คุณสมบัติ
ด่างทับทัม เป็นสารเคมีประเภท Inorganic (อนินทรีย์) ชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นผลึกหรือเกล็ดสีม่วง สามารถละลายน้ำได้ดี เมื่อละลายน้ำแล้วจะได้สารละลายสีม่วงหรือสีชมพูอมม่วง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณและความเข้มข้น โดยทางเคมีแล้วเราถือว่าด่างดับทิมเป็นเกลือชนิดหนึ่ง ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่างอ่อน ๆ และมีคุณสมบัติเป็นสารออกซิเดชัน (Oxidation) อย่างแรง ปัจจุบันมีการนำมาใช้ประโยชน์ในครัวเรือหรือในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ประโยชน์
1) ใช้ในการรักษาโรคริดสีดวงทวาร โดยช่วยลดอาการบวมหรืออักเสบของแผลริดสีดวง
2) ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคหรือล้างแผลได้
3) ใช้ในการเลี้ยงปลา โดยใช้ด่างทับทิมเป็นตัวฆ่าเชื้อในอาหารสดที่จะนำไปเลี้ยงปลา
4) ใช้ในการทำความสะอาดตู้ปลา บ่อปลา โดยการแช่ผสมน้ำกับด่างทับทิมไว้เป็นเวลา 1 คืน
5) ใช้ในการฆ่าเชื้อเนื่องจากอาการน้ำเหลืองเสีย ทำให้แผลดังกล่าวหายเร็วขึ้น โดยการนำด่างทับทิมผสมกับน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดาก็ได้ แช่ลงในอ่างหรือกะละมังใบใหญ่ๆ ที่ผู้ป่วยสามารถลงไปนั่งแช่ได้ จากนั้นค่อยๆใช้น้ำดังกล่าวราดไปบนส่วนที่เกิดแผล ใช้เวลาในการแช่ประมาณ 30 นาที และควรทำในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น จนถึง 2 ทุ่ม
6) ใช้ในการล้างผักและผลไม้ โดยสามารถชำระล้างสารเคมีที่ตกค้าง ฆ่าเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย เชื้อราต่างๆ โดยการใช้ด่างทับทิมนำมาผสมกับน้ำ มีอัตราส่วนด่างทับทิมประมาณ 5 เกล็ด ต่อปริมาณน้ำ 5 ลิตร แล้วแช่ผักและผลไม้ หลังจากแช่ผักและผลไม้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องทำการล้างผักและผลไม้ดังกล่าวด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เพื่อเป็นการล้างสารของด่างทับทิมออกไปให้หมด เพื่อจะได้ไม่เป็นอันตรายต่อการบริโภค เพราะหากมีด่างทับทิมหลงเหลืออยู่จะสร้างความระคายเคืองต่อผิวหนังได้
7) ใช้ด่างทับทิมแบบผง 2 กรัม ต่อน้ำ 1 ตัน ร่วมกับเกลือ 3-5 กก. ต่อน้ำ 1 ตัน สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียต่างๆในน้ำได้ ระบบกรองล่มได้
โดยที่ปลาไม่เป็นอันตราย ควรใส่ด่างทับทิมในบ่ออีกครั้ง เมื่อผ่านไป 2-4 วัน โดยที่ขั้นตอนทั้งหมดต้องงดอาหารปลา
ต้องงดอาหารปลาทุกขั้นตอน จนกว่าอาการปลาจะดีขั้น เพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้ดีที่สุด
” ไม่ควรใช้ด่างทับทิมในน้ำมากกว่า 2 กรัม ต่อน้ำ 1 ตัน เพราะจะทำให้เหงือกปลาพัง หรือเน่าได้ ”
ข้อควรระวัง
ในการใช้เช่นกัน เนื่องจากเป็นสารเคมีที่สามารถตกค้างและส่งผลร้ายต่อร่างกายได้ ดังนั้นจึงต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เช่น ในการล้างผักผลไม้ ควรใช้ด่างทับทิมเพียง 4-5 เกล็ด ผสมกับน้ำ 4-5 ลิตร แล้วแช่ผักราว 30 นาที จากนั้นต้องล้างผักเหล่านั้นด้วยน้ำสะอาดหลายๆรอบ และต้องทิ้งไว้อีกอย่างน้อย 30 นาที ถึงค่อยนำไปรับประทาน นอกจากนี้ก็ไม่ควรให้ด่างทับทิมเข้าตาเพราะอาจทำให้ตาบอดได้