บอแรกซ์ (Borax) ใช้กับอะไรบ้าง ?
บอแรกซ์ (Borax) ใช้กับอะไรบ้าง ? บอแรกซ์ (Borax) หรือที่เรียกกันว่า โซเดียมบอเรต (Sodium borate) เป็นสารเคมีที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายๆ อุตสาหกรรมและกิจกรรมในชีวิตประจำวันของมนุษย์ บอแรกซ์เป็นสารประกอบที่เกิดจากธาตุบอโรน (Boron) ซึ่งพบได้ตามธรรมชาติและมีความสำคัญในกระบวนการต่างๆ ทั้งในอุตสาหกรรมเคมี การเกษตร และการทำความสะอาด
1. บอแรกซ์คืออะไร?
2. ประโยชน์และการใช้งานของบอแรกซ์
บอแรกซ์เป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติที่หลากหลาย ทำให้สามารถนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรมและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ทั้งการทำความสะอาด การผลิตโลหะ แก้ว และเซรามิก รวมถึงการใช้ในด้านการเกษตร เครื่องสำอาง และอุตสาหกรรมยางและพลาสติก ซึ่งสามารถแบ่งการใช้งานออกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้:
2.1 การใช้งานในอุตสาหกรรมทำความสะอาด
บอแรกซ์เป็นส่วนผสมที่สำคัญในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เนื่องจากมีคุณสมบัติในการขจัดคราบสกปรกอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงคราบมันและสารตกค้างอื่นๆ ด้วยความสามารถในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ บอแรกซ์จึงเป็นสารทำความสะอาดที่นิยมใช้ในหลายด้าน:
-
- ผงซักฟอก: บอแรกซ์ช่วยในการขจัดคราบฝังแน่นจากเสื้อผ้า โดยทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผงซักฟอก ลดความกระด้างของน้ำ และช่วยให้ผ้าสะอาดและขาวมากขึ้น
- น้ำยาล้างจาน: บอแรกซ์สามารถใช้ในน้ำยาล้างจาน เนื่องจากมีคุณสมบัติในการละลายคราบมันและขจัดสิ่งสกปรกออกจากจานชามได้อย่างง่ายดาย
- น้ำยาทำความสะอาดพื้น: ใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตน้ำยาถูพื้นเพื่อขจัดคราบฝังแน่นและกำจัดเชื้อโรคในห้องน้ำหรือพื้นที่ที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น ครัวและห้องน้ำ
บอแรกซ์ยังสามารถใช้ในการทำความสะอาดอุปกรณ์ครัว หรือทำเป็นสารทำความสะอาดแบบโฮมเมดได้โดยผสมกับน้ำร้อนและสารอื่นๆ
2.2 การใช้งานในอุตสาหกรรมการผลิตแก้วและเซรามิก
บอแรกซ์มีบทบาทสำคัญในกระบวนการผลิตแก้วและเซรามิก ซึ่งใช้ในการปรับลดจุดหลอมเหลวของวัตถุดิบและช่วยให้แก้วมีความคงทนสูง อีกทั้งยังทำให้เนื้อแก้วหรือเซรามิกมีความโปร่งใส เรียบเนียนมากขึ้น:
-
- การผลิตแก้ว: บอแรกซ์ช่วยให้การผลิตแก้วมีความเร็วขึ้นและลดพลังงานที่ต้องใช้ในการหลอม ทำให้แก้วมีคุณภาพสูงขึ้นและแข็งแรงมากกว่าเดิม
- การผลิตเซรามิก: ใช้ในการเคลือบเครื่องเซรามิก เช่น เครื่องครัวหรือเครื่องประดับ เพื่อให้มีความมันวาวและทนทานต่อความร้อน
2.3 การใช้งานในอุตสาหกรรมโลหะ
บอแรกซ์ยังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมโลหะ โดยเฉพาะในกระบวนการถลุงและเชื่อมโลหะ:
-
- การถลุงโลหะ: บอแรกซ์ถูกใช้เป็นสารช่วยในการลดจุดหลอมเหลวของแร่โลหะในกระบวนการถลุง และช่วยทำให้แยกโลหะบริสุทธิ์ออกจากสิ่งสกปรกได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในการถลุงทอง ทองแดง และเหล็ก
- การเชื่อมโลหะ: บอแรกซ์ช่วยเป็นสารหล่อลื่นในการเชื่อมและหล่อโลหะ ทำให้การเชื่อมมีความเรียบเนียน ลดการเกิดออกไซด์บนพื้นผิวโลหะ ทำให้ชิ้นงานมีคุณภาพสูงขึ้น
2.4 การใช้งานในอุตสาหกรรมเกษตร
บอแรกซ์มีบทบาทสำคัญในภาคการเกษตร เนื่องจากเป็นแหล่งของธาตุบอโรนซึ่งเป็นธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช:
-
- การใช้เป็นปุ๋ย: บอแรกซ์ถูกใช้เป็นส่วนผสมในปุ๋ยเพื่อเสริมธาตุบอโรนให้กับพืช ธาตุบอโรนมีความสำคัญต่อกระบวนการสร้างเซลล์พืช การเจริญเติบโตของราก ใบ และดอก
- การบำรุงพืช: การขาดธาตุบอโรนอาจทำให้พืชเกิดการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ เช่น ใบแห้งหรือตาย ดังนั้นบอแรกซ์จึงถูกใช้เป็นสารเสริมธาตุอาหารในไร่และสวนเพื่อเพิ่มผลผลิต
2.5 การใช้งานในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
บอแรกซ์ยังถูกใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อช่วยปรับสมดุลความเป็นกรด-ด่าง (pH) และเพิ่มความเสถียรให้กับผลิตภัณฑ์:
-
- ครีมบำรุงผิวและโลชั่น: บอแรกซ์ช่วยให้เนื้อครีมและโลชั่นมีความเข้มข้นและเนียนนุ่ม ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย
- สบู่: บอแรกซ์ช่วยในการทำให้สบู่มีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้นและเพิ่มความสามารถในการทำความสะอาด
2.6 การใช้งานในอุตสาหกรรมยางและพลาสติก
บอแรกซ์ถูกใช้ในกระบวนการผลิตยางสังเคราะห์และพลาสติกเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความทนทาน:
-
- ยางสังเคราะห์: บอแรกซ์ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับยาง และทำให้ยางมีความทนทานต่อการสึกหรอมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงคุณสมบัติด้านความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของผลิตภัณฑ์ยาง
- พลาสติก: ใช้เป็นสารเติมแต่งในการผลิตพลาสติกเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและทำให้พลาสติกทนต่อความร้อน
3. ความปลอดภัยในการใช้บอแรกซ์
แม้ว่าบอแรกซ์จะมีประโยชน์หลากหลายและถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย แต่การใช้บอแรกซ์ก็จำเป็นต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะการสัมผัสหรือการรับสารบอแรกซ์ในปริมาณมากเกินไปอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งทางกายภาพและระบบภายในร่างกายได้ ดังนั้นการใช้งานบอแรกซ์อย่างปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยมีข้อพึงระวังดังต่อไปนี้:
3.1 ผลกระทบต่อสุขภาพจากการสัมผัสบอแรกซ์
การสัมผัสบอแรกซ์โดยตรงสามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองทั้งทางผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ ดังนั้น การใช้งานบอแรกซ์ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำเพื่อความปลอดภัย:
-
- การสัมผัสทางผิวหนัง: บอแรกซ์อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองหรือผื่นแพ้ เมื่อสัมผัสกับผิวหนังเป็นเวลานาน ควรล้างมือด้วยน้ำสบู่หลังจากการสัมผัส และหากเกิดอาการแพ้ให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดและปรึกษาแพทย์
- การสูดดม: ฝุ่นหรือไอระเหยจากบอแรกซ์อาจก่อให้เกิดอาการไอหรือหายใจลำบาก ควรใช้งานในที่ที่มีการระบายอากาศดี หรือสวมใส่หน้ากากป้องกันการสูดดมสารเคมี
- การสัมผัสกับตา: การสัมผัสบอแรกซ์กับตาอาจทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวให้รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดและปรึกษาแพทย์ทันที
3.2 การบริโภคบอแรกซ์
บอแรกซ์ถือเป็นสารเคมีที่ไม่ควรบริโภคเข้าไป แม้ว่าบางประเทศจะมีการนำบอแรกซ์ไปใช้ในอาหารเช่นในอดีต แต่ปัจจุบันการบริโภคบอแรกซ์ในปริมาณมากเป็นสิ่งที่ไม่ปลอดภัย เนื่องจากสามารถส่งผลเสียต่อระบบทางเดินอาหารและอวัยวะภายใน เช่น:
-
- ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย หากรับสารเข้าไปในปริมาณมาก
- เสี่ยงต่อการเกิดพิษสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพในระยะยาว เช่น ความเสียหายต่อไต และระบบสืบพันธุ์
3.3 ข้อควรระวังในการใช้บอแรกซ์
เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการใช้บอแรกซ์ ควรปฏิบัติตามข้อควรระวังดังนี้:
-
- อ่านฉลากและคำเตือน ก่อนการใช้งานผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของบอแรกซ์ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
- สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น ถุงมือ หน้ากากอนามัย แว่นตาป้องกันการระคายเคือง หากต้องใช้บอแรกซ์ในปริมาณมากหรือใช้งานในอุตสาหกรรม
- เก็บบอแรกซ์ให้พ้นมือเด็ก เพื่อป้องกันการสัมผัสหรือการบริโภคโดยไม่ได้ตั้งใจ
- หลีกเลี่ยงการใช้บอแรกซ์ในอาหาร ในบางประเทศเช่นไทยได้มีการห้ามใช้บอแรกซ์เป็นส่วนผสมในอาหาร เนื่องจากเสี่ยงต่อสุขภาพ
3.4 การจัดการในกรณีฉุกเฉิน
หากมีการสัมผัสหรือรับสารบอแรกซ์โดยไม่ตั้งใจ ควรดำเนินการดังนี้:
-
- กรณีสัมผัสทางผิวหนัง: ล้างผิวหนังด้วยน้ำสะอาดทันที หากมีอาการระคายเคือง ควรปรึกษาแพทย์
- กรณีสัมผัสกับตา: รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที และปรึกษาแพทย์หากมีอาการระคายเคืองต่อเนื่อง
- กรณีสูดดม: ย้ายผู้ป่วยออกจากพื้นที่ที่มีการฟุ้งกระจายของสาร และให้รับอากาศบริสุทธิ์ หากอาการหายใจไม่สะดวกยังคงอยู่ ให้ปรึกษาแพทย์ทันที
- กรณีรับประทาน: รีบดื่มน้ำจำนวนมากเพื่อเจือจางบอแรกซ์ และควรปรึกษาแพทย์ทันที ห้ามทำให้อาเจียนหากไม่อยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
3.5 ข้อกฎหมายและข้อกำหนดเกี่ยวกับบอแรกซ์
ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย การใช้บอแรกซ์ในอาหารถือเป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมาย เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว หน่วยงานต่าง ๆ เช่น องค์การอาหารและยา (FDA) และคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ (FAO) ได้มีการกำหนดข้อห้ามและข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้บอแรกซ์ในผลิตภัณฑ์อาหารอย่างชัดเจน
4. บทบาทของบอแรกซ์ในชีวิตประจำวัน
บอแรกซ์ถือว่าเป็นสารเคมีที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก โดยบอแรกซ์ถูกนำไปใช้ในหลายๆ กิจกรรมและอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในครัวเรือนหรือในระดับอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ซึ่งแต่ละการใช้งานของบอแรกซ์ช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นและช่วยปรับปรุงกระบวนการต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ บทบาทหลักๆ ของบอแรกซ์ในชีวิตประจำวันสามารถแยกออกเป็นดังนี้:
4.1 การใช้งานในครัวเรือน
ในครัวเรือน บอแรกซ์มีการใช้งานที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการในการทำความสะอาดและปรับปรุงสภาพสิ่งของต่างๆ เช่น:
-
- การทำความสะอาด: บอแรกซ์ถูกใช้เป็นสารทำความสะอาดในบ้านเรือน เช่น ในการซักผ้า ล้างจาน และทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ เนื่องจากบอแรกซ์มีคุณสมบัติช่วยสลายคราบมันและคราบสกปรกที่ฝังแน่น ทำให้เป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหลายชนิด
- การขจัดกลิ่น: บอแรกซ์สามารถดูดซับและกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ เช่น การใช้ในการดับกลิ่นในห้องน้ำ พรม หรือรองเท้า โดยโรยบอแรกซ์ไว้บริเวณที่ต้องการกำจัดกลิ่นแล้วปล่อยไว้ระยะหนึ่งก่อนจะทำความสะอาดออก
- การควบคุมแมลง: บอแรกซ์มีคุณสมบัติในการช่วยควบคุมแมลง เช่น มดและปลวก โดยการโรยบอแรกซ์ในพื้นที่ที่มีแมลงเข้ามารบกวน เพราะบอแรกซ์จะมีผลกระทบต่อระบบย่อยอาหารของแมลง ทำให้พวกมันไม่สามารถดำรงชีวิตได้
4.2 การใช้งานในอุตสาหกรรม
บอแรกซ์ยังมีบทบาทสำคัญในกระบวนการทางอุตสาหกรรมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการผลิตโลหะ แก้ว เซรามิก และพลาสติก ดังนี้:
-
- อุตสาหกรรมโลหะ: บอแรกซ์ถูกใช้ในการผลิตและการเชื่อมโลหะ เช่น ทองแดง เหล็ก และทองคำ โดยช่วยในการถลุงโลหะและป้องกันการเกิดออกไซด์ในกระบวนการหล่อโลหะ นอกจากนี้ บอแรกซ์ยังใช้เป็นสารหล่อลื่นที่ช่วยให้การเชื่อมโลหะมีความราบรื่นและแข็งแรงมากขึ้น
- อุตสาหกรรมแก้วและเซรามิก: ในการผลิตแก้วและเซรามิก บอแรกซ์มีบทบาทในการลดจุดหลอมเหลวของวัตถุดิบ ทำให้กระบวนการผลิตเป็นไปได้ง่ายขึ้น และช่วยเพิ่มความทนทานและความเรียบเนียนของผลิตภัณฑ์ ทำให้แก้วและเซรามิกมีคุณภาพสูงขึ้น
- อุตสาหกรรมพลาสติกและยาง: บอแรกซ์ถูกนำมาใช้ในการปรับปรุงคุณสมบัติของพลาสติกและยาง ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีความแข็งแรง ทนทานต่อการสึกหรอ และมีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งเป็นประโยชน์ในการผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องการคุณสมบัติพิเศษ
4.3 การใช้งานในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย
บอแรกซ์ถูกนำมาใช้เป็นสารปรับสมดุลค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เช่น ครีมบำรุงผิว โลชั่น และสบู่ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความเสถียรและความคงทนของผลิตภัณฑ์ ทำให้มีอายุการใช้งานนานขึ้น โดยบอแรกซ์ช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์มีความอ่อนโยนต่อผิวหนัง
4.4 การใช้งานในด้านการเกษตร
ในด้านการเกษตร บอแรกซ์เป็นแหล่งสำคัญของธาตุบอโรน (Boron) ซึ่งเป็นธาตุอาหารรองที่พืชต้องการสำหรับการเจริญเติบโต ธาตุบอโรนช่วยเสริมสร้างระบบราก ใบ ดอก และผลของพืชให้เติบโตได้อย่างแข็งแรง บอแรกซ์จึงถูกใช้เป็นสารเสริมในปุ๋ยเพื่อช่วยในการเจริญเติบโตของพืช นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคพืชที่มีสาเหตุจากการขาดธาตุบอโรน
4.5 การใช้งานในการศึกษาและกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์
บอแรกซ์ยังมีบทบาทในด้านการศึกษาและการทำกิจกรรมวิทยาศาสตร์ โดยถูกใช้ในการทดลองทางเคมี และในกิจกรรมสร้างสรรค์เชิงวิทยาศาสตร์ เช่น การทำ “สไลม์” ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมสำหรับเด็กและเยาวชนที่เรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานะของสาร นอกจากนี้ การใช้บอแรกซ์ในกิจกรรมวิทยาศาสตร์ยังช่วยให้ผู้เรียนได้เข้าใจหลักการและกระบวนการทางเคมีมากขึ้น
4.6 การใช้งานในอุตสาหกรรมการเก็บรักษาและบรรจุภัณฑ์
บอแรกซ์ถูกนำมาใช้ในการผลิตสารกันบูดและสารที่ช่วยป้องกันการเน่าเสียในผลิตภัณฑ์ เช่น ในกระบวนการเก็บรักษาอาหารและสิ่งของบางประเภท เนื่องจากบอแรกซ์มีคุณสมบัติในการควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่บรรจุมีอายุการเก็บรักษานานขึ้น
5. ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าบอแรกซ์
แม้บอแรกซ์จะมีประโยชน์และใช้งานได้ในหลากหลายรูปแบบ แต่ด้วยความกังวลเรื่องความปลอดภัย ทั้งในแง่ของสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ก็มีสารเคมีและผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่สามารถใช้แทนบอแรกซ์ได้อย่างปลอดภัยมากกว่าในบางกรณี ทางเลือกเหล่านี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อผู้ใช้งานมากกว่า ตัวอย่างของสารทางเลือก ได้แก่:
5.1 เบกกิ้งโซดา (Baking soda)
-
- คุณสมบัติ: เบกกิ้งโซดา หรือโซเดียมไบคาร์บอเนต เป็นสารธรรมชาติที่ใช้กันทั่วไปในงานทำความสะอาดภายในบ้าน โดยมีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบมันและคราบสกปรกอย่างมีประสิทธิภาพ
- การใช้งาน: สามารถใช้ในการทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ ซักผ้า และขจัดกลิ่นเหม็น เบกกิ้งโซดายังปลอดภัยต่อผิวหนังและไม่เป็นอันตรายเมื่อสัมผัสหรือสูดดม จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือน
5.2 กรดซิตริก (Citric acid)
-
- คุณสมบัติ: กรดซิตริกเป็นสารที่พบในผลไม้ตระกูลส้ม มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ ที่สามารถขจัดคราบหินปูนและคราบสกปรกได้ดี
- การใช้งาน: กรดซิตริกสามารถใช้ในการทำความสะอาดในครัวเรือน เช่น ทำความสะอาดพื้นผิวในห้องครัว ล้างอุปกรณ์เครื่องใช้ และขจัดคราบหินปูนในกาน้ำร้อนหรือเครื่องซักผ้า ทั้งยังไม่เป็นพิษและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
5.3 น้ำส้มสายชู (Vinegar)
-
- คุณสมบัติ: น้ำส้มสายชูเป็นกรดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค สามารถขจัดคราบมัน คราบหินปูน และแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การใช้งาน: น้ำส้มสายชูสามารถใช้ทำความสะอาดในบ้าน ซักผ้า ขจัดคราบในห้องน้ำ หรือทำความสะอาดกระจกได้ และยังสามารถใช้เป็นสารขจัดกลิ่นในพื้นที่ปิดได้ด้วย
5.4 สบู่ก้อนธรรมชาติ (Castile soap)
-
- คุณสมบัติ: สบู่ก้อนธรรมชาติหรือสบู่เหลวที่ทำจากน้ำมันพืช เช่น น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าว เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่สามารถใช้ทำความสะอาดได้อย่างปลอดภัย
- การใช้งาน: สบู่ชนิดนี้ใช้ทำความสะอาดพื้นผิวในบ้านและซักผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำให้ผิวหนังระคายเคืองและไม่ทิ้งสารเคมีตกค้าง
5.5 โซดาแอช (Soda ash)
-
- คุณสมบัติ: โซดาแอช หรือโซเดียมคาร์บอเนต เป็นสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมและการทำความสะอาดครัวเรือน มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซักผ้าและการทำความสะอาดพื้นผิวที่มันและสกปรก
- การใช้งาน: สามารถใช้ในกระบวนการทำความสะอาดที่ต้องการการขจัดคราบสกปรกที่รุนแรง เช่น การทำความสะอาดพื้นและเครื่องครัว
5.6 ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide)
-
- คุณสมบัติ: ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อและทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถขจัดคราบต่างๆ เช่น คราบเลือดและคราบอาหารได้ดี
- การใช้งาน: ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาดพื้นผิวในครัวเรือน เช่น ห้องน้ำหรือห้องครัว โดยไม่ทิ้งสารเคมีตกค้างและปลอดภัยกว่าบอแรกซ์
ข้อเสียของบอแรกซ์ (Borax)
แม้ว่าบอแรกซ์จะมีประโยชน์และใช้งานได้หลากหลาย แต่ก็มีข้อเสียและความเสี่ยงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ควรพิจารณา ดังนี้:
1. ความเสี่ยงต่อสุขภาพ
- การระคายเคืองต่อผิวหนังและตา: บอแรกซ์อาจทำให้เกิดการระคายเคืองเมื่อสัมผัสกับผิวหนังและดวงตา หากมีการสัมผัสในระยะยาวหรือสัมผัสในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดผื่นคัน แสบร้อน หรืออักเสบได้
- ผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ: การสูดดมผงบอแรกซ์เป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ หรือหายใจลำบาก โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้งานในพื้นที่ที่ไม่ระบายอากาศดีพอ
- พิษจากการบริโภค: บอแรกซ์เป็นสารที่ไม่ควรบริโภค เนื่องจากมีพิษต่อระบบย่อยอาหาร หากได้รับเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย และอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นพิษต่อไตหรือตับได้
2. ความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อม
- ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำ: บอแรกซ์อาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในระบบน้ำ เนื่องจากสารนี้สามารถสะสมในดินและน้ำ ทำให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ เช่น ปลาและพืชน้ำ หากมีการปล่อยบอแรกซ์เข้าสู่แหล่งน้ำธรรมชาติโดยไม่ได้รับการบำบัด
- การสะสมในดิน: บอแรกซ์สามารถสะสมในดินและเป็นพิษต่อพืชในกรณีที่มีการใช้งานในปริมาณมากหรือใช้อย่างต่อเนื่อง ทำให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ
3. การห้ามใช้ในบางประเทศ
บางประเทศได้ออกมาตรการควบคุมหรือห้ามใช้บอแรกซ์ในบางประเภทของผลิตภัณฑ์ เช่น ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหรืออาหาร เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ นอกจากนี้ หลายหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางเคมี เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ และหน่วยงานด้านเคมีของยุโรป (ECHA) ก็ได้แนะนำให้ใช้บอแรกซ์อย่างระมัดระวัง
4. การควบคุมการใช้งาน
เนื่องจากบอแรกซ์มีผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม จึงมีการออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้งานในบางอุตสาหกรรม เช่น การผลิตเครื่องสำอางและสารทำความสะอาด ซึ่งต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวดในการผลิตและการใช้งาน
-
(0)
บอแรกซ์ (ฺBorax)
130 ฿ – 1,250 ฿
- ชื่อสินค้า : บอแรกซ์ (ฺBorax)
- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Borax
- สูตรเคมี : Na₂[B₄O₅(OH)₄]·8H₂O
- Packing : ถุง และ กระสอบ (Bag and Sack)
- COA และ MSDS : ติดต่อขอรับได้ที่ sales_worldchemical@hotmail.com
-
(0)
เคลือบเงาเบาะ กลิ่นหอมพิเศษ (Silicone Wax)
105 ฿ – 450 ฿
- ชื่อสินค้า : เคลือบเงาเบาะ กลิ่นหอมพิเศษ (Silicone Wax)
- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Silicone Wax
- สูตรเคมี :
- Packing : ขวด และ ถัง (Bottle and Gallon Tank)
- COA และ MSDS : ติดต่อขอรับได้ที่ sales_worldchemical@hotmail.com
-
(0)
โซดาไฟเกล็ด อาซาฮี ขนาด 25 kg
880 ฿
- ชื่อสินค้า : โซดาไฟเกล็ด อาซาฮี ขนาด 25 kg
- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sodium Hydroxide
- สูตรเคมี : NaOH
- Packing : ถุง และ กระสอบ (ฺBag and Sack)
- COA และ MSDS : ติดต่อขอรับได้ที่ sales_worldchemical@hotmail.com
- Product Catalog : เคมีทั่วไป เวิลด์ เคมีคอล ฟาร์อีสท์
-
(0)
โซเดียม เมตาไบต์ซัลไฟต์ (Sodium Metabisulfite)
95 ฿ – 990 ฿
- ชื่อสินค้า : โซเดียม เมตาไบต์ซัลไฟต์ (Sodium Metabisulfite)
- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sodium Metabisulfite
- สูตรเคมี : Na2S2O5
- Packing : ถุง และ กระสอบ (Bag and Sack)
- COA และ MSDS : ติดต่อขอรับได้ที่ sales_worldchemical@hotmail.com
สนใจติดต่อ เวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ประเภท เคมีอุตสาหกรรม เคมีทําความสะอาด เคมีสระว่ายน้ำ เคมีบำบัดน้ำ เคมีงานปั้น-งานหล่อ เคมีอาหาร กลิ่น สารสกัด สี น้ำหอม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ สารพัดด้านเคมี เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line ID : @worldchemical
Facebook : https://www.facebook.com/chemical.chiangmai
เว็บไซต์ : www.worldchemical.co.th