เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ “น้ำตาลทางด่วน

น้ำตาลทางด่วนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายกรณี เช่น ผสมในอาหารเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช ผสมอาหารเลี้ยงเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ รา หรือฉีดพ่นให้พืช (บางท่านเรียกว่า น้ำตาลทางด่วน ) เป็นต้น

น้ำตาลทางด่วนมีประโยชน์ต่อพืชอย่างไร?

น้ำตาลทางด่วนนิยมฉีดพ่นให้กับไม้ผล ในช่วงที่ประสบปัญหาสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เช่น สภาวะแล้งรุนแรงหรือหลังจากน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ระบบรากทำงานได้ไม่เป็นปกติ เมื่อพืชดูดซึมผ่านทางใบจะช่วยให้ต้นไม้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เนื่องจากมีส่วนผสมน้ำ น้ำตาลกลูโคส ซึ่งเป็นแหล่งให้พลังงานที่เซลสิ่งมีชีวิตนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยตรง

 

 

ประโยชน์ของน้ำตาลทางด่วน

1. ให้พลังงานพืชทันทีโดยไม่ต้องผ่านขบวนการสังเคราะห์แสง เพิ่มคุณภาพและความหวานให้กับผัก ผลไม้
2. ช่วยขบวนการสังเคราะห์แสงดีขึ้น เพิ่มพลังงานและสารอาหารสะสม โดยขบวนการธรรมชาติ
3. ช่วยปรับสมดุลของธาตุอาหารและฮอร์โมนภายในพืช ทำให้พืชมีสภาพแข็งแรง สะสมอาหารได้ดี โตเร็ว เพิ่มขนาดและน้ำหนักของผลผลิต
4. ช่วยฟื้นฟูสภาพต้นหลังการเก็บเกี่ยวตัดแต่งกิ่งเร่งการแตกใบอ่อนสะสมอาหาร
5. ช่วยให้พืชทนต่อสภาพแห้งแล้งและความหนาวเย็นได้ดี ป้องกันลดปัญหาการหลุดร่วงของดอกและผล
6. เมื่อฉีดน้ำตาลทางด่วนให้กับพืชแล้ว พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หลังจากฉีดพ่นตามทรงพุ่มแล้ว ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
7. เหมาะสำหรับพืชในช่วงที่ต้องการใช้พลังงานมากกว่าปกติ เช่น ช่วงแตกใบอ่อน ช่วงการออกดอก ช่วงติดผล และช่วงที่เร่งความหวานให้กับผลไม้
8. ลดปัญหาการหลุดร่วงของผลเนื่องจากการแบ่งอาหารสะสมของใบอ่อนที่แตกในระยะติดผลอ่อนหรือเนื่องจากอาหารสะสมในต้นไม่เพียงพอ โดยจะไปช่วยเสริมเป็นแหล่งอาหารทำให้พืชสามารถนำไปใช้ได้ทันท่วงทีก่อนที่จะมีปัญหาผลร่วง

เมื่อฉีดน้ำตาลทางด่วนให้กับพืชแล้ว พืชจะนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกประมาณกี่วัน?

พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หลังจากฉีดพ่นตามทรงพุ่มแล้ว ประมาณ 2-3 ชั่วโมง

วิธีการใช้งาน น้ำตาลทางด่วน

ใช้กับไม้ผล กล้วย มะพร้าว มะม่วง มะม่วงหิมพานต์ น้อยหน่า มะละกอ สับปะรด ทุเรียน เงาะ ลางสาด กระท้อน ละมุด ขนุน มังคุด ฝรั่ง ลำไย ลิ้นจี่ ส้มชนิดต่างๆ มะเดื่อ ฝรั่ง ทับทิม องุ่น ฯลฯ
1.ฉีดพ่นระยะหลังเก็บเกี่ยว 2-3 ครั้ง
2.ฉีดพ่นในช่วงแตกใบอ่อนทุกๆ7 วัน 3.ฉีดพ่นระยะก่อนดอกบาน 1 ครั้ง
3.ฉีดพ่นระยะขยายขนาดผล 2 ครั้ง เพื่อป้องกันผลร่วง
4.ฉีดพ่นระยะก่อนเก็บเกี่ยว เพื่อเพิ่มคุณภาพและความหวานของผลไม้ 2 ครั้ง

ใช้กับพืชผักต่างๆ ผักกินใบ ผักสวนครัว เช่น หอม หน่อไม้ฝรั่ง พริก หอม กระเทียม มันฝรั่ง มันเทศ มะเขือเทศ พืชตระกูลกะหล่ำ คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง ผักไฮโดรโปนิก ไม้ดอก ไม้ประดับ
1.ฉีดพ่นทุกช่วงการเจริญเติบโต ทุกๆ10วัน

สัดส่วนการใช้งาน ส่วนผสมของน้ำตาลทางด่วน ประกอบด้วย

  • สูตรเร่งตาดอก

    1.น้ำตาลทางด่วน 1 กิโลกรัม
    2.ฮิวมิค แอซิด 100 กรัม
    3.ปุ๋ยเกล็ด สูตร 15-30-15 หรือสูตร 10-20-30 อัตรา 60 กรัม
    4. ปุ๋ยเกล็ดสูตร 0-52-34 1 กก.
    โดยนำธาตุอาหารทั้งสามอย่างมารวมกันแล้วผสมกับน้ำ 200 ลิตรฉีดพ่น 2-3 ครั้งห่างกันทุก 7 วัน เพื่อเร่งให้ต้นสะสมอาหารและสร้างตาดอก

  • สูตรเปิดตาดอก

    1.น้ำตาลทางด่วน 1 กิโลกรัม
    2.สาหร่ายผง 100 กรัม
    3.ปุ๋ยเกล็ด โพแทสเซียมไนเตรต สูตร 13-0-46 1 กิโลกรัม
    โดยนำธาตุอาหารทั้งสามอย่างมารวมกันแล้วผสมกับน้ำ 200 ลิตรฉีดพ่น 2-3 ครั้งห่างกันทุก 7 วัน

  • สูตรบำรุงช่อดอก

    1.น้ำตาลทางด่วน 1 กิโลกรัม
    2.อะมิโน แอซิด 100 กรัม
    3.ปุ๋ยเกล็ด สูตร 10-52-17 1 กิโลกรัม
    4.แคลเซียม โบรอน 200ซีซี
    โดยนำมารวมกันแล้วผสมกับน้ำ 200 ลิตรฉีดพ่น 2-3 ครั้งห่างกันทุก 7 วัน

  • สูตรบำรุงผล เพิ่มความหวาน

    1.น้ำตาลทางด่วน 1 กิโลกรัม
    2.อะมิโน แอซิด 100 กรัม
    3.ปุ๋ยเกล็ด สูตร 6-32-32 1 กิโลกรัม
    4.แคลเซียม โบรอน 200ซีซี
    โดยนำมารวมกันแล้วผสมกับน้ำ 200 ลิตรฉีดพ่น 2-3 ครั้งห่างกันทุก 7 วัน

  • ฟื้นฟูสภาพต้นหลังเก็บเกี่ยวผลหรือฟื้นฟูสภาพต้นจากการเป็นโรคพืช

    พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หลังจากฉีดพ่นตามทรงพุ่มแล้ว ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
    1.น้ำตาลทางด่วน มีส่วนผสมของน้ำตาลกลูโคส 1 กิโลกรัม
    2.ฮิวมิค แอซิด 100 กรัม
    3.ปุ๋ยเกล็ด สูตร 15-30-15 หรือสูตร 10-20-30 อัตรา 500 กรัม
    4. สารชีวภัณฑ์ป้องกัน กำจัด กำจัดโรคพืช เช่น บาซิลลัส โปร ,บาซิลลัส ซับทิลิส ,เชื้อราไตรโคเดอร์มาและสารจับใบ ละลายในน้ำ 200ลิตร ฉีดพ่นที่บริเวณทรงพุ่มพอชุ่มเพียง 1-2 ครั้ง ในตอนเย็น จะช่วยให้ต้นไม้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

  • สูตรฉีดพ่นกระตุ้นการแตกใบ

    1.น้ำตาลทางด่วน มีส่วนผสมของน้ำตาลกลูโคส 1 กิโลกรัม
    2.ฮิวมิค แอซิด 100 กรัม 3.สาหร่ายผง 100กรัม
    3.ปุ๋ยเกล็ด สูตร 46-0-0 500 กรัม
    4. สารชีวภัณฑ์ป้องกัน กำจัด กำจัดโรคพืช เช่น บาซิลลัส โปร ,บาซิลลัส ซับทิลิส ,เชื้อราไตรโคเดอร์มาและสารจับใบ ละลายในน้ำ 200ลิตร ฉีดพ่นที่บริเวณทรงพุ่มพอชุ่มเพียง 1-2 ครั้ง ในตอนเย็น จะช่วยให้ต้นไม้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

  • สูตรฉีดพ่นบำรุงใบ

    1.น้ำตาลทางด่วน 500กรัม
    2.ปุ๋ยเกล็ดทางใบสูตรเสมอเช่น 15-15-15, 20-20-20 อัตรา 500กรัม
    3.สาหร่าย ผง 100กรัม
    4.ฮิวมิค แอซิด 100 กรัม
    5.สารชีวภัณฑ์ป้องกัน กำจัด กำจัดโรคพืช เช่น บาซิลลัส โปร ,บาซิลลัส ซับทิลิส ,เชื้อราไตรโคเดอร์มาและสารจับใบ ละลายในน้ำ 200ลิตร ฉีดพ่นที่บริเวณทรงพุ่มพอชุ่ม ในตอนเย็นทุก7-10วัน

  • ราดทางดินหรือปล่อยไปกับระบบน้ำ

    1.น้ำตาลทางด่วน 500กรัม
    2.ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 หรือ 16-16-16 จำนวน 2 กิโลกรัม +ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 อัตรา 2 กิโลกรัม
    3.ฮิวมิค แอซิด 100 กรัม 4.สารชีวภัณฑ์ป้องกัน กำจัด กำจัดโรคพืช เช่น บาซิลลัส โปร ,บาซิลลัส ซับทิลิส ,เชื้อราไตรโคเดอร์มา ละลายในน้ำ 200 ลิตร ปล่อยไปกับระบบน้ำทุก10วัน

การใช้งานน้ำตาลทางด่วนกับการเกษตร

การนำน้ำตาลทางด่วนมาใช้ในงานเกษตร สามารถใช้ได้กับทั้งพืชที่ให้ผล พืชผัก และพืชดอก โดยจะใช้วิธีการผสมน้ำตาลทางด่วนกับน้ำ และปุ๋ยหรือส่วนผสมอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ และเพื่อให้เหมาะกับพืชแต่ละชนิด ให้สามารถแก้ไขปัญของพืชได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยทั่วไปการใช้น้ำตาลทางด่วนนั้น มีอัตราการผสมสำหรับฉีดพ่นเป็นการให้สารอาหารเร่งด่วน คือ ผสมน้ำตาลทางด่วน 5-10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นในช่วงระยะที่พืชสลัดดอก ติดผล หรือช่วงก่อนเก็บเกี่ยว 1 เดือน พ่นในช่วงเช้าที่อากาศเย็นจะดีที่สุด

ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับน้ำตาลทางด่วนที่มีความสำคัญต่อการเกษตรเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นส่วนที่ได้มาจากธรรมชาติที่นำมาใช้เป็นอาหารเสริม เพื่อทำให้พืชฟื้นฟูสภาพและกลับมาแข็งแรงได้อย่างรวดเร็ว ด้วยคุณสมบัติที่พืชต้องการในการเจริญเติบโต ทำให้เมื่อใช้น้ำตาลทางด่วน นอกจากจะช่วยให้พืชแข็งแรง ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการได้ผลผลิตที่มากขึ้นด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้น้ำตาลทางด่วนเป็นตัวช่วยมากประโยชน์ที่เกษตรกรต้องมีติดไว้

สนใจติดต่อหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
261/3-6 ถ.มหิดล ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50100
053-204 446-7
053-204 465
sales_worldchemical@hotmail.com