ไฮยาลูรอนิค คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไรในการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid)หรือ ไฮยาลูรอน เป็นหนึ่งในส่วนผสมตัวท็อปที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ หากคุณกำลังมองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อช่วยดูแลให้ผิวดูสุขภาพดี อิ่มน้ำ และนุ่มชุ่มชื้น เมื่อพูดถึงการดูแลผิว คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดภาวะขาดน้ำ และลดเลือนริ้วรอย โดยมีไฮยาลูรอนเป็นส่วนผสมสำคัญของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น
หากยังไม่แน่ใจว่าจะนำไฮยาลูรอนไปช่วยในการบำรุงผิวพรรณของคุณได้อย่างไร? ลองอ่านข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมตัวนี้ดูก่อน แล้วคุณจะได้รู้ว่าประโยชน์โดยทั่วไปนั้นมีอะไรบ้าง
ไฮยาลูรอนิค คืออะไร ?
หากคุณเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ ไฮยาลูรอนิค แอซิด ว่าสามารถอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวสาร ใช่เลย มันคือเรื่องจริง! ในความเป็นจริง ผิวของเราสามารถผลิตโมเลกุลไฮยาลูรอนิค แอซิดได้เองตามธรรมชาติ แต่ระดับ ไฮยาลูรอน ในร่างกายจะเริ่มลดลงตามอายุ นี่คือหนึ่งเหตุผลที่คุณจะสังเกตได้ว่าผิวจะแห้งลงและดูไม่เต่งตึงเมื่ออายุมากขึ้น นอกจากนี้ สำหรับการพบในผิวหนัง ไฮยาลูรอนิค แอซิด เป็นสารหล่อลื่นชนิดหนึ่งที่พบได้ตามธรรมชาติในเนื้อเยื่อและน้ำหล่อลื่นไขข้อต่าง ๆ ภายในร่างกาย อ้างอิงจากคลีฟแลนด์ คลินิก แต่สำหรับบทความนี้ เราจะมุ่งเน้นไปที่การบำรุงผิวพรรณและคุณประโยชน์ด้านการบำรุงผิวพรรณของไฮยาลูรอนิค แอซิด เท่านั้น
เนื่องจากระดับไฮยาลูรอนิค ตามธรรมชาติในผิวหนังจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสูตรที่มีไฮยาลูรอนิค แอซิด รวมทั้งเซรั่ม (Hyaluronic Acid Serum) และครีม (Hyaluronic Acid Cream) ที่ต่างเข้ามาช่วยชดเชยสิ่งที่สูญเสียไปตามอายุ โดยสมาคมแพทย์ผิวหนังสหรัฐอเมริกายืนยันว่าไฮยาลูรอนิค แอซิดที่ใช้ในผลิตภัณฑ์นั้น สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งและลดเลือนริ้วรอยได้เพราะมีคุณสมบัติที่ทำให้ผิวเด้งอิ่มน้ำโดยการเก็บกักน้ำในชั้นผิว จึงส่งผลให้ริ้วรอย โดยเฉพาะริ้วรอยแรกเริ่มดูค่อย ๆ จางลง
สารกรดไฮยาลูโรนิคทำมาจากอะไร
สารไฮยาลูโรนิก แอซิด หรือกรดไฮยาลูรอน แต่เดิมนั้นได้มาจากสัตว์ เช่น ไก่ ซึ่งทำให้เกิดผลข้างเคียงเมื่อนำมาใช้รักษาในคน เช่น เกิดการแพ้ บวมแดง ก่อนจะนำมาใช้สำหรับการรักษาจะต้องทำการทดสอบภูมิแพ้ที่ผิวหนังก่อน
ต่อมาจึงมีการสังเคราะห์สารไฮยาลูโรนิก แอซิดขึ้นโดยกระบวนการสังเคราะห์สารชีวโมเลกุล จากสารโมเลกุลเล็ก หรือเรียกว่า Biosynthesis โดยแบคทีเรีย Streptococcus จะถูกนำมาสังเคราะห์เป็นกรดกรดไฮยาลูโรนิก
สำหรับสารกรดไฮยาลูโรนิกที่ใช้ในฟิลเลอร์บางยี่ห้อมีการสังเคราะห์สารไฮยาลูโรนิกแอซิดที่เป็น Biocompatible Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid หรือ NASHA ขึ้นมา ทำให้เกิดการแพ้น้อย มีความปลอดภัย และมีความคงตัวสูง คือ ฟิลเลอร์ Restylane
ประโยชน์ของไฮยาลูรอน
อย่างที่ได้กล่าวไว้ว่าระดับไฮยาลูรอนิค แอซิดจะลดลงตามอายุ จึงต้องมีการเติมเต็มเข้าไปสู่ผิวหนังผ่านผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสูตรที่มีส่วนผสมอันมีประโยชน์ เราจะมาพูดถึงคุณประโยชน์เหล่านั้น มาดูกันว่า 3 คุณประโยชน์สำคัญที่น่าสนใจเกี่ยวกับไฮยาลูรอนิค แอซิดนั้นมีอะไรบ้าง และมีขั้นตอนการทำงานอย่างไร?
ประโยชน์ของไฮยาลูรอน #1 – ความชุ่มชื้น
อย่างที่เราเคยกล่าวก่อนหน้านี้ ไฮยาลูรอนิค แอซิดนั้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของคุณ ทำให้ผิวของคุณอิ่มน้ำ เพราะผิวที่ดูอ่อนเยาว์จะช่วยรักษาความฉ่ำวาวและนุ่มเด้งซึ่งมาจากความชุ่มชื้นในผิวนั่นเอง โดยอ้างอิงตามงานวิจัยที่ตีพิมพ์โดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา และอีกนัยหนึ่งคือ ปัญหาริ้วรอยมีส่วนเกี่ยวพันอย่างมากกับการสูญเสียความชุ่มชื้นของผิว
ประโยชน์ของไฮยาลูรอน #2 – ริ้วรอย
ความชุ่มชื้นช่วยแก้ปัญหาในเรื่องการเกิดริ้วรอยได้ โดยกุญแจสำคัญของการรักษาผิวให้ดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์คือการเก็บกักน้ำในชั้นผิว ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์สูตรที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิค แอซิดจึงทำให้ผิวเด้งอิ่มน้ำ มีความชุ่มชื้น และริ้วรอยดูจางลง อ้างอิงจาก NCBI ไฮยาลูรอนิค แอซิดที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ออกแบบมาเพื่อช่วยและสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว
นอกจากนี้การไม่ทาครีมกันแดด ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอย เนื่องจากแสงแดดเป็นอีกตัวการสำคัญที่ทำร้ายผิวของเราโดยตรง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปกป้องผิวเราจากแสงแดด
ประโยชน์ของไฮยาลูรอน #3 – ความกระจ่างใส
ผลิตภัณฑ์สูตรที่มีไฮยาลูรอนิค แอซิดช่วยในเรื่องผิวกระจ่างใสได้ด้วย ผิวจะดูเรียบเนียนและอิ่มเด้งด้วยน้ำในชั้นผิวหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิค แอซิด
ไฮยาลูโรนิค อันตรายไหม
สารกรดไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เป็นสารที่ถูกสร้างเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกาย จึงค่อนข้างมีความปลอดภัย สามารถย่อยสลายเองได้ตามธรรมชาติ ทั้งนี้ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นการฉีดเข้าสู่ผิวหนัง หรือการทาบนผิว รวมถึงการรับประทานสารกรดไฮยาลูโรนิกในรูปแบบอาหารเสริม และควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
หากฉีดฟิลเลอร์ด้วยสารกรด ไฮยาลูโรนิค ควรฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อป้องกันการฉีดที่ผิดพลาด และผลอันตรายตามมา เช่น เส้นเลือดอุดตัน การติดเชื้อเฉียบพลัน ตาบอด เป็นต้น
กรดไฮยาลูโรนิค กินได้ไหม
ในปัจจุบันสารกรด ไฮยาลูโรนิค ในรูปแบบของอาหารเสริม หรือยายังไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลาย เพราะจะใช้ในคนบางกลุ่มเท่านั้น เช่น ใช้รักษาผู้ป่วยโรคข้อกระดูกอักเสบ โดยจะรับประทาน Hyaluronic Acid วันละ 80-200 มิลลิกรัม เพื่อบรรเทาอาการปวดหัวเข่า หรืออาการไหล่ติด ข้อติด ได้ในระดับปานกลาง เป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือน และการรับประทานสารกรดไฮยาลูโรนิกนี้จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ร่วมด้วย
สารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกาย สามารถสร้างขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติเด่นเป็นสารอุ้มน้ำ ทำให้ผิวของเรายังมีความชุ่มชื้น เมื่ออายุเพิ่มขึ้นสารกรดไฮยาลูโรนิกในร่างกายจะลดน้อยลง ทางการแพทย์จึงได้สังเคราะห์สารกรดไฮยาลูโรนิกขึ้นเพื่อทดแทนสารกรดไฮยาลูโรนิกในร่างกายที่สูญเสียไป ปัจจุบันสารไฮยาลูโรนิก แอซิดถูกนำไปรักษาในทางการแพทย์อย่างหลากหลาย รวมถึงในวงการเสริมความงาม อย่างเช่น การฉีดฟิลเลอร์ และนำไปเป็นส่วนผสมของสกินแคร์
เวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ประเภท เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ สารพัดด้านเคมี เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line ID : @worldchemical
Facebook : https://www.facebook.com/chemical.chiangmai
เว็บไซต์ : www.worldchemical.co.th
โทร : 053 204 446-7