วิธีจัดเก็บสารเคมีอันตราย เช่น กรด ด่าง และสารไวไฟ

วิธีจัดเก็บสารเคมีอันตราย เช่น กรด ด่าง และสารไวไฟ จำเป็นต้องมีการจัดการที่รัดกุมเพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน และ สิ่งแวดล้อม โดยสามารถแบ่งแนวทางการจัดเก็บเป็นกลุ่มดังนี้

1. การจัดเก็บกรด (Acids)

  • เก็บแยกจากด่าง และสารออกซิไดซ์ เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เพื่อป้องกันปฏิกิริยารุนแรง
  • ควรเก็บใน ตู้เก็บสารเคมีที่ทนต่อการกัดกร่อน เช่น ตู้เคลือบสารกันกรด หรือทำจากพลาสติกประเภทที่ทนกรด
  • ใช้ ถาดรองรับของเหลว เพื่อป้องกันการหกไหล
  • หลีกเลี่ยงการเก็บกรดไนตริกร่วมกับกรดอื่น ๆ เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาออกซิไดซ์ที่รุนแรง
  • ห้ามเก็บในที่มีอุณหภูมิสูงหรือบริเวณที่มีแสงแดดจัด

2. การจัดเก็บด่าง (Bases)

  • ควรเก็บแยกจากกรดและสารที่ทำปฏิกิริยากับด่าง เช่น อะลูมิเนียมหรือโลหะบางชนิด เพราะอาจก่อให้เกิดก๊าซไฮโดรเจน
  • ใช้ภาชนะที่ทนต่อสารเคมี เช่น ขวดพลาสติกโพลีเอทิลีน (PE) หรือโพลีโพรพิลีน (PP)
  • เก็บในที่เย็นและแห้ง หลีกเลี่ยงความชื้น เนื่องจากสารละลายด่างสามารถดูดความชื้นจากอากาศและทำให้เกิดการกัดกร่อนได้
  • ใช้ถาดรองรับของเหลวเพื่อป้องกันการหกไหล

3. การจัดเก็บสารไวไฟ (Flammable Chemicals)

  • ควรเก็บใน ตู้เก็บสารไวไฟ (Flammable Storage Cabinet) ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ
  • เก็บให้ห่างจากแหล่งกำเนิดความร้อน เปลวไฟ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่อาจก่อให้เกิดประกายไฟ
  • ภาชนะบรรจุต้องเป็นแบบปิดสนิทและมีฝาปิดที่ปลอดภัย
  • ห้ามเก็บร่วมกับสารออกซิไดซ์ เช่น โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต หรือสารที่อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาคายความร้อน
  • การระบายอากาศภายในพื้นที่จัดเก็บต้องมีประสิทธิภาพเพื่อลดความเข้มข้นของไอระเหยที่ติดไฟได้

การจัดเก็บสารไวไฟ (Flammable Chemicals) อย่างปลอดภัย

สารไวไฟเป็นสารเคมีที่ติดไฟได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับแหล่งความร้อน เปลวไฟ หรือ ประกายไฟ ดังนั้นจึงต้องมีการจัดเก็บอย่างเหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยหรืออุบัติเหตุ

1. ลักษณะของสถานที่จัดเก็บสารไวไฟ

พื้นที่เก็บต้องแยกจากอาคารหลัก หรืออยู่ในห้องที่ออกแบบมาสำหรับเก็บสารไวไฟโดยเฉพาะ
มีการระบายอากาศที่ดี เพื่อลดการสะสมของไอระเหยสารเคมีที่ติดไฟได้
ห้ามเก็บในพื้นที่ที่มีความร้อนสูง เช่น ใกล้หม้อไอน้ำ เตาเผา หรือแสงแดดโดยตรง
ห้ามสูบบุหรี่หรือใช้เปลวไฟ ในบริเวณจัดเก็บ

2. ตู้เก็บสารไวไฟ (Flammable Storage Cabinet)

🟡 ตู้จัดเก็บสารไวไฟควรมีคุณสมบัติ ดังนี้

  • ทำจากวัสดุที่ทนไฟได้ เช่น เหล็กสองชั้นพร้อมฉนวนกันไฟ
  • มี ระบบปิดอัตโนมัติ ในกรณีเกิดไฟไหม้
  • มี ช่องระบายอากาศ ลดการสะสมของไอระเหย
  • มี ป้ายเตือนอันตราย (Flammable – Keep Fire Away) ติดไว้ชัดเจน

💡 ข้อควรปฏิบัติ

  • ห้ามเก็บสารไวไฟมากเกินไปในตู้ ควรจำกัดปริมาณตามที่กำหนด
  • ขวดหรือภาชนะต้องปิดให้สนิทเมื่อไม่ใช้งาน
  • ใช้ถาดรองรับของเหลวเพื่อลดความเสี่ยงจากการรั่วไหล

3. การจัดวางและการแยกเก็บสารไวไฟ

ห้ามเก็บสารไวไฟร่วมกับสารเคมีที่อาจทำปฏิกิริยารุนแรง เช่น:
สารออกซิไดซ์ เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์, โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต
กรดเข้มข้น เช่น กรดซัลฟูริก, กรดไนตริก
สารก่อปฏิกิริยาแรง เช่น โลหะอัลคาไล (โซเดียม, โพแทสเซียม)

สารไวไฟที่เป็นของเหลว ควรเก็บแยกจากก๊าซไวไฟ เพื่อลดความเสี่ยงการระเหยแล้วเกิดการจุดติดไฟ

4. ระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์ป้องกัน

🔴 อุปกรณ์ป้องกันที่ต้องมีในบริเวณจัดเก็บ
ถังดับเพลิงชนิดที่เหมาะสม เช่น ถังดับเพลิง CO₂ หรือถังดับเพลิงผงเคมีแห้ง (Class B)
ระบบตรวจจับไอระเหยสารไวไฟ (Gas Detector)
ระบบป้องกันไฟฟ้าสถิต เช่น การติดตั้งสายดินในจุดเทหรือสูบถ่ายสารไวไฟ
วัสดุปูพื้นป้องกันไฟฟ้าสถิต เพื่อป้องกันการเกิดประกายไฟ

5. วิธีการขนย้ายและใช้งานสารไวไฟ

🚨 ข้อควรระวัง

  • ใช้ ภาชนะที่ออกแบบมาเพื่อจัดเก็บสารไวไฟ เช่น ถังโลหะที่มีฝาปิดแน่นหนา
  • ห้ามเทหรือถ่ายสารไวไฟใกล้แหล่งความร้อนหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า
  • ผู้ปฏิบัติงานต้องสวม อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เช่น ถุงมือป้องกันสารเคมี แว่นตานิรภัย และหน้ากากกรองไอระเหย
  • หากเกิดการรั่วไหล ให้ใช้ สารดูดซับพิเศษ เช่น Vermiculite หรือทรายดูดซับ

6. การกำจัดของเสียสารไวไฟ

ต้องกำจัดของเสียสารไวไฟอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดย:
✔ ห้ามเทลงท่อน้ำหรือทิ้งรวมกับขยะทั่วไป
✔ ใช้ภาชนะปิดสนิทและมีป้ายระบุชัดเจน
✔ ประสานงานกับหน่วยงานกำจัดของเสียอันตรายเพื่อดำเนินการอย่างถูกต้อง

7. การตรวจสอบและบำรุงรักษาพื้นที่จัดเก็บ

📌 ตรวจสอบสภาพพื้นที่จัดเก็บอย่างสม่ำเสมอ
ตรวจสอบตู้เก็บสารไวไฟให้อยู่ในสภาพดี ไม่มีการรั่วไหล
ตรวจสอบระบบระบายอากาศให้ทำงานได้ดี
ตรวจสอบวันหมดอายุของสารเคมีและกำจัดสารที่ไม่ใช้แล้ว

สรุป

🔹 เก็บสารไวไฟในตู้จัดเก็บเฉพาะที่มีฉนวนกันไฟ
🔹 แยกสารไวไฟออกจากสารออกซิไดซ์และสารที่ทำปฏิกิริยาได้ง่าย
🔹 ป้องกันประกายไฟและติดตั้งระบบระบายอากาศที่ดี
🔹 มีถังดับเพลิงและอุปกรณ์ป้องกันฉุกเฉินพร้อมใช้งาน
🔹 ตรวจสอบพื้นที่เก็บและสารเคมีเป็นประจำเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

การปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากสารไวไฟและป้องกันอุบัติเหตุในสถานที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🎯

4. การจัดเก็บสารเคมีอันตรายอื่น ๆ

  • สารออกซิไดซ์ เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ต้องเก็บแยกจากสารไวไฟ
  • สารพิษ เช่น สารปรอทหรือไซยาไนด์ ควรเก็บในตู้ล็อกที่มีการควบคุมการเข้าถึง
  • สารกัดกร่อน เช่น กรดไฮโดรฟลูออริก ควรเก็บในภาชนะพลาสติกที่ทนกรดแทนภาชนะโลหะ

5. มาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติม

  • ติดฉลากสารเคมีให้ชัดเจน พร้อมระบุชื่อสาร อันตราย และวิธีปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
  • จัดให้มีอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เช่น ถุงมือ แว่นตานิรภัย และหน้ากากป้องกันไอระเหย
  • มี ระบบระบายอากาศ ที่ดีเพื่อลดการสะสมของไอระเหยสารเคมี
  • ติดตั้ง ถังดับเพลิงชนิดที่เหมาะสม ในบริเวณที่เก็บสารไวไฟ
  • ควบคุมปริมาณสารเคมีที่จัดเก็บ ไม่ให้มากเกินความจำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
วิธีจัดเก็บสารเคมีอันตราย
วิธีจัดเก็บสารเคมีอันตราย

การปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากสารเคมีอันตรายและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ทำงานหรือห้องปฏิบัติการ

น้ำมันมะกอกสกัดเย็น, เคมีภัณฑ์,สารเคมีภัณฑ์,เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม,เคมีภัณฑ์เชียงใหม่,ร้านเคมีใกล้ฉันน้ำมันมะกอกสกัดเย็น, เคมีภัณฑ์,สารเคมีภัณฑ์,เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม,เคมีภัณฑ์เชียงใหม่,ร้านเคมีใกล้ฉัน

 

  • สนใจติดต่อ เวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ประเภท เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ สารพัดด้านเคมี เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่านสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่Line ID : @worldchemical
    Facebook : https://www.facebook.com/chemical.chiangmai
    เว็บไซต์ : www.worldchemical.co.th
    โทร : 053 204 446-7