คุณสมบัติ
ตัวนี้จะถูกทำให้บริสุทธิ์แล้ว ไม่ละลายน้ำ และไม่ละลายในแอลกอฮอล์เย็น ใช้ในเครื่องสำอางค์ ทำเนื้อลิปสติก
หรือการเคลือบลูกกวาด ขนมหวาน และเป็นสารให้กลิ่นรสในหมากฝรั่ง ในอาหาหาร
คุณสมบัติ
1. ไขผึ้งบริสุทธิ์จะไม่มีสีหรือเห็นเป็นสีใสๆ โปร่งแสง ไขผึ้งละลายได้ดีในน้ำมัน โดยเฉพาะน้ำมันสน
แต่ไม่ละลายในน้ำ ถ้านำไขผึ้งที่แข็งไปต้มในน้ำ ไขผึ้งจะหลอมละลายลอยตัวอยู่ที่ผิวน้ำ
2. ไขผึ้งมีจุดหลอมเหลวเฉลี่ยที่ 63-65 องศาเซลเซียส ถ้าได้รับความร้อนสูงกว่าจุดหลอมเหลว
จะเกิดเปลวไฟหรือติดไฟ ลุกไหม้เหมือนก๊าซจะเป็นอันตราย ดังนั้นการหลอมไขผึ้ง
ควรใช้ความร้อนจากไอน้ำหรือนึ่งในน้ำร้อน
3. ไขผึ้งถ้าเก็บไว้ในที่อุณหภูมิต่ำ ไขผึ้งจะหดตัวและทำให้เปราะแตกง่าย
เช่น เก็บไขผึ้งไว้ที่ 10 องศาเซลเซียส ปริมาตร ของไขผึ้งจะลดลงประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์
การนำไปใช้ประโยชน์
ไขผึ้งที่บริสุทธิ์จากธรรมชาติจะทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากไขผึ้งนั้นมีคุณภาพกายภาพและทางเคมี
สูงกว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้ จากไขเทียม ไขผึ้งนอกจากนำไปทำเทียนไขแล้ว ยังใช้ทำเครื่องสำอาง
กระบวนการทำ ผ้าบาติก งานโลหะ ใช้เป็นสารกันน้ำ สารขัดเงา สารหล่อลื่น
ซึ่งสามารถแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ ได้ดังนี้
1. ใช้ทำเครื่องสำอาง ประมาณร้อยละ 35-40
2. ใช้ในงานเภสัชกรรม ประมาณร้อยละ 25-30
3. ใช้ทำเทียนไข ประมาณร้อยละ 20
4. ใช้ทำอื่น ๆ ประมาณร้อยละ 10-20
ประเทศที่ใช้ไขผึ้งมากที่สุดในโลก คือ อเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และเยอรมัน ตามลำดับ
และที่สำคัญคือ ไขผึ้งแท้ถูกนำ กลับมาใช้ทำแผ่นรังเทียม เพื่อประหยัดเวลาในการสร้างรวงรังให้แก่ผึ้ง ทำให้เก็บน้ำผึ้งได้มากขึ้น
วิธีการเก็บไขผึ้ง
1. ไขผึ้งที่หลอมแล้วต้องห่อหุ้มด้วยพลาสติก ระบุขนาด น้ำหนัก และวัน เดือน ปี ที่ผลิต
2. สถานที่เก็บไขผึ้ง เก็บที่อุณหภูมิห้อง โดยห้องนั้นต้องสะอาด แห้ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก
และไขผึ้งต้องไม่สัมผัสกับ แสงอาทิตย์โดยตรง