มาทำความรู้จัก กัวร์กัม (Guar Gum) กันเถอะ!!

กัวร์กัม (Guar gum) คือสารเพิ่มความหนืดที่ได้จากการบดเมล็ดของพืชที่เรียกว่า “กัวร์” (Guar plant) ซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cyamopsis tetragonoloba พืชกัวร์เป็นพืชตระกูลถั่วที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในภูมิภาคแห้งแล้ง เช่น อินเดีย ปากีสถาน และบางส่วนของแอฟริกา เมล็ดของกัวร์มีการใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตกัวร์กัม โดยเมล็ดเหล่านี้จะถูกแยกเปลือก บด และกลั่นกรองเพื่อให้ได้ผงกัวร์กัมที่มีคุณภาพสูง กัวร์กัม มีคุณสมบัติในการทำให้ของเหลวข้นขึ้นและเป็นสารเจล ซึ่งทำให้มีการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเป็นหลัก

ในอุตสาหกรรมอาหาร กัวร์กัมมักใช้เป็นสารเพิ่มความหนืดในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ไอศกรีม, ซอส, น้ำผลไม้, ผลิตภัณฑ์นม และอาหารแช่แข็ง นอกจากนี้ยังใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมกระดาษ, สิ่งทอ, การขุดเจาะน้ำมัน และผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง

กัวร์กัมมีความสามารถในการดูดน้ำสูงและสามารถทำให้เกิดเจลที่มีความเสถียรและไม่แตกตัวง่าย ซึ่งทำให้เหมาะสมสำหรับการใช้ในกระบวนการผลิตต่างๆ ที่ต้องการความคงตัวของผลิตภัณฑ์

กระบวนการผลิตกัวร์กัม (Guar gum) ประกอบด้วยหลายขั้นตอนหลักดังนี้:

1. การเก็บเกี่ยวและการเตรียมเมล็ดกัวร์:
– เมล็ดกัวร์ถูกเก็บเกี่ยวจากต้นกัวร์ หลังจากนั้นเมล็ดจะถูกทำความสะอาดเพื่อขจัดสิ่งเจือปน เช่น ดิน ฝุ่น และสิ่งสกปรกอื่นๆ

2. การแยกเปลือก:
– เมล็ดกัวร์จะถูกแยกเปลือกออกเพื่อให้ได้เนื้อเมล็ด (endosperm) ที่มีความเข้มข้นของกัวร์กัมสูง

3. การบดเมล็ด:
– เนื้อเมล็ดกัวร์จะถูกบดให้ละเอียดเพื่อผลิตกัวร์กัมในรูปแบบผง กระบวนการนี้อาจใช้เครื่องบดหรือเครื่องปั่นที่มีประสิทธิภาพสูง

4. การคัดแยกและการกลั่นกรอง:
– ผงกัวร์กัมที่ได้จากการบดจะถูกคัดแยกเพื่อให้ได้ผงที่มีขนาดสม่ำเสมอ กระบวนการนี้อาจรวมถึงการใช้ตะแกรงหรือเครื่องกรอง

5. การทำให้บริสุทธิ์:
– ผงกัวร์กัมอาจถูกทำให้บริสุทธิ์เพิ่มเติมด้วยกระบวนการต่างๆ เช่น การล้างด้วยน้ำ เพื่อขจัดสิ่งเจือปนที่อาจยังคงหลงเหลืออยู่

6. การอบแห้ง:
– ผงกัวร์กัมที่บริสุทธิ์แล้วจะถูกอบแห้งเพื่อลดความชื้นและทำให้สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น กระบวนการอบแห้งนี้อาจใช้เตาอบหรือเครื่องอบแห้งที่มีอุณหภูมิและความชื้นควบคุม

7. การบรรจุและการจัดเก็บ:
– ผงกัวร์กัมที่แห้งและบริสุทธิ์แล้วจะถูกบรรจุลงในภาชนะหรือถุงบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและความชื้น จากนั้นจึงถูกจัดเก็บและเตรียมส่งออกไปยังตลาดหรือลูกค้า

กระบวนการผลิตนี้จะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและสม่ำเสมอ

กัวร์กัมมีประโยชน์หลากหลายและถูกใช้อย่างแพร่หลายในหลายอุตสาหกรรม ดังนี้:

 อุตสาหกรรมอาหาร

1. สารเพิ่มความหนืด: ใช้ในผลิตภัณฑ์เช่น ไอศกรีม, ซอส, น้ำสลัด, ซุป และเครื่องดื่ม เพื่อให้มีความหนืดและเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น
2. สารเจลลิ่ง: ช่วยในการสร้างเจลในผลิตภัณฑ์เยลลี่และของหวานอื่นๆ
3. สารกันน้ำแยกชั้น: ช่วยป้องกันการแยกชั้นของน้ำและน้ำมันในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำผลไม้และน้ำสลัด
4. เส้นใยอาหาร: ช่วยเพิ่มปริมาณเส้นใยในอาหาร ทำให้มีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร

อุตสาหกรรมยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

1. สารช่วยประสานและประสาน: ใช้ในยาเม็ดและแคปซูลเพื่อช่วยให้ส่วนผสมเกาะติดกันและมีความเสถียร
2. สารช่วยในการลดน้ำหนัก: ช่วยเพิ่มความอิ่มและลดการบริโภคอาหารมากเกินไป

อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย

1. สารเพิ่มความหนืด: ใช้ในครีม โลชั่น และแชมพูเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความหนืดและเนื้อสัมผัสที่ดี
2. สารให้ความชุ่มชื้น: ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังและเส้นผม

อุตสาหกรรมอื่นๆ

1. การขุดเจาะน้ำมัน: ใช้ในการทำสารละลายเจาะ (drilling mud) เพื่อเพิ่มความหนืดและทำให้การขุดเจาะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. อุตสาหกรรมกระดาษและสิ่งทอ: ใช้ในการปรับปรุงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ เช่น ความคงทนและความเรียบของกระดาษและสิ่งทอ

ประโยชน์ของกัวร์กัมที่มีความหลากหลายเหล่านี้ทำให้มันเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในกระบวนการผลิตต่างๆ และเป็นที่ต้องการในตลาดต่างๆ ทั่วโลก

ปริมาณการใช้กัวร์กัมจะแตกต่างกันไปตามประเภทของผลิตภัณฑ์และการใช้งานเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม ดังนี้:

อุตสาหกรรมอาหาร

1. ไอศกรีมและผลิตภัณฑ์นม: ใช้ในปริมาณประมาณ 0.2% – 0.5% ของน้ำหนักทั้งหมด
2. ซอสและน้ำสลัด: ใช้ในปริมาณประมาณ 0.1% – 1.0% ขึ้นอยู่กับความหนืดที่ต้องการ
3. เบเกอรี่: ใช้ในปริมาณประมาณ 0.1% – 0.5% เพื่อปรับปรุงเนื้อสัมผัสและความชุ่มชื้น
4. ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม: ใช้ในปริมาณประมาณ 0.05% – 0.2% เพื่อป้องกันการแยกชั้น

อุตสาหกรรมยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

1. ยาเม็ดและแคปซูล: ใช้ในปริมาณประมาณ 1% – 5% เพื่อช่วยประสานและเพิ่มความเสถียรของยา
2. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร: ใช้ในปริมาณตามคำแนะนำของผู้ผลิตหรือสูตรที่กำหนด

อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย

1. ครีมและโลชั่น: ใช้ในปริมาณประมาณ 0.2% – 2.0% เพื่อเพิ่มความหนืดและเนื้อสัมผัส
2. แชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม: ใช้ในปริมาณประมาณ 0.1% – 0.5% เพื่อปรับปรุงความหนืดและความชุ่มชื้น

อุตสาหกรรมอื่นๆ

1. การขุดเจาะน้ำมัน: ใช้ในปริมาณที่สูงกว่าสำหรับการทำสารละลายเจาะ โดยอาจใช้ในระดับ 0.5% – 2.0% หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความต้องการของกระบวนการ
2. อุตสาหกรรมกระดาษและสิ่งทอ: ใช้ในปริมาณที่แตกต่างกันไปตามสูตรและคุณสมบัติที่ต้องการ

การใช้กัวร์กัมในปริมาณที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ผลิตภัณฑ์มีความหนืดเกินไป หรือเกิดผลกระทบต่อคุณสมบัติอื่นๆ ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ

การเลือกใช้กัวร์กัมแทนสารตัวอื่นมีหลายเหตุผลที่สำคัญ ซึ่งเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติและข้อได้เปรียบของกัวร์กัม ดังนี้:

1. ความสามารถในการเพิ่มความหนืดและสร้างเจล
– กัวร์กัมมีความสามารถในการเพิ่มความหนืดของของเหลวและสร้างเจลได้ดีในปริมาณที่น้อย จึงช่วยประหยัดต้นทุนในการผลิต
– มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความหนืดได้ดีในอุณหภูมิต่างๆ และช่วงค่า pH ที่หลากหลาย

2. ความคงตัวและความเสถียร
– กัวร์กัมมีความเสถียรสูงในกระบวนการผลิตและการเก็บรักษา ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กัวร์กัมมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนาน
– สามารถทำงานได้ดีในผลิตภัณฑ์ที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำ

3. การเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ
– กัวร์กัมสามารถทำงานร่วมกับสารเคมีและวัตถุดิบอื่นๆ ได้ดีโดยไม่ทำให้เกิดการตกตะกอนหรือการแยกชั้น
– เข้ากันได้ดีกับโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันในสูตรอาหารและเครื่องดื่ม

4. ปลอดภัยและมีความเป็นธรรมชาติ
– กัวร์กัมเป็นสารที่ได้จากธรรมชาติและมักถูกมองว่ามีความปลอดภัยสูงเมื่อเทียบกับสารเคมีสังเคราะห์
– ได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยา (FDA) และหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ ทั่วโลก

5. ความสามารถในการใช้เป็นสารเส้นใยอาหาร
– กัวร์กัมมีคุณสมบัติเป็นเส้นใยอาหารที่สามารถช่วยในระบบการย่อยอาหารและเพิ่มปริมาณเส้นใยในอาหารได้
– ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กัวร์กัมมีประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มเติม

6. ความหลากหลายในการใช้งาน
– สามารถใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น อาหาร, เครื่องสำอาง, ยา, กระดาษ, และการขุดเจาะน้ำมัน
– มีการประยุกต์ใช้ที่หลากหลาย ตั้งแต่การเพิ่มความหนืดในผลิตภัณฑ์อาหารจนถึงการใช้ในกระบวนการทางอุตสาหกรรม

7. ราคาที่เหมาะสม
– กัวร์กัมมักมีราคาที่ถูกกว่าสารเพิ่มความหนืดอื่นๆ เช่น xanthan gum หรือ carrageenan ในบางกรณี
– ผลิตได้ในปริมาณมากจากพืชกัวร์ที่ปลูกได้ง่ายในหลายพื้นที่ของโลก

เนื่องจากคุณสมบัติและข้อดีเหล่านี้ กัวร์กัมจึงเป็นที่นิยมและเลือกใช้ในหลายอุตสาหกรรมแทนสารเพิ่มความหนืดและเจลอื่นๆ
เป็นยังไงกันบ้างค่ะ รู้จักกัวร์กัมกันไปมากเลยใช่ไหมคะ หากสนใจสินค้า หรือต้องการสอบถามข้อมูลส่วนอื่นเพิ่มเติม สามารถทัก Line กดเลือกซื้อสินค้าด้านล่างเข้ามาได้เลยนะคะ

 

 

 

สนใจติดต่อ เวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ประเภท เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ สารพัดด้านเคมี เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line ID : @worldchemical
Facebook : https://www.facebook.com/chemical.chiangmai
เว็บไซต์ : www.worldchemical.co.th
โทร : 053 204 446-7