วิธีใช้ โซดาไฟเกล็ด แก้ปัญหาท่อตัน ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย
หลายๆ คนคงคุ้นเคยกับการนำ โซดาไฟเกล็ด หรือสารโซเดียมไฮดรอกไซด์มาใช้กับปัญหาท่อตัน แต่เนื่องจากโซดาไฟเมื่อนำมาใช้งานนั้นควรมีต้องมีข้อระมัดระวัง และใช้อย่างถูกวิธีเพื่อลดความเสี่ยงของอันตรายต่อผู้ใช้ รวมทั้งในบางครั้งถ้าใช้ผิดวิธีจะกระทบต่อระบบท่อและนี่คือวิธีใช้โซดาไฟเพื่อแก้ปัญหาท่อตันอย่างถูกวิธี ปลอดภัยทั้งผู้ใช้งาน
คุณสมบัติของ โซดาไฟเกล็ด
เป็นสารประกอบชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ในการกัดกร่อน เนื่องจากเป็นเบสแก่ ดูดความชื้นได้ดีมาก เมื่อเอาออกจากภาชนะบรรจุ ตั้งทิ้งไว้ จะกลายเป็นของเหลว เพราะถูกเจือจางด้วยความชื้น เวลาที่ท่อระบายน้ำทิ้งต่าง ๆ อุดตัน ส่วนใหญ่จะนึกถึง โซดาไฟ หรือ คอสติกโซดา (Caustic soda) หรือ โซเดียมไฮดรอกไซด์ (sodium hydroxide) บางครั้งรู้จักกันในชื่อ สารเคมีผงมัน หรือ โซดาแผดเผา สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป หรือร้านขายอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน คุณลักษณะสารเคมีเป็นของแข็งสีขาว ไม่มีกลิ่น มีฤทธิ์เป็นด่าง ยิ่งเข้มข้นมากยิ่งมีฤทธิ์มาก ร้อน และสามารถกัดผิวหนังให้เปื่อยยุ่ยได้ในระยะเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที ผู้คนส่วนมากอาจจะไม่รู้ถึงคุณลักษณะของสารเคมี และการทำปฏิกิริยาทางเคมีดีพอ เมื่อนำไปใช้งานจริงทำให้เกิดปัญหาติดตามมาอย่างคาดไม่ถึง เช่น เวลาที่ท่ออุดตัน ก็จะไปซื้อโซดาไฟ มาเทใส่ลงไปในท่อที่อุดตัน (วิธีใช้งาน ควรใส่โซดาไฟในภาชนะก่อน ค่อย ๆ เติมน้ำแล้วคนให้ละลายให้หมดก่อนที่จะนำไปเทใส่ท่อระบายน้ำ เพื่อกันไม่ให้โซดาไฟไปเกาะผนังท่อเพิ่มการอุดตันอีก) การแก้ไขปัญหาลักษณะนี้ สามารถใช้ได้กับการอุดตันบางประเภทเท่านั้นเอง เช่น การอุดตันที่เกิดจากคราบไขมัน คราบสบู่ คราบผงซักฟอก
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ถ้าหายใจเข้าไปให้รีบย้ายผู้ป่วยออกมา ให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์แล้วรีบนำส่งแพทย์ หากเข้าตารีบล้างตาด้วยน้ำอุ่นทันที โดยค่อย ๆ ให้น้ำไหลผ่านตา 30 นาที เปิดเปลือกตาไว้ พยายามอย่าให้น้ำล้างตาไหลข้างที่มีสารเคมีไหลเข้าตาข้างที่ไม่เป็นอะไรโดยเด็ดขาด เมื่อถูกผิวหนังให้รีบล้างออก โดยให้น้ำไหลผ่านบริเวณที่ถูกสารอย่างน้อย 30 นาที พร้อมกับถอดชุด – อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เปื้อนสารออกแล้วรีบนำส่งแพทย์ให้เร็วที่สุด
โซดาไฟกับปฏิกิริยาต่อเนื่อง
แม้ว่าโซดาไฟเป็นสารไม่ติดไฟ แต่ถ้าสัมผัสกับสารบางชนิด เช่น กรดเข้มข้น หรือทำปฏิกิริยาอย่างรุนแรงกับน้ำ จะทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีกันจนเกิดความร้อนพอเพียง และทำให้สารที่วางอยู่ใกล้สามารถติดไฟได้ การดับเพลิงจึงต้องดูสารที่เป็นคู่ปฏิกิริยาทางเคมี และรวมถึงการเลือกใช้เครื่องดับเพลิงให้ถูกต้องกับเหตุการณ์ด้วย
คุณสมบัติ
- มีความสามารถในการดูดความชื้นได้ดีมาก ละลายน้ำได้ดี
- มีคุณสมบัติเป็นด่างและมีฤทธิ์กัดกร่อน
- ใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น ผลิตเยื่อกระดาษ สบู่ และผลิตภัณฑ์ซักฟอก เคมีภัณฑ์ทำความสะอาดโรงกลั่นน้ำมัน อุตสาหกรรมโลหะ อาหาร เส้นใยเรยอน สิ่งทอ ใช้ในการฟอกย้อม ล้างสีไหม ใช้แก้ปัญหาท่อตันหรือชำระล้างคราบๆต่างที่ติดแน่น นอกจากนี้ยังใช้ในวงการอุตสาหกรรมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตผ้า โรงงานผลิตสบู่ ผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ เป็นต้น
นิยมนำมาใช้
- ใช้ในอุตสาหกรรมโรงชุบและโลหะ ที่ต้องใช้โซดาไฟ
- ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำยาทำความสะอาด
- ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น ยางรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ที่ทำจากยาง
- ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
- ใช้ในอุตสาหกรรมถุงมือยาง
- ใช้สำหรับปรับสภาพความเป็นกรดของน้ำให้เป็นด่าง โดยเฉพาะในระบบบำบัดน้ำเสียที่ต้องปรับความเป็นกรด–ด่างของน้ำ
- ใช้สำหรับการตกตะกอนของแร่ธาตุหรือโลหะหนักในกระบวนการบำบัดน้ำเสีย
- ใช้ฟื้นสภาพของเรซินของระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ
- ใช้ในระบบผลิตน้ำประปา
- ใช้ในอุตสาหกรรมกระดาษ
- ใช้สำหรับอุตสาหกรรมผลิตสบู่
- ใช้ในกระบวนการฟอกย้อมไหม
วิธีใช้ โซดาไฟเกล็ด เพื่อแก้ปัญหาท่อตัน
- เตรียมภาชนะสำหรับผสมโซดาไฟ แนะนำควรเป็นแก้วหรือเหล็กเพื่อป้องกันโซดาไฟกัดกร่อนภาชนะ
- เตรียมโซดาไฟที่จะนำมาใช้ พร้อมน้ำสำหรับผสม โดยใช้สัดส่วนโซดาไฟ 50-100 กรัมต่อน้ำประมาณ 0.5-1 ลิตร
- คนโซดาไฟให้ละลายทั้งหมด ในขั้นตอนนี้มักจะมีควันและความร้อนเกิดขึ้น ดังนั้นในขั้นตอนนี้ผู้ใช้งานควรสวมถุงมือ ใส่แว่นป้องกัน และหน้ากากเพื่อป้องกันไม่ให้ควันระเหยเข้าตา จมูก และปาก
- นำส่วนผสมที่ละลายดีแล้วเทลงในท่อ หรือชักโครกที่มีปัญหา
- รอสักประมาณ 10-20 นาทีเพื่อให้โซดาไฟแก้ปัญหาคราบน้ำมัน เศษอาหาร หรือเส้นผมอุดตัน
- เทน้ำสะอาดตามลงไปเพื่อชำระล้างโซดาไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้โซดาไฟแข็งตัวอุดตันท่อในกรณีที่เลือกใช้โซดาไฟชนิดเกล็ดหรือผง แต่หากต้องการให้โซดาไฟละลายเร็วขึ้นให้ต้มน้ำให้เดือดแล้วนำมาราดลงไปในโถชักโครก
สิ่งที่ควรระมัดระวังเมื่อใช้โซดาไฟเกล็ด
ละอองของโซดาไฟทำให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุระบบทางเดินหายใจถ้าสูดไอหรือฝุ่นโซดาไฟเข้าไป นอกจากนั้นอาจส่งผลทำให้ปอดระคายเคืองหรืออักเสบ
ถ้าโซดาไฟสัมผัสผิวหนัง โดยเฉพาะโซดาไฟมีความเข้มข้นสูงจะทำให้เกิดแผลพุพอง และเกิดแผลเป็นได้ นอกจากนี้ถ้าสัมผัสไอของโซดาไฟเป็นเวลานานจะทำให้ผิวหนังแห้ง แตกสะเก็ดเป็นแผล และถ้าสัมผัสตาจะเกิดการระคายเคือง ทำลายเนื้อเยื่อ เป็นต้อหินหรือต้อกระจก และอาจตาบอดได้
ถ้าเข้าปากและไปถึงทางเดินอาหารทำให้เกิดการกัดกร่อนอย่างรุนแรงต่อเนื้อเยื่อทางเดินอาหาร ทำให้เกิดแผลที่ช่องปาก และลำคอไหม้ ปวดท้อง ท้องเสีย อาเจียน วิงเวียนจนอาจถึงตายได้ และอาจกลายเป็นมะเร็งในเวลา 10-20 ปีได้
ดังนั้นเมื่อใช้งานควรแต่งกายให้รัดกุมทั้งผ้าปิดจมูก สวมถุงเท้า ถุงมือ แว่นตากันสารเคมี
คำแนะนำในการใช้โซดาไฟเกล็ด
- อย่าใช้เกิน: การใช้โซดาไฟเกล็ดเกินความจำเป็นอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
- รับประทานน้ำเพิ่มเติม: หลังจากการดื่มโซดาไฟเกล็ด ควรดื่มน้ำเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการขาดน้ำ