World Chemical Group

Propylene Glycol มีหน้าที่อะไร

เคมีภัณฑ์,สารเคมีภัณฑ์,เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม,เคมีภัณฑ์เชียงใหม่,ร้านเคมีใกล้ฉัน

ผู้หญิงกับความสวยความงามเป็นของคู่กันในทุกยุค ทุกสมัย โดยเฉพะการดูตัวเองด้วย เครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นครีมบำรุงใบหน้า ลำคอ รวมถึงเรือนร่าง ทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้อย่างมากมาย แต่การจะเลือกซื้อเครื่องสำอางซักชิ้น เราควรดูสารประกอบทางเคมีที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิวพรรณของเราด้วย และในวันนี้เราจะมาแนะนำส่วนประกอบสำคัญที่เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องสำอางนั่นก็คือ “Propylene Glycol” ภาษาไทย อ่านว่า “โพรพิลีน ไกลคอล”

Propylene Glycol คืออะไร ?

Propylene Glycol คือ วัตถุเจือปนในอาหารที่ใช้แพร่หลายอุตสาหกรรม นิยมใช้ในอาหาร ยา และเครื่องสำอาง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด มีลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มี ไม่มีกลิ่น มีความหวานเล็กน้อย เกิดจากการสังเคราะห์โดยทำปฏิกิริยาระหว่าง Propylene Oxide กับ น้ำ มักถูกใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม ใช้เป็นตัวผสมวัตถุเจือปนอาหารหรือสารอาหารอื่น ๆ เช่น สี และกลิ่นต่าง ๆ หรือทำหน้าที่เป็น Emulsifier ผสมในน้ำมัน น้ำส้มสายชู และน้ำสลัดเพื่อป้องกันการแยกชั้น และใช้เป็น Humectan ช่วยดูดความชื้น นิยมผสมในอาหา รและเครื่องดื่มชนิดผง ขนมอบกรอบ หรือ ผสมในอาหารสัตว์ชนิดแห้ง เพื่อควบคุมความชื้นในการป้องกันการจับตัวเป็นก้อน มีคุณสมบัติเป็น Antimicrobial ช่วยยืดอายุการเก็บรักษา ใช้ในกระบวนการผลิตเครื่องดื่ม และอาหารที่มีความเกี่ยวข้องกับ Heat transfer เช่น อุตสาหกรรมการผลิตเบียร์และผลิตภัณฑ์จากนม

Propylene Glycol ถือว่าเป็นสรเคมีสังเคราะห์คุณสมบัติดี เช่น มีความชอบน้ำสูง ทำให้สามารถนำไปผสมกับสารอื่น ๆ ให้เพิ่มความชอบน้ำได้ ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกิดจากสารประกอบดังกล่าว เช่น เครื่องสำอาง ครีม โลชั่น โดย Propylene Glycolเองมีหลายชนิดแตกต่างไปตามน้ำหนัก เช่น PEG200, PEG300, PEG400 แล: PEG600 เนื่องจากน้ำหนักโมเลกุลน้อยทำให้ลักษณะของมันจะใส เปรียบเทียบกับ PEG3350, PEG4500 และ PEG8000 ซึ่งมีลักษณะข้นคล้ายแวกซ์ น้ำหนักโมเลกุลที่เพิ่มขึ้นนี้จะส่งผลทำให้คุณสมบัติ เช่น ความสามารถในการละลายน้ำ การดูดความชื้น จุดเยือกแข็ง เปลี่ยนแปลงไปด้วย และด้วยความสามารถในการละลาย (Solubility) และการเข้ากันได้(Compatibility) ที่หลากหลายทำให้มีการนำ Propylene Glycol เข้ามาใช้ในการเตรียมยาและเครื่องสำอางในหลาย ๆ สูตรตำรับ Propylene Glycol นั้นพบว่ามีความเป็นพิษต่ำ และมีการนำมาผลิตยาหลายชนิดในทางการแพทย์ เช่น มีการนำ PEG 3350 มาทำเป็นยาระบาย หรือมีการเพิ่ม Electrolyte เข้าไปใu PropyleneGlycol เพื่อนำมาเตรียมคนไข้โดยการล้างลำไส้ก่อนเข้าผ่าตัด นอกจากนั้นยังนำมาใช้เพื่อทำให้ยาอยู่ในร่างกายนานขึ้น เช่น PEG-interferon alpha ที่นำมาใช้รักษา hepatitis C เป็นต้น

Propylene Glycol เป็นสารให้ความชุ่มชื่น และเป็นตัวนำพาส่วนผสมที่ใช้ในเครื่องสำอาง มีเว็บไซและอีเมลขยะจำนวนหนึ่ง ระบุว่า Propylene Glycol เป็นเพียงสรป้องกันการแข็งตัวของอุตสาหกรรม และเป็นส่วนผสมหลักในน้ำมันเบรก และน้ำมันไฮดรอลิก เว็บไซต์เหล่านี้ยังระบุอีกว่าการทดสอบแสดงให้เห็นว่ามันก่อให้เกิดอาการแพ้ต่อผิวหนักเพียงใด รวมถึงยังชี้ให้เห็นเพิ่มเติมว่าเอกสารข้อมูลความปลอดภัยสารเคมี (Material Safety Data Sheet: MSDS) ใu Propylene Glycol เตือนผู้ใช้ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสทางผิวหนัง งาจจะฟังแล้วดูเหมือนเป็นจะดูร้ายแรง แต่มันยังห่างไกลจากความเป็นจริงในสูตรเครื่องสำอางมาก

ในความเป็นจริงแล้ว มีการวิจัยจากนักพิษวิทยาแสดงให้เห็นว่า Propylene Glycol และส่วนผสมที่คล้ายคลึงกันจะไม่แสดงความเสี่ยงต่อสุขภาพสำหรับผู้ใช้มื่อใช้ในเครื่องสำอาง สิ่งสำคัญที่เราต้องตระหนักว่าที่ MSDS หมายถึงนั้น คือในความเข้มข้นของสาร 100% แม้แต่น้ำกับเกลือยังมีความคิดเห็นที่น่กังวลใจในเรื่องของความปลอดภัยตามที่ MSDS ได้รายงานไว้ในเครื่องสำอาง Propylene Glycol ถูกใช้ในปริมาณล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์ละลายในความร้อนสูง หรือ แข็งตัวจากการแช่แข็ง ซึ่งในปริมาณที่ใช้ในเครื่องสำอางนั้นไม่มีอะไรต้องกังวล สำนักงานควบคุมส่วนผสมเครื่องสำอางและกลุ่มอื่น ๆ ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลทางพิษวิทยาและการศึกษาการส้มผัสทั้งหมดเกี่ยวกับการใช้โพรพิลีนไกลคอลที่ใช้กันปกติในเครื่องสำอาง ได้ข้อสรุปว่ามันปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในด้านสุขภาพของผู้บริโภค

สำหรับอุตสาหกรรมยา Propylene Glycol ใช้ป็นตัวทำละลายกลิ่นที่ใช้เป็นส่วนผสมในสูตร เช่น ยาแก้ไอ และยาน้ำสำหรับเด็กหรือใช้เป็น Plasticizer ในการทำ Film-Coating ในการผลิตยาแคปซูล นอกจากนี้ยังใช้เป็น Humectant ในส่วนผสมในสูตร เช่นถูกใช้ผสมในแอลกอฮอล์ล้างมือ เพื่อป้องกันความหยาบกร้าน ผิวแห้ง หรือผสมในแชมพูหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผม และใช้เป็นEmulsifier ผสมในผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันเป็นองค์ประกอบ เช่น ซีรั่มบำรุงผม โลชั่น เป็นต้น

Mono Propylene Glycol (MPG) - World Chemical Group

                                                                                   

ทว่ากลับมีเรื่องที่ต้องระวังหากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในปัจจุบันมีสารเคมีที่เป็น

อันตรายต่อผิว และสุขภาพ เรามาดูกันว่ามีสระไรข้าง ขอยกตัวอย่างสารเค ชนิดในเครื่องสำอางที่ทำลายผิว และสุขภาพ

ดังนี้

1. สารปรอn (Mercury)

เป็นสารที่พบในเครื่องสำอางที่ช่วยทำให้สี่ผิวจางลง ไม่ว่าจะช่วยในการลดสิว ฝ้า กระ และปัญหาจุดด่างดำ โดยส่งผลให้ผู้ใช้มี

อาการแพ้หรือได้รับความระคายเคืองอย่างรุนแรง ส่งผลอันตรายได้ถึงระบบทางเดินปัสสาวะ อีกทั้งสารปรอทนี้ยังสามารถเข้าสู่

ร่างกายราได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการสูดดมซึ่งจะเข้าทางปอด หากกลืนกินเข้าไปก็จะดูดซึมไปยังลำไส้เล็ก และหากนำมาทา

ผิวก็จะสามารถซึมเข้าไปสะสมภายในร่างกายได้เช่นเดียวกัน

2. สารตะกั่ว (Lead)

เป็นสารต้องห้ามทางกฎหมายเลยก็ว่าได้ เพราะหากตรวจพบว่าผลิตภัณฑ์ใดมีสารดังกล่าวมากกว่า 20 ส่วนจากน้ำหนัก

ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ก็จะเข้าข่ายเป็นเครื่องสำอางที่ไม่มีความปลอดภัยนั่นเอง เพราะมันจะเข้าสู่ร่างกายจนก่อให้มีอาการปวดท้องบิด

อย่างรุนแรงพร้อมกับเกิดอาการท้องผูกหรืออาจถ่ายเป็นเลือด เนื่องจากเม็ดเลือดแดงได้รับการทำลายอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยัง

ลดอัตราการสร้างเม็ดเลือดแดงจนส่งผลให้ระบบประสาทภายในร่างกายทำงานผิดปติตามมาได้ด้วย

3. พาราเบน (Paraben)

เป็นสารกันเสียที่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงดูแลผิวต่าง ๆ รวมถึงโรลออนระงับกลิ่นกาย

เพราะมีราคาถูก แลประสิทธิภาพของมันยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคที่เรีย หากผลเสียก็คือ มันสามารถซึมเข้าสู่

กระแสเลือดได้รวดเร็วอีกทั้งยังก่อให้เกิดกรสะสมภายในร่างกายง่ายด้วย ดังนั้น ใช้แล้วจึงเสี่ยงต่อการก่อให้เป็นมะเร็งได้ โดย

เฉพาะมะเร็งเต้านม

4. ma (Talc)

เป็นอีกหนึ่งสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้ และหากได้จากแหล่งวัตถุดิบที่ไม่ดีย่อมก่อให้มีการปนเปื้อนของสาร “Asbestos” ได้เช่นกัน

แต่สารดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลร้ายได้ก็ต่อเมื่อร่างกายได้รับการสะสมไว้ปริมาณมาก ทาลนั้นมีพบมากที่สุดในเครื่องสำอาง

จำพวกแป้งตลับ บลัชออนหรืออายแชโดว์ชนิดเนื้อฝุ่น เป็นต้น เมื่อนำมาใช้ทาผิวหน้าแล้วมันจะทำหน้าที่ช่วยให้ผิวมีความหล่อลื่น

เรียบเนียน เมื่อยามสัมผัส และไม่มีการจับตัวเป็นก้อนอีกด้วย

5. Petroleum Derivative

เป็นสารที่ผลิตขึ้นจากการแยกน้ำมันปิโตรเลียม มักเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางหลายชนิด เช่น โฟมล้างหน้า ครีมบำรุงผิว

หรือครีมรองพื้น เป็นต้น โดยมันจะทำหน้าที่ช่วยเก็บล็อกความชุ่มชื้นไว้ผ่านการเคลือบผิว ขณะเดียวกัน เนื่องจากมันมีโมเลกุล

ขนาดใหญ่และยังผ่านกรรมวิธีทางด้านเคมึ จึงทำให้ผิวหน้าระคายเคืองจนเกิดสิวอุดตันได้ หากผิวหน้าได้รับสารดังกล่าวสะสมไว้

เรื่อย ๆ จนมีปริมาณมากก็อาจทำให้ผิวเสื่อมสภาพก่อนวัย และส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของฮอร์โมนเพศหญิงเสื่อมลงได้ด้วย

เมื่อทราบกันเช่นนี้แล้ว ก่อนจะซื้อเครื่องสำอางรอบหน้าต้องพิถีพิถันในการเลือก ควรเลือกพาจากแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ

และควรตรวจดูส่วนผสมเพื่อประกอบการตัดสินใจ หากผลิตภัณฑ์ไหนโฆษณาเกินจริงก็ควรตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่ง

เพราะหากพบว่าไม่ปลอดภัย หรือ มีสารเคมีไม่ดีเจือปนเราก็จะได้หลีกเสี่ยงได้ทันท่วงทีไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา

 

 

บริษัท เวิลด์ เคมีคอล ฟาร์อีสท์ จำกัด (จังหวัดเชียงใหม่)
261/3-6 ถ.มหิดล ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50100 โทร. 053-204 446-7 / 053-204 465 sales_worldchemical@hotmail.com

 

Exit mobile version