เกลือเม็ด (Sodium Chloride)

เกลือเม็ด (Sodium Chloride) เป็นสารเคมีที่พบได้ทั่วไปทั้งในธรรมชาติและชีวิตประจำวัน มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์จากเกลือมาหลายพันปี ไม่ว่าจะเป็นในด้านการบริโภค การรักษาอาหาร การใช้งานในอุตสาหกรรม หรือแม้แต่การรักษาสุขภาพ ความสำคัญของเกลือมีทั้งในด้านเศรษฐกิจ การแพทย์ และวัฒนธรรมทั่วโลก

1. เกลือเม็ดคืออะไร?

1.1 โครงสร้างทางเคมี

เกลือเม็ด หรือ โซเดียมคลอไรด์ (Sodium Chloride – NaCl) มีโครงสร้างทางเคมีที่ค่อนข้างเรียบง่ายแต่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเกลือเม็ดประกอบด้วยสององค์ประกอบหลักคือ ไอออนของโซเดียม (Na⁺) และ ไอออนของคลอไรด์ (Cl⁻) ซึ่งจับตัวกันผ่านพันธะไอออนิกที่เกิดจากแรงดึงดูดระหว่างไอออนบวกและไอออนลบ

การเกิดพันธะไอออนิกในโซเดียมคลอไรด์

ในการสร้างเกลือเม็ด โซเดียมจะสูญเสียอิเล็กตรอนหนึ่งตัวไปยังคลอรีน ทำให้เกิดไอออนบวกโซเดียม (Na⁺) และไอออนลบคลอไรด์ (Cl⁻) การที่ไอออนทั้งสองมีประจุตรงข้ามกันทำให้เกิดแรงดึงดูดทางไฟฟ้า และจับตัวกันเป็นผลึกเกลือที่มีลักษณะเป็นโครงสร้างแข็งแรงในรูปแบบ ลูกบาศก์ (Cubic lattice structure) ซึ่งเป็นลักษณะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในผลึกเกลือเม็ด

โครงสร้างผลึกของเกลือ

เกลือเม็ดมีลักษณะเป็นผลึกที่ประกอบด้วยไอออน Na⁺ และ Cl⁻ เรียงตัวกันเป็นระเบียบในรูปทรงลูกบาศก์แต่ละด้านอย่างสมมาตร ทำให้เกลือมีความแข็งแรงและเสถียรในการเชื่อมต่อระหว่างไอออน โครงสร้างนี้ยังเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติของเกลือ เช่น การละลายได้ง่ายในน้ำ และการคงรูปเป็นผลึกเมื่ออยู่ในสภาวะที่ไม่มีน้ำ

สมบัติทางเคมีของเกลือเม็ด

  • การละลายในน้ำ: เกลือเม็ดละลายได้ดีในน้ำ เนื่องจากน้ำมีขั้วไฟฟ้าบวกและลบที่สามารถแยกไอออน Na⁺ และ Cl⁻ ออกจากกัน ทำให้เกลือสามารถแตกตัวในน้ำได้อย่างรวดเร็ว
  • การนำไฟฟ้า: เมื่อละลายอยู่ในน้ำ หรืออยู่ในรูปสารละลาย เกลือเม็ดจะนำไฟฟ้าได้ เนื่องจากไอออนที่แตกตัวในน้ำสามารถเคลื่อนที่และนำพาประจุไฟฟ้าไปได้
  • จุดหลอมเหลวและจุดเดือด: เกลือเม็ดมีจุดหลอมเหลวสูงที่ประมาณ 801°C และจุดเดือดที่ประมาณ 1,413°C ซึ่งแสดงถึงความเสถียรทางโครงสร้างของผลึก NaCl

สรุปแล้ว โครงสร้างทางเคมีของเกลือเม็ดคือการรวมตัวระหว่างไอออนของโซเดียมและคลอไรด์ ซึ่งจับกันเป็นผลึกในโครงสร้างแบบลูกบาศก์ ทำให้เกลือเม็ดมีคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมต่าง ๆ

 

 

1.2 แหล่งที่มาของเกลือ
เกลือสามารถสกัดได้จากสองแหล่งหลักคือ เกลือทะเลและเกลือหิน ซึ่งเกิดจากการระเหยน้ำทะเลหรือจากการทำเหมืองหินเกลือ

2. ประวัติศาสตร์ของการใช้เกลือ

เกลือเม็ด หรือโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) เป็นสารธรรมชาติที่สามารถหาได้จากหลายแหล่งทั่วโลก ซึ่งแบ่งออกได้เป็นสองแหล่งใหญ่หลัก ได้แก่ เกลือทะเล และ เกลือหิน ทั้งสองแหล่งมีวิธีการผลิตและการสกัดที่แตกต่างกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือตัวเกลือซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายกัน นอกจากนี้ยังมีเกลือที่ได้จากแหล่งน้ำเกลือใต้ดินอีกด้วย

1.2.1 เกลือทะเล

เกลือทะเล คือเกลือที่ได้จากการระเหยน้ำทะเล ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของเกลือที่แพร่หลายมากที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่ติดทะเลหรือมีพื้นที่ตื้น ๆ ที่น้ำทะเลสามารถเข้ามาได้ กระบวนการผลิตเกลือทะเลนั้นเริ่มจากการปล่อยน้ำทะเลเข้าสู่แอ่งตื้น ๆ และให้แสงแดดทำการระเหยน้ำออกไปทีละน้อย จนกระทั่งเกลือเริ่มจับตัวเป็นผลึกและสามารถเก็บเกี่ยวได้

ขั้นตอนการผลิตเกลือทะเล:

  1. การปล่อยน้ำทะเลเข้าสู่บ่อระเหย: น้ำทะเลจะถูกปล่อยเข้าสู่บ่อหรือแอ่งตื้น ๆ ที่สร้างไว้ใกล้ชายฝั่งทะเล ซึ่งพื้นที่เหล่านี้มักจะเป็นที่เปิดโล่งเพื่อให้แสงแดดส่องถึง
  2. การระเหยน้ำ: หลังจากที่น้ำทะเลถูกปล่อยเข้าไปในบ่อ แสงแดดจะทำการระเหยน้ำออกไป ซึ่งเป็นกระบวนการธรรมชาติ เมื่อเวลาผ่านไป ความเข้มข้นของเกลือในน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้น
  3. การตกตะกอนของเกลือ: เมื่อปริมาณน้ำระเหยออกไป เกลือจะเริ่มตกตะกอนและจับตัวเป็นผลึกที่พื้นบ่อ ผลึกเกลือจะมีลักษณะเป็นเกลือเม็ดที่พร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยว
  4. การเก็บเกี่ยวและแปรรูป: หลังจากเกลือจับตัวเป็นเม็ด เกลือจะถูกเก็บเกี่ยวแล้วนำไปล้างและแปรรูปเพื่อลดสิ่งสกปรกก่อนจะนำไปจำหน่าย

นอกจากโซเดียมคลอไรด์แล้ว เกลือทะเลยังมีแร่ธาตุอื่น ๆ เช่น แมกนีเซียม โพแทสเซียม และแคลเซียม ซึ่งละลายอยู่ในน้ำทะเล ทำให้เกลือทะเลมีรสชาติและคุณสมบัติที่แตกต่างจากเกลือหิน

1.2.2 เกลือหิน

เกลือหิน หรือที่เรียกว่า หินเกลือ (Halite) เป็นเกลือที่เกิดจากการสะสมและตกตะกอนของเกลือในชั้นใต้ดินเมื่อหลายล้านปีก่อน แหล่งเกลือหินส่วนใหญ่พบได้ในพื้นที่ที่เคยเป็นทะเลสาบหรือทะเลที่ระเหยออกไปแล้ว ปัจจุบันเกลือหินถูกขุดขึ้นมาและนำไปใช้ในอุตสาหกรรม การบริโภค และการละลายน้ำแข็ง

ขั้นตอนการผลิตเกลือหิน:

  1. การทำเหมืองเกลือหิน: เกลือหินถูกขุดขึ้นมาจากเหมืองใต้ดิน โดยกระบวนการทำเหมืองมักจะใช้เครื่องจักรขุดเจาะที่ทันสมัยเพื่อลดความเสียหายต่อแหล่งเกลือ เกลือหินที่ขุดขึ้นมานั้นจะมีลักษณะเป็นก้อนหินสีขาวหรือเทาใส
  2. การแปรรูป: หลังจากที่เกลือหินถูกขุดขึ้นมา มันจะถูกนำไปแปรรูปเพื่อลดสิ่งสกปรกและบดให้เป็นเม็ดละเอียดพร้อมสำหรับการใช้งาน เกลือหินมักถูกใช้ในอุตสาหกรรม เช่น การทำความสะอาดถนนที่มีน้ำแข็ง หรือใช้ในการผลิตคลอรีนและโซเดียมไฮดรอกไซด์

เกลือหินมักพบได้ในพื้นที่ที่เคยเป็นทะเลสาบหรือทะเลที่แห้งสนิท เช่น ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมนี และจีน เป็นต้น ซึ่งแหล่งเกลือหินเหล่านี้มีการสะสมของเกลือมานานหลายล้านปี

1.2.3 น้ำเกลือใต้ดิน

นอกจากเกลือทะเลและเกลือหินแล้ว ยังมีแหล่งเกลืออีกแหล่งหนึ่งคือ น้ำเกลือใต้ดิน น้ำเกลือใต้ดินเกิดจากน้ำที่ไหลผ่านชั้นหินเกลือใต้ดินทำให้มีความเข้มข้นของเกลือสูง การสกัดน้ำเกลือใต้ดินทำได้โดยการสูบน้ำเกลือขึ้นมาบนพื้นดินแล้วให้แสงแดดระเหยน้ำออก หรือใช้กระบวนการอื่น ๆ เพื่อแยกเกลือออกจากน้ำ

การสกัดน้ำเกลือใต้ดินนี้เป็นวิธีการที่เหมาะสมในพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำเกลือใต้ดินที่เข้มข้น แหล่งเกลือนี้มักมีความบริสุทธิ์สูง และใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตเกลือสำหรับอุตสาหกรรมเคมี

1.2.4 ความแตกต่างระหว่างเกลือทะเลและเกลือหิน

แม้ว่าเกลือทะเลและเกลือหินจะเป็นเกลือโซเดียมคลอไรด์เหมือนกัน แต่ทั้งสองมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันเล็กน้อย เกลือทะเลมักมีสารแร่ธาตุอื่น ๆ ปะปนอยู่ ทำให้มีรสชาติที่แตกต่างกันเล็กน้อย ในขณะที่เกลือหินมักมีความบริสุทธิ์สูงกว่าและใช้กันมากในอุตสาหกรรม นอกจากนี้เกลือทะเลยังมักถูกใช้ในการทำอาหารเพื่อเสริมรสชาติให้กับอาหาร

3. ประโยชน์ของเกลือในชีวิตประจำวัน

เกลือเม็ด (Sodium Chloride – NaCl) เป็นสารประกอบที่มีความสำคัญและมีประโยชน์หลากหลายในชีวิตประจำวัน ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องปรุงอาหาร แต่ยังมีบทบาทในด้านสุขภาพ การทำความสะอาด และอุตสาหกรรมต่าง ๆ อีกด้วย ต่อไปนี้คือประโยชน์หลักของเกลือในชีวิตประจำวัน:

3.1 การบริโภคและปรุงอาหาร

หนึ่งในประโยชน์ที่รู้จักกันดีของเกลือคือการนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงอาหาร เกลือมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มรสชาติและถนอมอาหารหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาหารต่าง ๆ ทั่วโลก เกลือช่วยดึงรสชาติออกมาจากส่วนประกอบในอาหาร และทำให้รสชาติของอาหารกลมกล่อมมากขึ้น

  • การเพิ่มรสชาติ: เกลือช่วยเสริมรสชาติในอาหารคาวและหวาน ทำให้รสชาติชัดเจนและกลมกล่อมมากขึ้น
  • การถนอมอาหาร: เกลือสามารถดูดความชื้นและยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย ทำให้สามารถถนอมอาหารได้ยาวนาน เช่น การทำปลาเค็ม หมูแดดเดียว และแฮม

3.2 การดูแลสุขภาพ

เกลือมีบทบาทในการรักษาสมดุลของน้ำและแร่ธาตุในร่างกาย รวมถึงช่วยควบคุมความดันโลหิต การขาดเกลืออาจทำให้ร่างกายเสียสมดุลและเกิดปัญหาสุขภาพได้ อย่างไรก็ตาม การบริโภคเกลือในปริมาณที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการบริโภคเกลือมากเกินไปอาจนำไปสู่โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ

  • การรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย: โซเดียมในเกลือมีบทบาทในการควบคุมปริมาณน้ำในร่างกาย ทำให้ระบบการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ทำงานได้ตามปกติ
  • การรักษาสมดุลแร่ธาตุ: เกลือช่วยให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควบคุมระดับแร่ธาตุ เช่น โซเดียมและโพแทสเซียมในร่างกาย
  • การล้างจมูก: การใช้น้ำเกลือล้างจมูกช่วยลดการระคายเคืองจากฝุ่นหรือสารก่อภูมิแพ้

3.3 การทำความสะอาดและการบำรุงรักษาบ้าน

เกลือยังสามารถใช้ในการทำความสะอาดและดูแลบ้านได้ในหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดคราบสกปรกหรือการฆ่าเชื้อ

  • การขจัดคราบสกปรก: เกลือเป็นสารที่มีฤทธิ์ขัดและสามารถใช้ในการขจัดคราบไขมันหรือคราบสกปรกบนพื้นผิวได้ เช่น การขัดกระทะหรือภาชนะในครัวที่มีคราบอาหารติดแน่น
  • การฆ่าเชื้อและการลดกลิ่น: เกลือมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อและดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้สามารถใช้ในการลดกลิ่นที่ไม่ดีจากถังขยะหรือในห้องน้ำได้
  • การทำความสะอาดผ้า: สามารถใช้เกลือเพื่อขจัดคราบหมึกหรือคราบเลือดบนเสื้อผ้า โดยเกลือช่วยให้คราบหลุดออกจากเนื้อผ้าได้ง่ายขึ้น

3.4 การดูแลความงามและสุขภาพผิว

เกลือเม็ดมีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพผิวและร่างกาย จึงมักถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลความงาม เช่น สครับผิวและเกลืออาบน้ำ

  • การขัดผิว: เกลือเม็ดสามารถใช้เป็นสครับขัดผิวได้ โดยผสมเกลือกับน้ำมันหรือครีมบำรุงผิวเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และทำให้ผิวเรียบเนียน
  • การแช่น้ำเกลือ: การแช่ตัวในน้ำเกลือช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความเมื่อยล้า และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

3.5 การใช้ในอุตสาหกรรม

เกลือไม่ได้มีประโยชน์เพียงในครัวหรือการดูแลสุขภาพเท่านั้น แต่อุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็ใช้เกลือในกระบวนการผลิตต่าง ๆ มากมาย

  • การผลิตเคมีภัณฑ์: เกลือเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตคลอรีน โซดาไฟ และสารเคมีอื่น ๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเคมี
  • การละลายน้ำแข็ง: ในประเทศที่มีหิมะและน้ำแข็ง เกลือถูกใช้ในการละลายน้ำแข็งบนถนนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
  • การบำบัดน้ำ: เกลือถูกใช้ในการบำบัดน้ำเสียและน้ำดื่ม เพื่อลดความกระด้างของน้ำและกำจัดแร่ธาตุที่ไม่พึงประสงค์

3.6 การใช้ในเกษตรกรรม

เกลือสามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงดินและป้องกันศัตรูพืชได้ โดยเกลือสามารถช่วยควบคุมความเป็นกรด-ด่างของดิน และช่วยลดการเติบโตของวัชพืชบางชนิด

4. ผลกระทบต่อสุขภาพ

เกลือเม็ด (Sodium Chloride) เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารที่เราบริโภคทุกวัน แต่การบริโภคเกลือในปริมาณที่มากเกินไปหรือการขาดเกลือ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ผลกระทบเหล่านี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับปริมาณการบริโภคและสถานะสุขภาพของบุคคลนั้น ๆ

4.1 ผลดีต่อสุขภาพจากเกลือ

ในปริมาณที่เหมาะสม เกลือมีบทบาทสำคัญในกระบวนการทำงานของร่างกาย เนื่องจากโซเดียม (sodium) ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในเกลือ มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ดังนี้:

  • การควบคุมความดันโลหิต: โซเดียมช่วยรักษาสมดุลน้ำในร่างกายและช่วยให้เลือดไหลเวียนได้อย่างปกติ ความดันโลหิตจะไม่สูงหรือต่ำเกินไปเมื่อบริโภคเกลือในปริมาณที่พอเหมาะ
  • การทำงานของระบบประสาท: โซเดียมเป็นสารที่จำเป็นต่อการส่งสัญญาณในระบบประสาท ช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งเร้า เช่น การเคลื่อนไหว การสัมผัส และการคิด
  • การรักษาสมดุลน้ำในร่างกาย: โซเดียมมีบทบาทในการดูดซับน้ำเข้าสู่เซลล์และช่วยขับของเสียออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ

4.2 ผลเสียจากการบริโภคเกลือมากเกินไป

การบริโภคเกลือในปริมาณที่มากเกินไปสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้หลายประการ โดยเฉพาะในระยะยาว ผลกระทบเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากปริมาณโซเดียมที่เกินความต้องการของร่างกาย:

  • ความดันโลหิตสูง (Hypertension): โซเดียมที่มากเกินไปทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ความดันโลหิตสูงสามารถนำไปสู่โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตได้
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด: การบริโภคเกลือมากเกินไปทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ในบางกรณี
  • โรคไต: ไตมีหน้าที่ในการกรองของเสียออกจากร่างกายและรักษาสมดุลของแร่ธาตุ เมื่อร่างกายมีโซเดียมมากเกินไป ไตต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะไตเสื่อมและการเกิดโรคไตเรื้อรังได้
  • ภาวะบวมน้ำ (Edema): การบริโภคเกลือมากเกินไปทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น อาจทำให้เกิดอาการบวมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ขา แขน หรือใบหน้า โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตหรือหัวใจ

4.3 ผลเสียจากการบริโภคเกลือน้อยเกินไป

แม้ว่าการบริโภคเกลือมากเกินไปจะมีผลเสีย แต่การขาดเกลือหรือบริโภคโซเดียมไม่เพียงพอก็มีผลเสียต่อร่างกายเช่นกัน โดยเฉพาะในผู้ที่ออกกำลังกายหนักหรืออยู่ในสภาพอากาศร้อนที่ทำให้เหงื่อออกมาก ผลเสียจากการขาดเกลืออาจรวมถึง:

  • ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia): เมื่อร่างกายขาดโซเดียม จะทำให้ระดับโซเดียมในเลือดต่ำ ส่งผลให้เกิดอาการมึนงง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย หรือในกรณีรุนแรงอาจทำให้หมดสติหรือชักได้
  • กล้ามเนื้อเป็นตะคริว: การขาดเกลือทำให้ร่างกายเสียสมดุลของแร่ธาตุ ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นตะคริวและกล้ามเนื้อหดตัวผิดปกติได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ออกกำลังกายหนัก
  • ความดันโลหิตต่ำ: โซเดียมมีบทบาทสำคัญในการควบคุมความดันโลหิต การขาดโซเดียมอาจทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำ ซึ่งส่งผลให้รู้สึกเวียนศีรษะหรืออ่อนเพลียได้

4.4 ปริมาณเกลือที่แนะนำต่อวัน

เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากการบริโภคเกลือมากหรือน้อยเกินไป องค์การอนามัยโลก (WHO) และหน่วยงานด้านสุขภาพต่าง ๆ แนะนำปริมาณการบริโภคเกลือที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้ว ผู้ใหญ่ควรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับเกลือประมาณ 1 ช้อนชา อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคในปริมาณที่น้อยกว่านี้หากมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับความดันโลหิตหรือโรคหัวใจ

4.5 การลดปริมาณเกลือในอาหาร

การลดปริมาณการบริโภคเกลือในอาหารเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากผลเสียของเกลือได้ ต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการลดปริมาณเกลือ:

  • เลือกอาหารที่มีปริมาณโซเดียมต่ำ อ่านฉลากอาหารก่อนซื้อ
  • ลดการใช้น้ำปลา ซีอิ๊ว หรือเครื่องปรุงรสที่มีโซเดียมสูง
  • หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปหรืออาหารสำเร็จรูปที่มีปริมาณเกลือสูง
  • ใช้สมุนไพรและเครื่องเทศแทนเกลือในการปรุงอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติ

5. การใช้เกลือในอุตสาหกรรม

เกลือเม็ด (Sodium Chloride) ไม่เพียงแต่มีบทบาทสำคัญในด้านอาหารและการบริโภคเท่านั้น แต่ยังมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมหลายประเภท เนื่องจากคุณสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ของเกลือทำให้มันเป็นสารที่มีประโยชน์ในกระบวนการผลิตและการแปรรูปหลาย ๆ อย่าง ต่อไปนี้เป็นการใช้งานหลัก ๆ ของเกลือในอุตสาหกรรม:

5.1 อุตสาหกรรมเคมี

เกลือเม็ดเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตสารเคมีต่าง ๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเคมีที่ใช้โซเดียมคลอไรด์เป็นพื้นฐานในการสังเคราะห์สารหลายชนิด ซึ่งประกอบด้วย:

  • การผลิตโซดาไฟ (Sodium Hydroxide) และคลอรีน: กระบวนการแยกเกลือโดยใช้ไฟฟ้า (electrolysis) จะทำให้ได้โซดาไฟและคลอรีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่สำคัญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โซดาไฟใช้ในอุตสาหกรรมกระดาษและเส้นใย ส่วนคลอรีนใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตพลาสติก เช่น พอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC)
  • การผลิตกรดไฮโดรคลอริก (Hydrochloric Acid): คลอรีนที่ได้จากกระบวนการแยกเกลือสามารถใช้ในการผลิตกรดไฮโดรคลอริก ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีการใช้งานในอุตสาหกรรมโลหะและการทำความสะอาดต่าง ๆ

5.2 อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร

เกลือเป็นส่วนประกอบสำคัญในการถนอมอาหาร โดยเกลือช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ต่าง ๆ ทำให้สามารถเก็บรักษาอาหารได้นานขึ้น การใช้งานในอุตสาหกรรมอาหารประกอบด้วย:

  • การถนอมอาหาร (Preservation): เกลือใช้ในการถนอมเนื้อสัตว์ ปลา และผัก ด้วยกระบวนการดองหรือหมัก นอกจากนี้ยังช่วยในการคงรสชาติและรักษาคุณภาพอาหาร
  • การผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป: เกลือมีการใช้ในการผลิตขนมขบเคี้ยว อาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋อง และอาหารแปรรูปอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติและยืดอายุการเก็บรักษา

5.3 อุตสาหกรรมสิ่งทอและย้อมสี

เกลือเม็ดมีบทบาทสำคัญในกระบวนการย้อมสีผ้าและสิ่งทอ ช่วยให้สีย้อมซึมเข้าสู่เส้นใยได้ดีขึ้นและช่วยให้สีติดทนนาน การใช้งานในอุตสาหกรรมนี้ ได้แก่:

  • การปรับปรุงคุณภาพการย้อมสี: เกลือช่วยเพิ่มการยึดติดของสีย้อมกับเส้นใย โดยเฉพาะในกระบวนการย้อมผ้าที่ใช้เส้นใยจากฝ้ายหรือวัตถุดิบจากพืช
  • การใช้ในกระบวนการล้างสิ่งทอ: เกลือถูกนำมาใช้ในกระบวนการล้างสารเคมีที่เหลือจากกระบวนการย้อมสีและการผลิตสิ่งทอ เพื่อให้สิ่งทอมีความสะอาดและปราศจากสารตกค้าง

5.4 อุตสาหกรรมการผลิตกระดาษ

ในอุตสาหกรรมกระดาษ เกลือเม็ดมีบทบาทสำคัญในการผลิตกระดาษ โดยเฉพาะในกระบวนการทำเยื่อกระดาษ เกลือถูกใช้ในการทำให้เนื้อเยื่อกระดาษมีความแข็งแรงและช่วยในการสลายสารเคมีที่ไม่จำเป็นในระหว่างกระบวนการผลิต

5.5 อุตสาหกรรมบำบัดน้ำ

เกลือมีการใช้งานในกระบวนการบำบัดน้ำทั้งในระบบน้ำประปาและน้ำเสีย โซเดียมคลอไรด์ใช้ในการแลกเปลี่ยนไอออน (ion exchange) เพื่อกำจัดแร่ธาตุที่ไม่พึงประสงค์ออกจากน้ำ กระบวนการนี้เรียกว่า water softening ซึ่งช่วยลดความกระด้างของน้ำและป้องกันการสะสมของคราบหินปูนในท่อและเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น หม้อไอน้ำหรือเครื่องซักผ้า

5.6 อุตสาหกรรมยานยนต์

ในฤดูหนาว เกลือเม็ดมีการใช้งานในอุตสาหกรรมยานยนต์และการคมนาคมเพื่อป้องกันถนนลื่นจากน้ำแข็ง โดยเกลือจะถูกโรยลงบนถนนเพื่อช่วยละลายน้ำแข็งและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ การใช้งานนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น

5.7 อุตสาหกรรมยา

เกลือเม็ดถูกใช้ในอุตสาหกรรมยาในกระบวนการผลิตยาหลายชนิด โซเดียมคลอไรด์ถูกใช้เป็นส่วนประกอบในสารละลายทางการแพทย์ เช่น สารละลายสำหรับฉีดและสารละลายทำความสะอาดแผล การใช้งานนี้มีความสำคัญต่อการรักษาความสมดุลของน้ำและแร่ธาตุในร่างกายของผู้ป่วย

5.8 อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง

ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เกลือเม็ดถูกใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเส้นผม เช่น สครับขัดผิว เกลือช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและทำให้ผิวนุ่มนวล นอกจากนี้ยังช่วยในการปรับสมดุลความชื้นและน้ำมันบนผิวหนัง

5.9 อุตสาหกรรมพลังงาน

เกลือเม็ดมีการใช้งานในอุตสาหกรรมพลังงาน โดยเฉพาะในกระบวนการทำความเย็นของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เกลือถูกใช้เป็นสารทำความเย็นในระบบที่ต้องการรักษาความร้อนและส่งผ่านพลังงานในระดับสูง

5.10 อุตสาหกรรมพลาสติก

โซเดียมคลอไรด์เป็นสารตั้งต้นในกระบวนการผลิตพอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) ซึ่งเป็นพลาสติกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ท่อน้ำ และผลิตภัณฑ์พลาสติกอื่น ๆ

6. ผลกระทบของเกลือต่อสิ่งแวดล้อม

แม้ว่าเกลือเม็ด (Sodium Chloride) จะมีประโยชน์มากมายในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม แต่การใช้งานที่มากเกินไปหรือไม่ถูกต้องก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบที่สำคัญต่อสิ่งแวดล้อมได้ ผลกระทบเหล่านี้อาจมีผลต่อระบบนิเวศ สัตว์น้ำ คุณภาพดิน และน้ำ รวมถึงการเพิ่มปริมาณเกลือในสิ่งแวดล้อมที่เกินความจำเป็น ซึ่งอาจส่งผลเสียในหลายด้าน:

6.1 การปนเปื้อนในน้ำจืด

หนึ่งในผลกระทบที่สำคัญของการใช้เกลือเม็ดคือการปนเปื้อนของน้ำจืด เกลือสามารถละลายได้ง่ายในน้ำ และเมื่อถูกปล่อยลงสู่แหล่งน้ำตามธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง และทะเลสาบ มันจะเพิ่มความเค็มของน้ำ ส่งผลให้สัตว์น้ำในระบบนิเวศน้ำจืดไม่สามารถอยู่รอดได้ สัตว์น้ำที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของความเค็ม เช่น ปลาและพืชน้ำ อาจตายหรือสูญพันธุ์ได้ในพื้นที่ที่มีการปนเปื้อน

  • ผลกระทบต่อสัตว์น้ำและพืช: ความเค็มที่เพิ่มขึ้นในแหล่งน้ำจืดอาจส่งผลกระทบต่อการสืบพันธุ์และการเติบโตของสัตว์น้ำ การเปลี่ยนแปลงของเคมีในน้ำยังอาจทำให้พืชน้ำบางชนิดไม่สามารถดำรงชีวิตได้ และการสูญเสียพืชน้ำเหล่านี้อาจทำให้สัตว์ที่พึ่งพามันเป็นอาหารและที่อยู่อาศัยต้องสูญเสียพื้นที่อาศัย

6.2 การสะสมเกลือในดิน

การใช้เกลือในการบำบัดน้ำแข็งบนถนนหรือการใช้งานในอุตสาหกรรมบางประเภทอาจทำให้เกลือถูกชะล้างลงสู่พื้นดิน เมื่อมีเกลือสะสมในดินมากเกินไป มันจะทำให้ดินสูญเสียความสามารถในการซึมน้ำและลดคุณภาพของดิน ส่งผลให้พืชที่ปลูกบนดินดังกล่าวไม่สามารถเติบโตได้อย่างปกติ

  • การสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ของดิน: ดินที่มีเกลือสะสมจะสูญเสียความสามารถในการให้สารอาหารแก่พืช ทำให้การเกษตรต้องประสบกับการผลิตที่ลดลง และในกรณีที่รุนแรง ดินอาจไม่สามารถเพาะปลูกได้เลย
  • การกัดกร่อนดิน: เกลือสามารถทำให้ดินเกิดการสึกกร่อนเร็วขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ดินเสื่อมสภาพและไม่สามารถนำไปใช้ในการเกษตรหรือการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6.3 ผลกระทบจากเกลือในการละลายน้ำแข็งบนถนน

ในประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น การใช้เกลือในการละลายน้ำแข็งบนถนนเป็นวิธีที่พบได้บ่อยในการป้องกันอุบัติเหตุจากถนนลื่น แม้ว่าจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความปลอดภัย แต่การใช้เกลือมากเกินไปสามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน:

  • การปนเปื้อนในน้ำใต้ดิน: เกลือที่ถูกชะล้างจากถนนลงสู่ดินสามารถซึมเข้าสู่น้ำใต้ดินและปนเปื้อนแหล่งน้ำดื่ม ทำให้ต้องมีการบำบัดน้ำเพิ่มเติมเพื่อลดปริมาณเกลือ และในบางกรณี น้ำที่มีเกลือปนเปื้อนมากเกินไปอาจไม่สามารถดื่มได้
  • ผลกระทบต่อพืชที่อยู่ใกล้ถนน: เกลือที่ใช้ละลายน้ำแข็งบนถนนสามารถกระจายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้พืชที่อยู่ข้างทางไม่สามารถเจริญเติบโตได้ และอาจตายได้หากได้รับเกลือมากเกินไป

6.4 ผลกระทบต่อระบบนิเวศชายฝั่ง

เกลือเม็ดที่ถูกชะล้างลงสู่ทะเลหรือแหล่งน้ำเค็มอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศชายฝั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีการพัฒนาชายฝั่ง เช่น การสร้างถนน ทางหลวง หรืออุตสาหกรรมใกล้ชายฝั่ง ความเค็มที่เพิ่มขึ้นอาจเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของระบบนิเวศเหล่านั้น

  • ผลกระทบต่อป่าชายเลน: ป่าชายเลนเป็นพื้นที่ที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงความเค็มในน้ำ การเพิ่มปริมาณเกลือในพื้นที่เหล่านี้อาจทำให้พืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลนต้องเผชิญกับความยากลำบากในการดำรงชีวิต และส่งผลให้ระบบนิเวศชายฝั่งเสียหาย

6.5 ผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์

นอกจากผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว การใช้เกลือเม็ดในปริมาณมากยังสามารถส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์ได้ เกลือที่ปนเปื้อนในแหล่งน้ำดื่มหรือแหล่งอาหารสามารถทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความเค็มสูง เช่น โรคไตและความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ การใช้เกลือในอุตสาหกรรมหรือการเกษตรที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้มนุษย์ได้รับสารเคมีที่เป็นพิษจากเกลือ

7. สรุป

เกลือเม็ดเป็นสารธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อมนุษย์ในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการบริโภค การรักษาอาหาร และการใช้งานในอุตสาหกรรม แม้ว่าการใช้เกลือจะมีประโยชน์มากมาย แต่การบริโภคเกลือในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และการใช้งานเกลือในอุตสาหกรรมอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การเข้าใจถึงประโยชน์และผลกระทบของเกลือจะช่วยให้เราสามารถใช้เกลือได้อย่างยั่งยืน

 

เคมีภัณฑ์,สารเคมีภัณฑ์,เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม,เคมีภัณฑ์เชียงใหม่,ร้านเคมีใกล้ฉัน

เวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ประเภท เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ สารพัดด้านเคมี เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line ID : @worldchemical
Facebook : https://www.facebook.com/chemical.chiangmai
เว็บไซต์ : www.worldchemical.co.th
โทร : 053 204 446-7