ประโยชน์ของเกลือเสริมไอโอดีนในชีวิตประจำวัน

ประโยชน์ของเกลือเสริมไอโอดีนในชีวิตประจำวัน  มีไอโอดีนเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์ เนื่องจากมันมีบทบาทสำคัญในการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการเผาผลาญพลังงานและการเจริญเติบโตของร่างกาย หากขาดไอโอดีนจะทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพได้มากมาย เช่น โรคคอพอก ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ หรือแม้กระทั่งภาวะสมองพัฒนาไม่เต็มที่ในเด็ก หนึ่งในวิธีที่ใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาขาดไอโอดีนในประชากรคือการใช้ “เกลือเสริมไอโอดีน” หรือที่เรียกกันว่า เกลือเสริมไอโอดีน ซึ่งเป็นเกลือที่มีการเติมไอโอดีนลงไปเพื่อให้ได้ปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

 

ประโยชน์ของเกลือเสริมไอโอดีนในชีวิตประจำวัน

 

ทำไมต้องเสริมไอโอดีนในเกลือ

การขาดไอโอดีนเป็นปัญหาที่พบได้ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการขาดแคลนแร่ธาตุนี้ในอาหาร เช่น พื้นที่ห่างไกลทะเล หรือพื้นที่ที่ไม่สามารถได้อาหารที่มีไอโอดีนจากทะเล ซึ่งสามารถทำให้เกิดภาวะขาดไอโอดีนในประชากรอย่างกว้างขวาง การเสริมไอโอดีนในเกลือจึงเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการป้องกันปัญหานี้รัฐบาลและองค์กรสุขภาพทั่วโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเสริมไอโอดีนในเกลือ โดยมีการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อให้ประชากรในพื้นที่ที่เสี่ยงได้รับปริมาณไอโอดีนที่เพียงพอ เช่น การกำหนดมาตรฐานให้เกลือที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ หรือในครัวเรือนต้องเสริมไอโอดีน

 

ประโยชน์ของการใช้เกลือเสริมไอโอดีน

  1. ป้องกันโรคคอพอก: คอพอกเกิดจากการขาดไอโอดีน ซึ่งทำให้ต่อมไทรอยด์มีขนาดใหญ่ขึ้น การเสริมไอโอดีนในเกลือสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้
  2. พัฒนาการสมองของเด็ก: การขาดไอโอดีนในหญิงตั้งครรภ์อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการสมองของทารกในครรภ์ ทำให้เด็กเกิดภาวะสติปัญญาบกพร่อง หรือมีการพัฒนาการที่ล่าช้า การเสริมไอโอดีนในอาหารสามารถช่วยลดความเสี่ยงนี้
  3. ควบคุมการทำงานของฮอร์โมนไทรอยด์: ไอโอดีนมีบทบาทสำคัญในการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุมการเผาผลาญพลังงาน การเจริญเติบโต และการทำงานของอวัยวะต่างๆ
  4. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ (Hypothyroidism): การเสริมไอโอดีนสามารถช่วยลดความเสี่ยงของภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ที่อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาของร่างกาย

 

ประโยชน์ของเกลือเสริมไอโอดีนในชีวิตประจำวัน

วิธีการเลือกซื้อเกลือเสริมไอโอดีน

เมื่อเลือกซื้อเกลือเสริมไอโอดีน ควรเลือกเกลือที่มีการระบุชัดเจนว่า เกลือเสริมไอโอดีน และควรตรวจสอบปริมาณไอโอดีนที่มีอยู่ในเกลือ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีปริมาณไอโอดีนอยู่ที่ประมาณ 30–40 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักเกลือ 1 กิโลกรัม เพื่อให้ได้ปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน

ในขณะเดียวกันควรหลีกเลี่ยงการใช้เกลือที่ไม่ได้มีการเสริมไอโอดีน เพราะอาจเสี่ยงต่อการขาดไอโอดีนและเกิดปัญหาสุขภาพได้

เกลือเสริมไอโอดีนเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดไอโอดีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว การเสริมไอโอดีนในเกลือช่วยให้ประชาชนได้ไอโอดีนที่เพียงพอในการสนับสนุนการทำงานของระบบไทรอยด์และพัฒนาการสมอง การเลือกใช้เกลือเสริมไอโอดีนในชีวิตประจำวันจึงเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับทุกคนในสังคม

เกลือไอโอดีน มีกี่แบบ มีอะไรบ้าง

เกลือไอโอดีนมีหลายประเภท โดยมีการแบ่งตามวิธีการผลิตและการใช้ที่แตกต่างกัน โดยหลักๆ แล้วจะมี 3 แบบหลักๆ ที่พบได้ในตลาด ได้แก่

  1. เกลือไอโอดีนแบบเกลือบริโภคทั่วไป

เกลือประเภทนี้เป็น เกลือที่ใช้ในครัวเรือน หรือการปรุงอาหารทั่วไป ซึ่งถูกเสริมด้วยไอโอดีนเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับไอโอดีนในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน

  • ลักษณะ: เกลือชนิดนี้สามารถพบได้ในรูปแบบเกลือหยาบ (เกลือเม็ด) หรือเกลือป่น (เกลือที่บดละเอียด) และมีสีขาว
  • การใช้: ใช้ในการปรุงอาหารทั่วไป เช่น การปรุงรส, การทำอาหาร, หรือใส่ในน้ำดื่ม
  • ปริมาณไอโอดีน: มักจะมีการเสริมไอโอดีนในปริมาณที่กำหนดไว้ตามมาตรฐาน เช่น 30–40 มิลลิกรัมไอโอดีนต่อเกลือ 1 กิโลกรัม
  1. เกลือไอโอดีนแบบเกลือสำหรับการถนอมอาหาร

เกลือชนิดนี้มีการเสริมไอโอดีนเพื่อใช้ในการ ถนอมอาหาร โดยเฉพาะการใช้ในกระบวนการแปรรูปอาหาร เช่น การหมัก การทำอาหารดอง หรือการผลิตอาหารแปรรูปต่างๆ

  • ลักษณะ: เกลือประเภทนี้มีความบริสุทธิ์สูงและมักจะมีเกลือหยาบ
  • การใช้: ใช้ในการทำอาหารที่ต้องการการเก็บรักษาหรือถนอมอาหารเป็นเวลานาน เช่น การทำปลาร้า, การหมักหมูหรือเนื้อ, การทำอาหารดอง
  • ปริมาณไอโอดีน: มีการเสริมไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการขาดไอโอดีนในประชากรในระยะยาว
  1. เกลือไอโอดีนสำหรับสัตว์

เกลือประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ใน การเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ที่ต้องการการเสริมไอโอดีน เช่น การเลี้ยงสัตว์เคี้ยวเอื้อง (เช่น โค, แพะ) หรือสัตว์อื่นๆ ที่อาจขาดแคลนไอโอดีน

  • ลักษณะ: เกลือจะมีลักษณะเป็นเกลือหยาบหรือเกลือก้อน
  • การใช้: ใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับสัตว์ เพื่อช่วยป้องกันการขาดไอโอดีน ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคต่างๆ ในสัตว์ เช่น โรคคอพอก
  • ปริมาณไอโอดีน: ปริมาณไอโอดีนในเกลือสำหรับสัตว์จะถูกกำหนดให้เหมาะสมกับความต้องการของสัตว์แต่ละชนิด

เกลือไอโอดีนที่ใช้ในชีวิตประจำวันสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ เกลือบริโภคทั่วไป (สำหรับใช้ในครัวเรือน), เกลือสำหรับการถนอมอาหาร (สำหรับการแปรรูปอาหาร) และ เกลือสำหรับสัตว์ (สำหรับการเสริมไอโอดีนในอาหารสัตว์)

 

การนำ เกลือเสริมไอโอดีนไปใช้งาน ได้อย่างไรบ้าง

การนำ เกลือเสริมไอโอดีน ไปใช้งานในชีวิตประจำวันสามารถทำได้หลากหลายวิธี โดยเน้นการใช้เป็นส่วนหนึ่งของอาหารและการปรุงรส เพื่อให้ร่างกายได้รับไอโอดีนในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งมีการใช้งานหลักๆ ดังนี้:

  1. ใช้ในการปรุงอาหารทั่วไป

เกลือเสริมไอโอดีนมักจะถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในการปรุงอาหารในครัวเรือน เช่น การใช้เป็นเกลือสำหรับ:

  • ปรุงรสอาหาร: ใช้ใส่ในอาหารต่างๆ เช่น ข้าว, ซุป, แกง, หรืออาหารจานหลัก เช่น ข้าวผัด, แกงส้ม หรือผัดผัก เพื่อเพิ่มรสชาติและให้ไอโอดีนในแต่ละมื้อ
  • การทำขนม: บางครั้งเกลือเสริมไอโอดีนอาจจะถูกใช้ในขั้นตอนการทำขนม เช่น ขนมปัง หรือเค้ก เพียงเล็กน้อย เพื่อปรับรสชาติและทำให้ได้ไอโอดีนที่ต้องการ
  • ใช้ในน้ำดื่ม: บางคนอาจจะใช้เกลือเสริมไอโอดีนผสมในน้ำดื่มในบางกรณี (โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการขาดแคลนไอโอดีน) เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายจะได้รับไอโอดีนที่เพียงพอ
  1. ใช้ในการถนอมอาหาร

เกลือเสริมไอโอดีนสามารถนำไปใช้ในกระบวนการถนอมอาหาร เช่น:

  • การดองผักหรือผลไม้: ใช้เกลือเสริมไอโอดีนในการดองผักหรือผลไม้ เช่น การทำแตงกวาดอง หรือมะม่วงดอง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้รับไอโอดีนในขณะที่บริโภคอาหารดอง
  • การทำอาหารแปรรูป: ใช้ในการแปรรูปอาหาร เช่น การทำปลาร้า หรือการหมักอาหาร เนื่องจากเกลือช่วยในการถนอมอาหารและเสริมคุณค่าทางโภชนาการ
  • การเก็บรักษาหรือการทำอาหารกระป๋อง: เกลือเสริมไอโอดีนสามารถใช้ในการแปรรูปอาหารเพื่อเก็บรักษาได้นานขึ้น เช่น การทำปลากระป๋องหรือการดองเนื้อสัตว์
  1. ใช้ในอาหารสัตว์

ในการเลี้ยงสัตว์บางประเภท (เช่น โค, แพะ, หรือสัตว์ที่มีความเสี่ยงต่อการขาดไอโอดีน) เกลือเสริมไอโอดีนสามารถใช้เป็นอาหารเสริมให้สัตว์ เพื่อป้องกันภาวะขาดไอโอดีน:

  • ให้กับสัตว์เลี้ยง: สามารถใช้เกลือเสริมไอโอดีนเป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์เพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากการขาดไอโอดีน เช่น โรคคอพอก หรือภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ในสัตว์
  • ผสมในอาหารสัตว์: เกลือเสริมไอโอดีนมักจะผสมในอาหารสัตว์ที่เลี้ยงในฟาร์ม เพื่อให้ได้ปริมาณไอโอดีนที่จำเป็นในการเจริญเติบโตของสัตว์
  1. การใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร

เกลือเสริมไอโอดีนยังมีการนำไปใช้ในกระบวนการผลิตอาหารในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าอาหารที่ผลิตออกมามีปริมาณไอโอดีนที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค:

  • การผลิตขนมและเบเกอรี: ในการผลิตขนมบางประเภท เช่น ขนมปัง เบเกอรี่ หรืออาหารแปรรูป เช่น ผลิตภัณฑ์ที่เป็นขนมหวาน
  • ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์: เช่น การผลิตไส้กรอกหรืออาหารกระป๋องต่างๆ
  1. ข้อควรระวังในการใช้เกลือเสริมไอโอดีน

  • ปริมาณที่เหมาะสม: ควรใช้เกลือเสริมไอโอดีนในปริมาณที่พอเหมาะตามความต้องการของร่างกาย เพราะการรับไอโอดีนมากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดปัญหาภาวะไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (Hyperthyroidism)
  • หลีกเลี่ยงการใช้เกลือในปริมาณมากเกินไป: แม้ว่าเกลือเสริมไอโอดีนจะช่วยให้ร่างกายได้รับไอโอดีนที่เพียงพอ แต่การบริโภคเกลือในปริมาณมากเกินไปก็สามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตสูง ดังนั้นควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม

การใช้ เกลือเสริมไอโอดีน ในการดำเนินชีวิตประจำวันนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการใช้ในการปรุงอาหาร, การถนอมอาหาร, การผลิตอาหารแปรรูป และการเลี้ยงสัตว์ โดยการใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายได้รับไอโอดีนในปริมาณที่เพียงพอ

ใครบ้างที่ต้องการ เกลือเสริมไอโอดีน

เกลือเสริมไอโอดีน เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันและรักษาภาวะขาดไอโอดีนในประชากรที่อาจได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอจากอาหารในชีวิตประจำวัน กลุ่มคนที่ต้องการ เกลือเสริมไอโอดีน ได้แก่:

  1. หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร

  • หญิงตั้งครรภ์: การขาดไอโอดีนในช่วงตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดปัญหาต่อการพัฒนาของสมองทารกในครรภ์ รวมทั้งทำให้ทารกเกิดภาวะสติปัญญาบกพร่องหรือมีปัญหาพัฒนาการอื่นๆ
  • หญิงให้นมบุตร: ไอโอดีนยังสำคัญสำหรับการผลิตน้ำนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอต่อทารก ดังนั้นการรับไอโอดีนให้เพียงพอในช่วงให้นมบุตรจึงเป็นสิ่งจำเป็น
  1. เด็กและวัยรุ่น

  • เด็กเล็ก: การขาดไอโอดีนในเด็กเล็กอาจทำให้เกิดการพัฒนาของสมองช้า การขาดไอโอดีนอาจส่งผลให้เด็กมีสติปัญญาต่ำหรือมีภาวะพัฒนาการล่าช้า
  • วัยรุ่น: ช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงที่ร่างกายเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็ว การขาดไอโอดีนอาจมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและการทำงานของระบบไทรอยด์
  1. ผู้ที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลทะเลหรือไม่มีแหล่งอาหารที่มีไอโอดีน

  • พื้นที่ห่างไกลทะเล: ไอโอดีนส่วนใหญ่พบในอาหารทะเลและสินค้าจากทะเล ดังนั้นคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงอาหารทะเลหรือแหล่งไอโอดีนอื่นๆ จะเสี่ยงต่อการขาดไอโอดีน
  • พื้นที่ที่มีดินขาดไอโอดีน: บางพื้นที่ที่ดินมีไอโอดีนน้อยหรือไม่มีเลย เช่น พื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยหรือพื้นที่ในภาคกลางที่ดินไม่สามารถผลิตอาหารที่มีไอโอดีนได้ จึงอาจเสี่ยงต่อการขาดไอโอดีน
  1. ผู้ที่มีปัญหาด้านการดูดซึมสารอาหาร

  • ผู้ป่วยโรคทางเดินอาหาร: ผู้ที่มีโรคที่ส่งผลกระทบต่อการดูดซึมสารอาหาร เช่น โรคลำไส้อักเสบ, โรคโครห์น (Crohn’s disease), หรือโรคเซลิแอค (Celiac disease) อาจทำให้ร่างกายดูดซึมไอโอดีนได้ไม่ดี
  • ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดทางเดินอาหาร: คนที่ผ่านการผ่าตัดบางประเภท เช่น การผ่าตัดกระเพาะอาหารหรือลำไส้ อาจทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมไอโอดีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  1. ผู้ที่รับประทานอาหารที่ขาดแร่ธาตุ

  • ผู้ที่รับประทานอาหารจำกัด: คนที่รับประทานอาหารในรูปแบบที่จำกัดหรือเป็นพวกมังสวิรัติอย่างเคร่งครัดอาจขาดแร่ธาตุบางชนิด รวมถึงไอโอดีน ซึ่งมักพบในอาหารทะเลหรือผลิตภัณฑ์จากนม
  • ผู้ที่มีการรับประทานอาหารไม่สมดุล: คนที่ทานอาหารที่ขาดสารอาหารบางชนิด เช่น การทานอาหารแปรรูปหรืออาหารที่มีไอโอดีนต่ำ ก็อาจเสี่ยงต่อการขาดไอโอดีนได้
  1. ผู้สูงอายุ

  • ผู้สูงอายุ: เมื่ออายุมากขึ้นการดูดซึมสารอาหารในร่างกายอาจลดลง รวมทั้งการดูดซึมไอโอดีน และในบางกรณีผู้สูงอายุอาจมีปัญหาสุขภาพที่ทำให้ร่างกายไม่ได้รับไอโอดีนอย่างเพียงพอ
  1. ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับไทรอยด์

  • ผู้ที่มีภาวะพร่องไทรอยด์ (Hypothyroidism): ผู้ที่มีโรคพร่องไทรอยด์อาจมีปัญหาในการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ซึ่งต้องการไอโอดีนในการทำงาน หากไม่ได้รับไอโอดีนเพียงพออาจทำให้ภาวะนี้แย่ลง
  • ผู้ที่มีคอพอก: คอพอกเกิดจากการขาดไอโอดีนที่ทำให้ต่อมไทรอยด์มีขนาดใหญ่ขึ้น หากไม่ได้รับไอโอดีนเพียงพอภาวะนี้อาจไม่ดีขึ้น
  1. คนที่อาศัยในประเทศหรือพื้นที่ที่ขาดการเสริมไอโอดีน

  • ในบางประเทศหรือพื้นที่ที่ยังไม่สามารถจัดหาหรือเสริมไอโอดีนให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึง เช่น ในบางพื้นที่ในแอฟริกา, เอเชียใต้, หรือภูมิภาคที่มีการเกษตรที่ไม่ได้ใช้ปุ๋ยเสริมไอโอดีน การเสริมไอโอดีนในเกลือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคที่เกิดจากการขาดไอโอดีน

 

สรุป

เกลือเสริมไอโอดีนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายได้รับไอโอดีนที่เพียงพอ ซึ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของต่อมไทรอยด์และการพัฒนาสมอง กลุ่มคนที่ควรได้รับการเสริมไอโอดีนผ่านเกลือหรือแหล่งอาหารอื่นๆ ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์, เด็ก, ผู้สูงอายุ, ผู้ที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลทะเล และ ผู้ที่มีปัญหาด้านการดูดซึมสารอาหาร หรือ โรคเกี่ยวกับไทรอยด์ การเสริมไอโอดีนจึงเป็นวิธีสำคัญในการป้องกันโรคจากการขาดแร่ธาตุนี้และส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับทุกคนในสังคม

สารฟอกขาว, เคมีภัณฑ์,สารเคมีภัณฑ์,เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม,เคมีภัณฑ์เชียงใหม่,ร้านเคมีใกล้ฉัน

หากใครสนใจสั่งซื้อ สารสร้างเนื้อเจล ติดต่อเวิลด์เคมีคอล กรุ๊ป ผู้นําด้านการจําหน่ายและนำเข้า สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ และ ขนาดย่อม ที่ใหญ่ที่สุดในเขตภาคเหนือ พร้อมให้บริการและให้คำปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน ด้าน สารเคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม เคมีเครื่องสำอาง อาทิ กลีเซอรีน โซดาไฟเกล็ด โซเดียมเมต้าไบซัลไฟต์ เอทิลแอลกอฮอล์ ฯลฯ เวิลด์เคมิคอล กรุ๊ป ยินดีและพร้อมส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพให้กับลูกค้าทุกท่าน

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่