รวมสูตรผลิต “น้ำยาปรับผ้านุ่ม” ทำง่ายไม่ยุ่งยาก

น้ำยาที่ทุกบ้านต้องมีใช้ ที่จะทำให้เสื้อผ้าหอม ก็คือ “น้ำยาปรับผ้านุ่ม” นอกจากผ้าจะหอมแล้วยังทำให้ผ้านุ่ม ให้ความรู้สึกสบายทุกครั้งที่สวมใส่ การซักผ้าให้มีกลิ่นหอมเป็นเรื่องสำคัญอย่างนึงของคุณแม่บ้านทั้งหลาย ยิ่งซักผ้าได้หอมเท่าไหน่ยิ่งบ่งบอกถึงความพิถีพิถันในการซักมากเท่านั้น เราจึงได้รวบรวมเอาสูตรวิธีทำน้ำยาปรับผ้านุ่ม และข้อควรทราบเบื้องต้นมาให้ท่านดังนี้

1.ชุดทำน้ำยาปรับผ้านุ่ม (สูตรเข้มข้น)

ส่วนผสม

1.หัวน้ำยาปรับผ้านุ่ม (Armosoft-L)  1 Kg.

2.ตัวกระจ่ายกลิ่น 20 กรัม

3.น้ำหอม 1-3% ตามความต้องการความหอม

4.สีผสม ตามต้องการ

5.น้ำสะอาด 25-30 ลิตร (กรณีต้องการความหนืดให้ลดปริมาณน้ำลง)

วิธีทำ  เตรียมน้ำสะอาด 25-30 ลิตร จากนั้นค่อยๆ เทหัวน้ำยาปรับผ้านุ่ม พร้อมกับกวนให้เข้ากับน้ำ จนหัวน้ำยาปรับผ้านุ่มเข้ากับน้ำได้ดี กวนเรื่อยๆ จนขึ้นเป็นเนื้อน้ำยาปรับผ้นนุ่มที่ต้องการ

จากนั่นเตรียมตัวกระจายกลิ่น และน้ำหอม มาผสมกัน จากนั้นเทผสมลงกับหัวน้ำยาปรับกวนจนเข้ากัน จากนั้นเติมสีตามความชอบ พร้อมบรรจุลงขวดได้เลยค่ะ

***หมายเหตุ  หากต้องการเนื้อที่ละเอียดขึ้นให้กรองด้วยตาข่ายเพิ่มเติมได้ หรือสามารถใส่กันเสียเพิ่มเติมได้ค่ะ

 

2. สูตรน้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำส้มสายชูกับน้ำมันหอมระเหย

ส่วนประกอบ ชุดทำน้ำยาปรับผ้านุ่ม

1.น้ำส้มสายชูกลั่น 1 แกลลอน

2.น้ำมันหอมระเหย 25-30 หยด

          วิธีทำน้ำยาปรับผ้านุ่ม :
          ค่อนข้างเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับบ้านทั่ว ๆ ไป เพราะน้ำส้มสายชูก็มีอยู่ในครัวเรือนอยู่แล้ว ส่วนน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่เราชอบก็หาซื้อได้ไม่ยาก หรือร้านขายเครื่องหอมสปา มีหลากหลายกลิ่นให้ตรงใจคนในบ้าน โดยหยดน้ำมันหอมระเหย 25-30 หยด ลงในน้ำส้มสายชูกลั่น 1 แกลลอน หรือประมาณ 3.8 ลิตร แล้วผสมให้เข้ากันดี น้ำส้มสายชูกลั่นสามารถเปลี่ยนผ้าที่แห้งแข็งจากสิ่งสกปรกตกค้างให้นุ่มใส่สบาย

วิธีใช้ :
ให้เทน้ำยาปรับผ้านุ่ม ¼ แก้ว (60 มิลลิลิตร) ลงไปในเครื่องซักผ้าโดยตรง ในขณะที่กำลังจะซักน้ำสุดท้าย และไม่ควรใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มก่อนเครื่องจะทำงาน เพราะมันจะถูกชะล้างออกไปหมดก่อนออกฤทธิ์นั่นเองจ้า

 

3. สูตรน้ำยาปรับผ้านุ่ม เบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชู

          ส่วนประกอบ ชุดทำน้ำยาปรับผ้านุ่ม

          1.น้ำ 2 ถ้วย (500 มิลลิลิตร)

2.เบกกิ้งโซดา 1 ถ้วย

          วิธีทำน้ำยาปรับผ้านุ่ม

ยิ่งสะดวกต่อคุณแม่บ้านเข้าไปใหญ่ เพราะมีแค่เบกกิ้งโซดา ก็ทำน้ำยาปรับผ้านุ่มได้นะ โดยต้มน้ำ 2 ถ้วย (500 มิลลิลิตร) ให้ร้อน แล้วจัดการผสมกับเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วย คนให้เข้ากันดี แต่ไม่ต้องให้ถึงกับละลายหมด เพราะเท็กซ์เจอร์ของเบกกิ้งโซดาจะช่วยขัดคราบสกปรกตกค้างให้ออกจากผ้าเราอย่างสิ้นเชิง และปรับค่าความเป็นกรดและด่างให้สมดุลกันด้วย

*** เคล็ดลับ : เพื่อเห็นผลที่ดีขึ้น เติมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย (250 มิลลิลิตร) อย่างช้าๆลงไปในส่วนผสมแรก แล้วคนเบาๆ ให้เบกกิ้งโซดาละลาย จนเกิดฟองเมื่อนำไปใช้ มันจะทำหน้าที่ของน้ำยาปรับผ้านุ่มได้เป็นอย่างดี

 

4. สูตรน้ำยาปรับผ้านุ่ม ครีมนวดผม

          ส่วนประกอบ ชุดทำน้ำยาปรับผ้านุ่ม

1.น้ำส้มสายชูกลั่น 3 ถ้วย (750 มิลลิลิตร)

2.ครีมนวดผม 2 ถ้วย (500 มิลลิลิตร)

3.น้ำร้อน 6 ถ้วย (750 มิลลิลิตร)

          วิธีทำน้ำยาปรับผ้านุ่ม

ใครจะไปคิดว่าครีมนวดผมจะสามารถนำมาทำน้ำยาปรับผ้านุ่มได้ ทั้งคุณสมบัติที่ปรับผ้าให้นุ่ม และยังมีกลิ่นหอมชวนหลงใหล ไม่ต่างอะไรกับน้ำยาปรับผ้านุ่มตามท้องตลาดทั่วไปเลย เพียงแค่คุณแม่บ้านแบ่งส่วนผสมของน้ำส้มสายชูกลั่น 3 ถ้วย (750 มิลลิลิตร) ครีมนวดผม 2 ถ้วย (500 มิลลิลิตร) และน้ำร้อน 6 ถ้วย (750 มิลลิลิตร) ผสมให้ทุกอย่างเข้ากันดี แล้วนำไปใช้ให้ปรับผ้าให้นุ่มหอมดั่งใจ

 

 

 

ราคานี้เฉพาะสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์เท่านั้น

 

 

 

 

สารเคมีที่ควรทราบ

  • Hydroxyethyl cellulose (HEC) – ไฮดรอกซี่ เอทิล เซลลูโลส  เป็นสารเพิ่มความเข้มข้นของของเหลว เพิ่มความยืดหยุ่นให้ของเหลว หรือเรียกง่ายๆว่าทำให้น้ำยาปรับผ้านุ่มข้นเหนียวขึ้น
  • Fabric Softener – เป็นสารช่วยให้ผ้านุ่ม เวลาสวมใส่จะรู้สึกสัมผัสนุ่มลื่น
  • หัวเชื้อน้ำหอมกลิ่นต่างๆ สามารถเลือกซื้อกลิ่นที่ถูกใจได้ตามต้องการมีขายตามร้านเคมีภัณฑ์ทั่วไป
  • SCGP สารลดกลิ่นอับชื้นในผ้า ช่วยให้ผ้าไม่เหม็นอับ
  • สารกันเสีย (Biocide cp) เป็นสารกันเสีย ที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไป เช่น น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาถูพื้น เป็นต้น

นอกจากนี้ท่านสามารถซื้อ ชุดทำน้ำยาปรับผ้านุ่ม แบบสำเร็จรูปมาผสมเองได้เช่นกัน มีขายตามร้านขายเคมีภัณฑ์ทั่วไปซึ่งวิธีนี้สะดวกสบาย มีน้ำยาพร้อมวิธีทำน้ำยาปรับผ้านุ่มมาให้ครบ และที่สำคัญราคาไม่แพง สามารถซื้อมาไว้ทำใช้เองที่บ้าน

 

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่