมชุดทำความสะอาดเครื่องซักผ้า Part A และ Part B ในตัวถังเครื่องชักผ้า โดยปริมาณที่ใช้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดความจุของถังซัก โดยจะมีบอกอัตราการใช้งานว่า 1 ชุดเล็กใช้กับถังขนาดไม่เกิน 10 กิโลกรัม และ 1 ชุดใหญ่ใช้กับถังขนาด 20 กิโลกรัม

ผงล้างเครื่อง-ชุดเล็ก, เคมีภัณฑ์,สารเคมีภัณฑ์,เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม,เคมีภัณฑ์เชียงใหม่,ร้านเคมีใกล้ฉัน

จุดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ควรลืม

ถุงกรองฝุ่น ใครหลายๆ คนเองก็คงจะเห็นว่าในถังซักมีถุงกรองฝุ่นอยู่ แล้วตัวถุงทำหน้าที่ในการดักจับฝุ่น เชื้อโรค หรือแม้กระทั่งพวกคราบสิ่งสกปรก หากคุณไม่เคยนำถุงกรองฝุ่นมาทำความสะอาดเลย ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของเครื่องซักผ้าน้อยลง ทำให้เสื้อผ้าของคุณดูหมอง สกปรก วิธีในการทำความสะอาดง่ายมาก เพียงแค่คุณถอดถุงออก แล้วเทก้อนฝุ่นที่อยู่ในถุงออกมา ไม่แนะนำให้ขัด หรือถูแรงๆ เพราะจะเป็นการทำลายโครงสร้างของเส้นใยถุงโดยตรง ส่งผลให้ไม่สามารถดักจับฝุ่นได้เต็มประสิทธิภาพ

ช่องใส่ผงซักฟอก หรือน้ำยาซักผ้า ช่องนี้จะเป็นส่วนที่น้ำไหลผ่านเป็นประจำ คุณเองก็คงคิดว่าไม่ต้องทำความสะอาดก็ได้ แต่ถ้าหากคุณลองดึงช่องออกมาดู จะพบว่ามีคราบน้ำยา หรือผงซักฟอกที่เกาะอยู่กันเป็นก้อน แล้วผงซักฟอกที่อับชื้น เป็นแหล่งสะสมของเชื้อราชั้นดีเลย ทางที่ดีคุณควรจะล้าง เพื่อกำจัดผงซักฟอก หรือน้ำยาเก่าออกจากตัวเครื่องให้หมดก่อน โดยคุณสามารถนำแปรงขนแข็ง หรือฟองน้ำด้านหยาบมาขัดตามซอกของช่อง ถ้ารุ่นไหนถอดได้ก็ให้นำไปแช่น้ำทิ้งไว้สัก 20 นาที แล้วค่อยเอามาขัดขจัดคราบ เพื่อเป็นการลดการเกิดเชื้อราในเครื่องซักผ้าของคุณ

เปิดฝาเครื่องทิ้งไว้ หากคุณปิดฝาเครื่องทันทีหลังจากที่ซักเสร็จ ทำให้ภายในถังซักยังมีความชื้นอยู่ จะทำให้เกิดจุดดำ ๆ หรือเชื้อราเกาะอยู่ตามขอบ และส่วนอื่นของตัวเครื่อง ที่แม้แต่คุณเองก็มองไม่เห็น ส่งผลให้เสื้อผ้าของคุณเกิดกลิ่นอับ เพราะความชื้นเป็นต้นตอของเชื้อรา และกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ แนะนำให้คุณเปิดฝาทิ้งเอาไว้ก่อน หลังจากที่ซักผ้าเสร็จ ควรเปิดไว้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง ให้อากาศถ่ายเทภายในเครื่อง เพื่อที่ถังซักของคุณจะได้ไม่มีความชื้นหลงเหลืออยู่ และยังช่วยลดกลิ่นอับของเสื้อผ้าคุณอีกด้วย

ใครที่กำลังมีปัญหากับการซักเสื้อผ้ามักพบคราบฝุ่น หรือสิ่งสกปรกติดอยู่บ่อยๆ การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เสื้อผ้าของคุณกลับมาดูสะอาด ไม่หมอง แถมยังช่วยป้องกันในเรื่องของการสะสมเชื้อโรค และกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการล้างถังซักด้วยวิธีการใช้ผงหรือน้ำยาล้างเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ ถ้าใครไม่มีก็สามารถใช้ น้ำส้มสายชู หรือ เบกกิ้งโซดา ซึ่งเป็นของที่หลายคนมีติดบ้านอยู่แล้ว หากไม่มีก็สามารถหาซื้อได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ควรทำความสะอาดถุงกรองฝุ่น กับช่องที่ใส่น้ำยาซักผ้า และไม่ควรที่จะลืมเปิดฝาเครื่องทิ้งเอาไว้หลังจากที่ซักผ้าเสร็จสัก 2 – 3 ชั่วโมง เพราะนอกจากวิธีเหล่านี้จะทำให้เสื้อผ้าของคุณกลับมาดูสดใส ไม่มีกลิ่นอับชื้นแล้ว ควรจะทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละครั้งเป็นการช่วยถนอมเครื่องซักผ้าของคุณและยืดอายุการใช้งานอีกด้วย

 

เวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ประเภท เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ สารพัดด้านเคมี เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line ID : @worldchemical
Facebook : https://www.facebook.com/chemical.chiangmai
เว็บไซต์ : www.worldchemical.co.th
โทร : 053 204 446-7