ประโยชน์ของน้ำตาลทางด่วน
1. ให้พลังงานพืชทันทีโดยไม่ต้องผ่านขบวนการสังเคราะห์แสง เพิ่มคุณภาพและความหวานให้กับผัก ผลไม้
2. ช่วยขบวนการสังเคราะห์แสงดีขึ้น เพิ่มพลังงานและสารอาหารสะสม โดยขบวนการธรรมชาติ
3. ช่วยปรับสมดุลของธาตุอาหารและฮอร์โมนภายในพืช ทำให้พืชมีสภาพแข็งแรง สะสมอาหารได้ดี โตเร็ว เพิ่มขนาดและน้ำหนักของผลผลิต
4. ช่วยฟื้นฟูสภาพต้นหลังการเก็บเกี่ยวตัดแต่งกิ่งเร่งการแตกใบอ่อนสะสมอาหาร
5. ช่วยให้พืชทนต่อสภาพแห้งแล้งและความหนาวเย็นได้ดี ป้องกันลดปัญหาการหลุดร่วงของดอกและผล
6. เมื่อฉีดน้ำตาลทางด่วนให้กับพืชแล้ว พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หลังจากฉีดพ่นตามทรงพุ่มแล้ว ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
7. เหมาะสำหรับพืชในช่วงที่ต้องการใช้พลังงานมากกว่าปกติ เช่น ช่วงแตกใบอ่อน ช่วงการออกดอก ช่วงติดผล และช่วงที่เร่งความหวานให้กับผลไม้
8. ลดปัญหาการหลุดร่วงของผลเนื่องจากการแบ่งอาหารสะสมของใบอ่อนที่แตกในระยะติดผลอ่อนหรือเนื่องจากอาหารสะสมในต้นไม่เพียงพอ โดยจะไปช่วยเสริมเป็นแหล่งอาหารทำให้พืชสามารถนำไปใช้ได้ทันท่วงทีก่อนที่จะมีปัญหาผลร่วง
วิธีการใช้งานน้ำตาลทางด่วน
- ใช้กับไม้ผล กล้วย มะพร้าว มะม่วง มะม่วงหิมพานต์ น้อยหน่า มะละกอ สับปะรด ทุเรียน เงาะ ลางสาด กระท้อน ละมุด ขนุน มังคุด ฝรั่ง ลำไย ลิ้นจี่ ส้มชนิดต่างๆ มะเดื่อ ฝรั่ง ทับทิม องุ่น ฯลฯ
1.ฉีดพ่นระยะหลังเก็บเกี่ยว 2-3 ครั้ง
2.ฉีดพ่นในช่วงแตกใบอ่อนทุกๆ7 วัน 3.ฉีดพ่นระยะก่อนดอกบาน 1 ครั้ง
3.ฉีดพ่นระยะขยายขนาดผล 2 ครั้ง เพื่อป้องกันผลร่วง
4.ฉีดพ่นระยะก่อนเก็บเกี่ยว เพื่อเพิ่มคุณภาพและความหวานของผลไม้ 2 ครั้ง - ใช้กับพืชผักต่างๆ ผักกินใบ ผักสวนครัว เช่น หอม หน่อไม้ฝรั่ง พริก หอม กระเทียม มันฝรั่ง มันเทศ มะเขือเทศ พืชตระกูลกะหล่ำ คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง ผักไฮโดรโปนิก ไม้ดอก ไม้ประดับ
1.ฉีดพ่นทุกช่วงการเจริญเติบโต ทุกๆ10วัน
สัดส่วนการใช้งาน ส่วนผสมของน้ำตาลทางด่วน ประกอบด้วย
-
สูตรเร่งตาดอก
1.น้ำตาลทางด่วน 1 กิโลกรัม
2.ฮิวมิค แอซิด 100 กรัม
3.ปุ๋ยเกล็ด สูตร 15-30-15 หรือสูตร 10-20-30 อัตรา 60 กรัม
4. ปุ๋ยเกล็ดสูตร 0-52-34 1 กก.
โดยนำธาตุอาหารทั้งสามอย่างมารวมกันแล้วผสมกับน้ำ 200 ลิตรฉีดพ่น 2-3 ครั้งห่างกันทุก 7 วัน เพื่อเร่งให้ต้นสะสมอาหารและสร้างตาดอก -
สูตรเปิดตาดอก
1.น้ำตาลทางด่วน 1 กิโลกรัม
2.สาหร่ายผง 100 กรัม
3.ปุ๋ยเกล็ด โพแทสเซียมไนเตรต สูตร 13-0-46 1 กิโลกรัม
โดยนำธาตุอาหารทั้งสามอย่างมารวมกันแล้วผสมกับน้ำ 200 ลิตรฉีดพ่น 2-3 ครั้งห่างกันทุก 7 วัน -
สูตรบำรุงช่อดอก
1.น้ำตาลทางด่วน 1 กิโลกรัม
2.อะมิโน แอซิด 100 กรัม
3.ปุ๋ยเกล็ด สูตร 10-52-17 1 กิโลกรัม
4.แคลเซียม โบรอน 200ซีซี
โดยนำมารวมกันแล้วผสมกับน้ำ 200 ลิตรฉีดพ่น 2-3 ครั้งห่างกันทุก 7 วัน -
สูตรบำรุงผล เพิ่มความหวาน
1.น้ำตาลทางด่วน 1 กิโลกรัม
2.อะมิโน แอซิด 100 กรัม
3.ปุ๋ยเกล็ด สูตร 6-32-32 1 กิโลกรัม
4.แคลเซียม โบรอน 200ซีซี
โดยนำมารวมกันแล้วผสมกับน้ำ 200 ลิตรฉีดพ่น 2-3 ครั้งห่างกันทุก 7 วัน -
ฟื้นฟูสภาพต้นหลังเก็บเกี่ยวผลหรือฟื้นฟูสภาพต้นจากการเป็นโรคพืช
พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หลังจากฉีดพ่นตามทรงพุ่มแล้ว ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
1.น้ำตาลทางด่วน มีส่วนผสมของน้ำตาลกลูโคส 1 กิโลกรัม
2.ฮิวมิค แอซิด 100 กรัม
3.ปุ๋ยเกล็ด สูตร 15-30-15 หรือสูตร 10-20-30 อัตรา 500 กรัม
4. สารชีวภัณฑ์ป้องกัน กำจัด กำจัดโรคพืช เช่น บาซิลลัส โปร ,บาซิลลัส ซับทิลิส ,เชื้อราไตรโคเดอร์มาและสารจับใบ ละลายในน้ำ 200ลิตร ฉีดพ่นที่บริเวณทรงพุ่มพอชุ่มเพียง 1-2 ครั้ง ในตอนเย็น จะช่วยให้ต้นไม้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น -
สูตรฉีดพ่นกระตุ้นการแตกใบ
1.น้ำตาลทางด่วน มีส่วนผสมของน้ำตาลกลูโคส 1 กิโลกรัม
2.ฮิวมิค แอซิด 100 กรัม 3.สาหร่ายผง 100กรัม
3.ปุ๋ยเกล็ด สูตร 46-0-0 500 กรัม
4. สารชีวภัณฑ์ป้องกัน กำจัด กำจัดโรคพืช เช่น บาซิลลัส โปร ,บาซิลลัส ซับทิลิส ,เชื้อราไตรโคเดอร์มาและสารจับใบ ละลายในน้ำ 200ลิตร ฉีดพ่นที่บริเวณทรงพุ่มพอชุ่มเพียง 1-2 ครั้ง ในตอนเย็น จะช่วยให้ต้นไม้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น -
สูตรฉีดพ่นบำรุงใบ
1.น้ำตาลทางด่วน 500กรัม
2.ปุ๋ยเกล็ดทางใบสูตรเสมอเช่น 15-15-15, 20-20-20 อัตรา 500กรัม
3.สาหร่าย ผง 100กรัม
4.ฮิวมิค แอซิด 100 กรัม
5.สารชีวภัณฑ์ป้องกัน กำจัด กำจัดโรคพืช เช่น บาซิลลัส โปร ,บาซิลลัส ซับทิลิส ,เชื้อราไตรโคเดอร์มาและสารจับใบ ละลายในน้ำ 200ลิตร ฉีดพ่นที่บริเวณทรงพุ่มพอชุ่ม ในตอนเย็นทุก7-10วัน -
ราดทางดินหรือปล่อยไปกับระบบน้ำ
1.น้ำตาลทางด่วน 500กรัม
2.ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 หรือ 16-16-16 จำนวน 2 กิโลกรัม +ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 อัตรา 2 กิโลกรัม
3.ฮิวมิค แอซิด 100 กรัม 4.สารชีวภัณฑ์ป้องกัน กำจัด กำจัดโรคพืช เช่น บาซิลลัส โปร ,บาซิลลัส ซับทิลิส ,เชื้อราไตรโคเดอร์มา ละลายในน้ำ 200 ลิตร ปล่อยไปกับระบบน้ำทุก10วัน
ความแตกต่างระหว่างน้ำตาลทางด่วนกับกากน้ำตาล
- กากน้ำตาล โมเลกุลใหญ่ ไม่สามารถผ่านปากใบพืชได้ จึงไม่สมควรให้ทางใบ แต่ให้ทางรากหรือทางดินได้ เพราะเมื่อลงไปในดินแล้ว จุลินทรีย์ในดินจะทำการย่อยสลายให้อยู่ในรูปที่รากสามารถดูดซับเอาไปได้เอง
- กากน้ำตาลใหม่ มีสารที่เป็นพิษต่อพืชอีก 18 ชนิด สังเกต ถ้าใช้ในอัตราเข้มข้นมากๆ พืชจะเกิดอาการใบไหม้ หรือต้นโทรม
ให้กากน้ำตาลมากๆ ให้ประจำๆ สม่ำเสมอไม่เคยขาด จนต้นได้สะสมเป็นระยะเวลานานๆ ต้นจะเกิดอาการชะงักการเจริญเติบโต ไม่แตกใบใหม่ - กลูโคส โมเลกุลเดี่ยว สามารถผ่านปากใบพืชได้ ปุ๋ยทางใบที่มีส่วนผสมของกลูโคสจะทำให้ปุ๋ยตัวนั้นผ่านปากใบได้เร็ว จึงเรียกปุ๋ยตัวนั้นว่า “ทางด่วน”
กลูโคสเมื่อตกลงดิน รากพืชสามารถดูดซับเอาไปใช้ได้ นั่นคือ พืชรับกลูโคสได้ทั้งทางใบและทางราก - ภาษาชาวสวนพูดว่า “สะสมตาดอก” แต่ภาษวิชาการพูดว่า “สะสมแป้งและน้ำตาล” คิดเอาเองก็แล้วกันว่า ทั้งกลูโคสและน้ำตาลมีประโยชน์ต่อพืชอย่างไร